23 ธ.ค. 2022 เวลา 12:15 • ความคิดเห็น
วิธีการที่นิยมใช้กันคือ ไม่ว่าจะเป็นหนี้นอกระบบ( จะเป็นกู้แบบชาวบ้านหรือนายทุนก็แล้วแต่ ) หรือหนี้ในระบบ( ธนาคารพานิชย์หรือสถาบันการเงินต่างๆ ) เราสามารถผันหนี้พวกนี้ให้มาอยู่ในความดูแลของรัฐได้ครับ ( ธกส ) จากนั้นค่อยส่งกับทาง ธกส ครับ เขาให้ส่งแค่ปีละครั้ง ปีนี้ถ้าจ่ายเงินต้นไม่ไหว ก็จ่ายดอกไปก่อน ( มีเวลาอีกยาวนานครับ 15-20-30 ปียังได้เลย ) ปีต่อไปถ้าจ่ายเงินต้นพร้อมดอกไหว ก็จ่ายตัดต้นตัดดอกไปเร่ื่อยๆต้นก็จะลดดอกก็จะลด ไม่กี่ปีก็หมดครับ ที่สำคัญ ไม่เป็นเกษตรกรก็สามารถเป็นลูกค้า ธกส ได้ครับ
ถ้าเป็นหนี้นอกระบบ ตวามกดดันจะมีสูง เพราะถ้าหามาจ่ายปิดหนี้ไม่ได้ บ้านรถที่ดิน อาจจะโดนยึด ส่วนธนาคารทั่วไป ดอกกระด้าง จ่ายเงินต้นยังไง ดอกก็ยังเท่าเดิม ก็ทำให้ศักยภาพในการใช้หนี้เราลดลงและอาจจะถูกยึดทรัพย์ถ้าส่งไม่ไหว แต่ที่ ธกส ถ้าจ่ายเงินต้นไม่ไหว ก็จ่ายดอกไปก่อน เงินต้นไม่ลดก็จริง แต่เราจ่ายดอกไป มันก็จะตัดความกังวลใจไปได้ มันทำให้เรามีเวลาอีกหนึ่งปี ในการหาเงินมาจ่ายหนี้แบบตัดต้นตัดดอก ยิ่งเงินต้นลดลงเหลือน้อยเท่าไหร่ ดอกก็จะลดลงไปเรื่อยๆครับ เราก็จะเหนื่อยน้อยลงครับ
เขาให้จ่ายปีละครั้ง แต่ถ้าเรามีเงินพอจ่ายปีละ 2 -3 ครั้ง ก็ยิ่งดีครับ เงินต้นและดอกจะลดลงเร็วมาก โอกาสหมดหนี้ก็จะไวกว่าเดิมหลายเท่าครับ มันมีหลายออฟชั่นให้เราทำได้ครับ
ข้อคิดเรื่องเงินต้นและดอกเบี้ยคือ ถ้าเราจ่ายแค่ดอกอย่างเดียวไปเรื่อยๆ โดยไม่จ่ายเงินต้น ดีไม่ดีดอกที่เราจ่ายไปนั้น มันจะมากกว่าเงินต้นที่เรากู้ยืมอีกนะครับ ตัวอย่างเช่น บางคนกู้เงิน 150,000 บาท เราจ่ายดอกอย่างเดียว ปีละ 10000+ บาท และจ่ายแบบนี้มา 20 ปี เท่ากับว่าเราจ่ายดอกเบี้ยไปแล้ว 200,000 บาท เลยนะครับ ( มากกว่าเงินต้นอีก ) ดังนั้น ถ้าจะจ่ายแค่ดอกอย่่างเดียว อย่าให้มันต่อเนื่องนานหลายปี และเมื่อเรามีเงินพอจ่าย ก็จ่ายต้นและดอกพร้อมกัน มันจะได้ตัดต้นตัดดอกได้ครับ
โฆษณา