EP : 788 (repost)
RIOT OF THE WORLD พลิกฟ้าผ่าคัมภีร์มรณะ
สำหรับเรื่องนี้แล้วเป็นผลงานที่ต้องเรียกว่าเก่าระดับนึงเลยครับ เพราะด้วยปีที่พิมพ์ในไทยคือปี 2544 ซี่ง ณ ปัจจุบันก็ 20 ปี พอดีได้ผมว่าหลายๆคนคงไม่เคยเห็น หรือเคยเห็นแต่ไม่ได้สนใจหามาอ่าน สำหรับผมดองมานานมากกับเรื่องนี้เพราะไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้กันเลย เอาเป็นว่ารอบนี้ขอรีวิวการ์ตูนเก่า เงียบๆ เรื่องนี้นะครับ “RIOT OF THE WORLD พลิกฟ้าผ่าคัมภีร์มรณะ”
เรื่องราวใน “RIOT OF THE WORLD พลิกฟ้าผ่าคัมภีร์มรณะ” เริ่มต้นขึ้นเมื่อ จอมโจรเลืองชื่ออย่าง “บิลลี่ เดอะ คิดส์” หลังจากที่ใช้เวลาอย่างยาวนานและฝ่ากับดักอันตรายต่างๆมาอย่างยากเย็นในที่สุด เขาก็มาถึงสถานที่ที่เขาตามหา “วิหารศักดิ์สิทธ์ แห่งราชวงค์ตะวันตก” คือหนึ่งในเรื่องเล่าของขุมทรัพย์ในตำนานและ “คัมภีร์ไรออทแห่งตะวันตก” ซึ่งผู้คนปรารถนา
เพราะหากใครได้คัมภีร์ตะวันตกและตะวันออกครอบครองคู่กันแล้ว “เวทย์มนต์” ที่สาบสูญก็จะปรากฎกับคนผู้นั้น แต่สิ่งที่บิลลี่เดอะคิดส์ ไม่คาดคิดก็คือ ในวิหาร ยังมีอีกสิ่งนึงที่คอยปกป้องไม่ให้เหล่าโจรหรือผู้หวังในสมบัติได้คัมภีร์ไรออท เล่มนี้ไป และนี่คือจุดเริ่มต้นของการพบกันระหว่าง บิลลี่เดอะคิดส์และ “อาเซล” ผู้ปกป้องและกุมชะตากรรมแห่งราชวงค์ตะวันตก
นี่เป็นการ์ตูนแนวผจญภัย แฟนตาซีในโลกแห่งการต่อสู้อีกเรื่องนึงนะครับ ซึ่งจากที่ผมอ่านนี่เป็นอีกเรื่องที่มีหลายอย่างที่ดี และหลายอย่างที่ไม่ใช่ครับ เพื่อเห็นภาพได้ชัดว่าผมรู้สึกอย่างไรหลังอ่านเรื่องนี้ผมขอบอกเป็นจุดเด่นจุดด้อยของเรื่องนี้เป็นหลักให้อ่านกัน เพราะน่าจะเข้าใจได้ง่ายนะครับ
จุดเด่นของเรื่องนี้ที่ชัดเจนมากๆคือเรื่อง งานดีไซน์ งานวาด ครับ เพราะตั้งแต่หน้าแรกเลยเรื่องนี้วาดสวยมากกกกก เป็นอีกเรื่องที่วาดถ่ายทอดองค์ประกอบทุกอย่างได้อย่างดีมากๆ ถือเป็นงานที่โดดเด่นในการวาดเลยครับ โลกแห่งการผจญภัยและต่อสู้เป็นอย่างไร แม้ดีไซน์องค์ประกอบหลายอย่างจะดูไม่แตกต่างจากเรื่องประมาณนี้เท่าไหร่นักก็ตาม
แต่ก็ยังโดดเด่นออกมาได้ดีในหมู่เนื้อเรื่องแบบนี้ครับ งานวาดคนแม้ผมจะไม่ได้ชอบการวาดใบหน้าของตัวละครในเรื่องนี้นัก แต่นอกนั้นมันคือดีงามไปทั้งหมดครับ องค์ประกอบเสื้อผ้า ตัวละครพวกนี้ผมถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ช่วยดึงดูดสายตาและทำให้เราอยากอ่านเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ แม้เนื้อหาจริงๆที่อยู่ตรงหน้ามันไม่ได้พีคอะไร หรือสนุกก็ตาม แต่เราก็ยังอยากอ่านหน้าต่อไป เพราะภาพมันดีงามครับ
คราวนี้มาดูปัญหาของเรื่องนี้กันบ้างนะครับ ปัญหาของเรื่องนี้ก็คือ “เรื่องมันไปไม่สุด และไม่รู้ว่าต้องการนำเสนออะไรกันแน่ครับ” คือทั้งๆที่งานภาพดีมากแล้วและทำให้เรื่องน่าอ่าน ชักชวนให้คนหันมาสนใจไม่ยาก เรื่องกลับเป็นปัญหาใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อครับ ตัวเนื้อเรื่องเริ่มต้นมาไม่ได้ถือว่าดี หรือแย่อะไร เพราะเป็นพล็อตแนวผจญภัยทั่วไป แต่การวางโครงเรื่อง บทบาท และความสัมพันธ์ รวมถึงเป้าหมายของการเล่า ทุกอย่างมันอ่อนมากๆครับ
เรียกว่าเรื่องบทและการเล่าหรือโครงเรื่องมันมีปัญหาไปซะทุกอย่าง ตัวละครเอกแต่ละตัวในเรื่องมีปัญหาในบทบาทตัวเองหมด อย่างพระเอกเรา บิลลี่เดอะคิดส์ ที่เรื่องเซ็ทเอาไว้ว่านี่คือโจรที่มีชื่อเสียงโด่งดังและมีศัตรูคู่อาฆาตเยอะ แต่ที่ผมเห็นในเรื่องคือโจรเยาะแยะที่ไม่เห็นมีพลัง ความสามารถ หรืออาวุธพิเศษอะไรที่จะทำให้ทุกคนกลัวเลย
แน่นอนตัวเอกแนวนี้ที่ถูกสร้างมาให้กระล่อนหรือท่าดีทีเหลว มีเยอะ แต่บทมันจะมีเหตุผลซัพพอร์ทมาให้เห็นตอนใดก็ตอนหนึ่งถึงความสามารถของตัวเอกจริงๆ แต่เรื่องนี้ไม่มีอย่างไรก็ไม่มีอย่างนั้น ผมเห็นต่อสู้แต่ละที ไม่มีอะไรมาให้รู้สึกว่านี่คือพระเอกนอกจากวาดออกมาเท่แค่นั้นครับ หรือแม้แต่นางเอกอย่าง “อาเซล” ที่มีบทบาทสำคัญของราชวงศ์ตะวันตก เอาจริงๆก็เป็นได้แค่เด็กผู้หญิงที่ถือปืนไล่ยิงไปทั่ว แค่นั้นจริงๆ ความรู้ พลังอะไร ไม่มีแฝงให้เห็นเลยครับ เป็นตัวละครทั่วไปมากๆ ไม่สมกับการปั้นให้เป็นนางเอกเลย
หรือแม้แต่ตัวร้ายของเรื่องซึ่งเป็นบอสใหญ่สุด ตั้งแต่ทีแรกที่ดูเหมือนโหด แต่จริงๆ ผมยังไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ที่ทำเรื่องร้ายเลย แม้จะบอกว่าเพราะต้องการช่วยคนสำคัญ แต่ตั้งแต่ต้นเรื่อง เรื่องไม่สามารถสร้างเหตุผลหรือบอกคนอ่านอย่างผมได้ว่า ทำเรื่องร้ายเพราะเรื่องแบบนี้เพื่อเหตุผลแบบนี้จริงๆเหรอ
การสร้างเหตุผลเรื่องนี้ไม่สามารถทำให้มีน้ำหนักได้เลย เพราะแบบนั้นไม่ว่าเรื่องจะเล่าอะไรออกมา แม้ภาพมันจะดี แต่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเชื่อ หรือเข้าใจในเหตุผลของเรื่องได้เลยครับ
เรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครก็เป็นอีกปัญหานึงของเรื่องนี้ครับ เพราะมันสื่อสารออกมาได้เบามากๆ แต่อยากให้เรารู้สึกหนักๆ ซะงั้นครับ อย่างตัวละครสองตัวเองพระเอกนางเอกเรา ที่เราก็เห็นว่าเพิ่งมีบทกันไม่เท่าไหร่ แถมยังเพิ่งรู้จัก แต่อยู่ๆ เรื่องก็พาให้เห็นว่าทั้งคู่รักกันซะงั้น โดยระหว่างทางมันออกแนวเด็กผู้หญิงกับผู้ใหญ่ไม่เอาไหนด่าทอ ทะเลาะกันเรื่องคัมภีร์มากกว่า
และต้องเดินทางด้วยกันด้วยสถานะการณ์บังคับอันเนื่องมาจากคัมภีร์ แต่อยู่ๆ พอถึงฉากที่ต้องสูญเสีย ทั้งคู่กับเปิดเผยความรักระหว่างกัน ทำให้คนอ่านอย่างผมเกิดคำถามว่า ที่ตรูอ่านมาตรงไหนมันมีเยื่อใยความสัมพันธ์ของคนทั้งสองคนเนี่ย ผมไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยครับ ทำให้เมื่ออ่านผมไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่เรื่องกำลังสื่อสารมา อันนี้คือตัวหลักนะครับ ยังมีตัวละครหลายตัวมากที่ผมงงกับความสัมพันธ์ที่เรื่องพยายามบอกเรา แต่เราไม่ได้เข้าใจหรือเห็นด้วยกับสิ่งที่สื่อสารออกมาครับ
ผมว่าเรื่องนี้เล่นใหญ่มาก ผมหมายถึงเซ็ทหลายๆอย่างให้ยิ่งใหญ่ไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง หรือองค์ประกอบ แต่เวลาเอามาเล่นจริงๆ กลับพบว่าตัวละครหรือบทที่บอกกล่าวไว้ว่าไอ้นี่เจ๋ง ไอ้นี่เก่ง ไอ้นี่น่ากลัว แท้จริงแล้วไม่ได้เก่งอย่างที่บอก
แม้ฉากต่อสู้มันจะดูอลังการณ์และดูน่าสนใจด้วยภาพก็ตาม แต่เราก็เห็นๆอยู่ว่าฉากต่อสู้อลังการณ์นี้นั้น ตัวละครสู้ได้ปวกเปียกมากๆ เหมือนกับคนวาดไม่ต้องการให้ตัวละครตัวเองเก่งจริงๆ ซะงั้น ทั้งๆที่เซ็ทเอาไว้และบอกให้เรารู้ล่วงหน้าแล้วว่าตัวละครนี้มันน่ากลัวและเก่งจริงๆนะ แบบนั้นครับ
แม้จริงๆแล้วแก่นของเรื่องหรือสิ่งที่เรื่องต้องการนำเสนอนี่ผมรับรู้ได้นะว่ามันโอเค โดยภาพรวมของเนื้อเรื่องมันจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นเนื้อหาตอนเล่าเรื่องและเปิดตัวตัวละครและสถานะการณ์ของทั้งสองฝ่ายคือสั่งตะวันตกและตะวันออก และเนื้อหาส่วนที่สองคือการต่อสู้กันระหว่างสองฝั่งที่ว่าอย่างจริงจัง ถ้าถามผม ผมชอบเนื้อหาส่วนที่สองมากกว่า
เพราะมันมีฉากต่อสู้มากขึ้นแม้สเกลพลังหรือการต่อสู้แต่ละครั้งผมจะงงๆ มันด้วยพลังความสามารถของแต่ละตัวละครที่มันดูด้อย แต่ฉากและดีไซน์ตัวละครนี่มันยิ่งใหญ่ เหมือนอารมณ์คนใส่เกราะเท่ๆ ทรงพลังมาต่อยกันแปะๆ แต่มีเสียงดังตูม ระเบิดระเบ้อ แต่ภาพที่เราเห็นมันไม่ไปตามเสียงหรือความอลังที่ใส่มาแบบนั้นครับ
เนื้อหาส่วนที่สองผมว่ามีความคล้ายเรื่อง BASTARD ไม่ใช่น้อยนะครับ มันมีกลิ่นอายอย่างนั้นจริงๆ เพียงแต่ตัวละครมันไม่ได้ตรงกันครับ คือในความคิดผมตัวละครมันมีส่วนที่คล้ายกันหลายตัวแต่มันโยงผสมไปกันหมดไปทุกฝ่าย แต่กลิ่นมันมาให้รู้สึกอย่างมาก ซึ่งหากใครเคยได้อ่าน BASTARD มาก่อน
เมื่อมาอ่านเนื้อหาส่วนที่สองจะรู้สึกเหมือนผมแน่นอน
ในแง่ของอารมณ์และความมันส์ในช่วงสองนี้ผมว่ามันทำได้ดีขึ้น องค์ประกอบอะไรหลายๆอย่างยกระดับขึ้นมาได้น่าสนใจ แต่เพราะยังมีความไม่ชัดเจนในการนำเสนอรวมถึงพลังต่างๆที่ต้องมาใช้ ทั้งฝั่งดีและร้าย ทำให้เรื่องมันไปไม่สุดอย่างที่ผมต้องการครับ ได้แต่ชมภาพสวยๆ และงานดีไซน์โลกในตอนนั้น และได้เห็นตัวละครเท่ๆ ที่เหมือนมีพลังแม้จะคล้ายตัวละครใน BASTARD มากๆก็ตาม
แต่ผมก็โอเคนะ เพราะเขาวาดออกมาดีจริง และมีดีไซน์บางอย่างที่มีรูปแบบเฉพาะของเขาครับ แต่อย่างว่า เมื่อบท มันไม่ใช่และแนวทางในการนำเสนอไม่ตรงกับความพีคที่ได้สร้างสรรค์ มันก็เลยเป็นงานที่เราได้เสพงานภาพสวยๆ แทนที่จะได้อ่านการ์ตูนสนุกๆในธีมการผจญภัยและต่อสู้อันดุเดือดครับ
“RIOT OF THE WORLD พลิกฟ้าผ่าคัมภีร์มรณะ” เป็นผลงานของ อ. ซาโตมิ ชิกิ มีทั้งหมด 3 เล่มจบ เป็นผลงาน LC ของค่าย สยามอินเตอร์คอมมิคครับ ด้วยเรื่องนี้ออกมานานแล้วใครสนใจต้องมองหาในตลาดมือสองอย่างเดียวแล้วครับ
นี่เป็นอีกเรื่องที่ผมรู้สึกว่าแนะนำให้คนอ่านลำบาก คือ จะบอกว่าไม่สนุกไม่ให้อ่าน ก็พูดยาก เพราะแม้เนื้อเรื่องจะอ่อนและเล่าได้ไม่สุด กั๊กๆ อยู่หลายจุด แต่งานวาด และการออกแบบเรื่องนี้ดีไม่เป็นรองใครครับ และยิ่งภาพไม่เซ็น จุกมาขนาดนี้ซึ่งหาได้ไม่ง่ายในงานยุคนั้นที่จะปล่อยภาพออกมาแบบนี้ครับ เป็นเรื่องที่เนื้อหาอ่านง่ายครับ
และมันก็ง่ายเกินไปด้วยซ้ำกับโครงเรื่องที่มันไปได้ไกลได้กว่านี้เยอะครับ และแม้เรื่องนี้จะมีช่วงท้ายที่มีกลิ่นเรื่อง BASTARD อยู่แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าตรงจุดนี้เป็นเรื่องน่าตำหนินะครับ พล็อตคล้ายๆ การเล่าเรื่องคล้าย ๆ นี้ไม่ใช่ปัญหาครับ ถ้าเล่าเรื่องสนุก และทำได้สุดตามสไตล์เรื่องแนวนี้ นี่ต่างหากสิ่งที่อยากบ่น เพราะแบบนั้นเรื่องนี้เลยเป็นการ์ตูนที่ภาพสวย แต่เนื้อเรื่องอ่อนไปได้ ทั้งๆที่ทางที่ทำออกมานั้นมันน่าอ่านน่าติดตามมากๆก็ตามครับ ใครชอบงานภาพสวย และเนื้อเรื่องอ่านง่ายๆ เรื่องนี้ตอบโจทย์ครับ
ภาพ 9.7/10
เนื้อเรื่อง 6.5/10
ความประทับใจ 7/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #3เล่มจบ #SiamInterComics #การ์ตูนแนวผจญภัย #การ์ตูนแนวแฟนตาซี #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวต่อสู้ #7คะแนน #พลิกฟ้าผ่าคัมภีร์มรณะ #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #สยามอินเตอร์คอมมิค
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
