8 ม.ค. 2023 เวลา 11:17 • บันเทิง

ย้อนรอย…วันวาน

ไม่น้อยไปกว่าห้าสิบปีที่แล้ว คอหนังฝรั่งไม่มีใครไม่รู้จักสายลับชาวอังกฤษสุดเก่งชื่อ James Bond ที่มีรหัสลับในการทำงานคือ 007 หรือ ดับเบิ้ลโอ เซเว่น ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์ของ Ian Fleming นิยายที่ทยอยออกมาเป็นชุด โดยเรื่องแรกที่เขาเขียนคือ Casino Royale ในปี ค.ศ. 1953
ในปี ค.ศ. 1962 ภาพยนตร์ James Bond เรื่องแรกที่ออกฉาย คือ Dr. No โดยผู้ที่มารับบทเป็นเจมส์ บอนด์ คนแรก คือพระเอกชาวอังกฤษชื่อ Sean Connery หรือ ฌอน คอนเนอรี่ ร่วมกับดาราสาวเซ็กส์บอมบ์ เออร์ซูล่า แอนเดรส ที่ถือว่าเป็น Bond Girl คนแรกเช่นกัน และกลายเป็นประเพณีที่ทุกๆ ตอนของภาพยนตร์เรื่องนี้ พระเอกจะต้องประกบกับสาวสวยเซ็กซี่ที่เป็น Bond Girl
ฌอน คอนเนอรี่ ประสบความสำเร็จจากบทบาทของเจมส์ บอนด์ อยู่นานเกือบสิบปี จากภาพยนตร์ในตอนต่างๆ อาทิ From Russia with Love, Gold Finger และ Diamonds are Forever ที่นอกจากคนดูจะตื่นตาตื่นใจไปกับความเซ็กซี่ของ Bond Girl ที่สลับหน้าเปลี่ยนกันมาในทุกๆ ตอนแล้ว ยังมีเรื่องของโลเคชั่นสวยๆ ตามประเทศต่างๆ ที่พระเอกต้องเดินทางไปทำภารกิจลับ ตามที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าที่ใช้รหัสลับว่า M พร้อมอาวุธหรือยานพาหนะสารพัด ตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงเครื่องบินที่สุดไฮเทค ล้ำยุค ประดิษฐ์ขึ้นมาสำหรับสายลับ 007 คนเดียวโดยเฉพาะ
ฌอน คอนเนอรี่ ส่งไม้ต่อให้กับเจมส์ บอนด์ คนที่สอง คือ Roger Moore พระเอกชาวอังกฤษที่โด่งดังมาจากบท Simon Templar สายลับชาวอังกฤษ จากทีวีซีรีส์เรื่อง The Saint ที่ออกฉายตอนแรกในปี ค.ศ. 1962 ตั้งแต่สมัยทีวียังเป็นจอภาพขาวดำ และไทยทีวีสีช่อง 3 เคยนำซีรีส์เรื่องนี้มาฉายในเมืองไทย เมื่อตอนเป็นจอสีแล้วในปีหลังๆ
Roger Moore หรือ โรเจอร์ มัวร์ รับบทเป็นเจมส์ บอนด์ ครั้งแรกใน Live and Let Die ในปี ค.ศ. 1973 แต่ที่คนไทยฮือฮาและตื่นเต้นเป็นพิเศษกว่าทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา คือเรื่องที่สองของเขาในปี ค.ศ. 1974 นั่นคือ The Man with The Golden Gun ที่เมื่อเข้าฉายในบ้านเรา ใช้ชื่อว่า ‘007 เพชฌฆาตปืนทอง’
คนไทยตื่นเต้นกับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะได้ยกกองมาถ่ายทำถึงในเมืองไทย นอกเหนือไปจาก ฮ่องกง และ มาเก๊า เราได้เห็นสายลับ 007 ไล่ล่าผู้ร้ายไปตามท้องถนนในกรุงเทพฯ ตลาดน้ำวัดภาษีเจริญ สนามมวยลุมพินี และที่สร้างชื่อเสียงให้กับการท่องเที่ยวของเมืองไทยเป็นพิเศษ คือ เกาะตาปู ที่พังงา ที่ถูกเซ็ตขึ้นมาให้เป็นเกาะส่วนตัวของผู้ร้ายในเรื่อง ทำให้ในภายหลังนักท่องเที่ยวรู้จักเกาะนี้กันเป็นอย่างดีในชื่อ James Bond Island
นอกจากนั้น…ยังได้มีการนำนักแสดงไทยมาร่วมแสดงสมทบในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย และที่คนไทยฮือฮาเป็นพิเศษ คือสาวน้อยนักบู๊ที่ชื่อ ‘จอย เวชชาชีวะ’
ในยุคนั้น…ฝรั่งเพิ่งเริ่มหันมาสนใจศิลปะการป้องกันตัวของคนเอเชียอย่าง กังฟู และคาราเต้ จึงได้มีการบรรจุฉากการต่อสู้ด้วยศิลปะเหล่านี้ลงในภาพยนตร์ โดยคุณจอย เวชชาชีวะ รับบทเล็กๆ เป็นผู้ช่วยของพระเอกเจมส์ บอนด์ ด้วยความสามารถพิเศษทางด้านคาราเต้ของเธอ
คุณจอย เวชชาชีวะ หรือชื่อจริงคือ คุณพัชรินทราภรณ์ เวชชาชีวะ มีอายุเพียง 15 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.ศ. 2 ที่โรงเรียนมาแตร์เดอี ในขณะนั้น เป็นเด็กสาววัยรุ่นที่มากไปด้วยความสามารถ เพราะก่อนที่จะได้รับการคัดเลือกให้มาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น เธอเรียนคาราเต้กับครูชาวเกาหลีมานานถึง 7 ปี จนได้สายดำสองดั้ง และใช้เวลาว่างมาเป็นครูสอนคาราเต้อยู่ที่สมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ นอกจากเรื่องบู๊ๆ แล้ว เธอยังมีความสามารถในการเต้นบัลเลต์อีกด้วย
หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในเมืองไทยเมื่อปี พ.ศ. 2517 คุณจอย ก็ได้รับความสนใจจากสื่อและประชาชนทั่วไป กลายเป็นคนดัง มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ขึ้นปกและให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆ รวมถึงนิตยสารลลนาเล่มนี้ ที่คุณจอยขึ้นปกเล่มที่ 43 ปักษ์แรก ตุลาคม 2517 ด้วยแฟชั่นจากร้าน พี พี ชั้นสาม ศูนย์การค้าสยาม แฟชั่นเซ็ตนี้ถ่ายภาพโดยคุณทำเนียบ หรือคุณทอม เชื้อวิวัฒน์ ช่างภาพชื่อดังในยุคนั้น
และอีกเล่ม คือนิตยสารดิฉัน ฉบับปฐมฤกษ์ เล่มแรก 15 กุมภาพันธ์ 2520 ที่เธอขึ้นปกคู่กับคุณวรชุน อยู่จินดา ในธีมคู่รัก ฉลองเทศกาลวันวาเลนไทน์
นับเป็นเวลานานกว่าสี่สิบแปดปีแล้ว ที่ภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ เรื่องนี้ออกฉาย ปัจจุบัน…คุณจอย เวชชาชีวะ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ที่นครซิดนีย์ ออสเตรเลีย
เลยขอย้อนรอย…นำเรื่องราวของเธอในวันวาน มานำเสนอกันในวันนี้
โฆษณา