11 ม.ค. 2023 เวลา 09:07
ฎีกาที่ 6308/2558
คดีนี้โจทก์ทั้งเก้าในฐานะทายาทโดยธรรมของนายแผน ผู้ตาย ฟ้องจำเลยทั้งสี่ในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายให้แบ่งทรัพย์มรดกของผู้ตายให้แก่โจทก์ทั้งเก้า และศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายจัดการแบ่งมรดกตามบัญชีทรัพย์ ยกเว้นที่ดินโฉนดเลขที่ 28421
และเลขที่ 6048 อันดับที่ 533 หมวด ค เฉพาะส่วนที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมเส้นสีแดงในแผนที่ ให้แก่โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 7 ที่ 8 และที่ 9 คนละ 1 ใน 15 ส่วน และผู้ร้องสอดทั้งสามคนละ 1 ส่วน ของจำนวน 2 ใน 17 ส่วน จึงเป็นกรณีที่คำพิพากษาของศาลกำหนดให้จำเลยทั้งสี่ในฐานะผู้จัดการมรดกแบ่งทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องให้แก่โจทก์ทั้งเก้าและผู้ร้องสอดทั้งสามตามอัตราส่วนแบ่งตามคำพิพากษา
ซึ่งการแบ่งทรัพย์สินนั้น จำเลยทั้งสี่อาจกระทำได้โดยให้แบ่งทรัพย์สินนั้นเองระหว่างเจ้าของรวม ถ้าเจ้าของรวมไม่สามารถตกลงแบ่งกันเองได้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ต้องถือว่าจำเลยทั้งสี่ไม่อาจจัดสรรแบ่งทรัพย์สินได้ จำเลยทั้งสี่ก็ชอบที่จะนำออกขายทอดตลาดอันเป็นการบังคับตามคำพิพากษาในลำดับถัดไปแล้วนำเงินที่ได้จากการขายนั้นมาแบ่งให้แก่โจทก์ทั้งเก้าและผู้ร้องสอดทั้งสามตามอัตราส่วนแบ่งต่อไป
แม้ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์บางคนและผู้ร้องสอดทั้งสามยินยอมให้ใส่ชื่อของตนถือกรรมสิทธิ์รวมตามอัตราส่วนแบ่งของแต่ละคนในโฉนดที่ดินมรดกก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ที่ 5 ในฐานะเจ้าของรวมซึ่งมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งในที่ดินมรดกทุกแปลงของผู้ตายอีกคนหนึ่งมิได้ยินยอม ก็ต้องถือว่าการแบ่งทรัพย์สินนั้นจำเลยทั้งสี่ไม่อาจกระทำได้ด้วยความยินยอมของเจ้าของรวมทุกคน ทั้งกรณีเป็นการแบ่งทรัพย์สิน
มิใช่การทำนิติกรรมในอันที่โจทก์ที่ 5 จะให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทนจำเลยทั้งสี่ในการแบ่งมรดกได้ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย โจทก์ที่ 5 ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจึงมีสิทธิขอให้ออกหมายบังคับคดีตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อบังคับยึดที่ดินมรดกตามบัญชีทรัพย์เอกสารท้ายคำฟ้องตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นออกขายทอดตลาดได้
การที่ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีตามคำขอของโจทก์ที่ 5 นั้นชอบแล้ว คำสั่งและคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองที่ให้เพิกถอนหมายบังคับคดีนั้น จึงไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
เมื่อโจทก์ที่ 5 ได้ร้องขอให้บังคับคดีและเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดทรัพย์สินทั้งหมดตามบัญชีทรัพย์ ซึ่งโจทก์ที่ 5 มีสิทธิที่จะได้รับส่วนแบ่งตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นภายในกำหนดสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษาถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 แล้ว
แต่การบังคับคดียังไม่แล้วเสร็จ เจ้าพนักงานบังคับคดีย่อมมีอำนาจดำเนินการบังคับคดีต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นได้ แม้จะพ้นกำหนดเวลาการบังคับคดีดังกล่าวแล้วก็ตาม จึงถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษที่จะขยายระยะเวลาการบังคับคดีให้แก่โจทก์ที่ 5 (พิพากษากลับให้ยกคำร้องของโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 7 ถึงที่ 9)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา