11 ม.ค. 2023 เวลา 09:26
ฎีกาที่ 10422/2558
โจทก์ฟ้องหย่าจำเลยและขอเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองและอุปการะเลี้ยงดูเด็กชาย ม. จำเลยให้การว่า โจทก์ว่าจ้างจำเลยให้จดทะเบียนสมรส และใช้วิทยาการทางการแพทย์โดยการผสมเชื้ออสุจิเพื่อตั้งครรภ์เด็กชาย ม. ให้โจทก์ โดยไม่เคยได้ใช้ชีวิตดังสามีภริยาเลย เมื่อเด็กชาย ม. คลอด โจทก์ไม่ส่งเงินมาให้ ไม่ชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรแต่กลับขู่ให้ส่งมอบบุตรให้ ขอให้ยกฟ้อง
คดีนี้ศาลได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า การจดทะเบียนสมรสของโจทก์และจำเลยเป็นโมฆะหรือไม่ โดยให้จำเลยมีภาระการพิสูจน์ในประเด็นดังกล่าวไว้ จนได้ข้อเท็จจริงอันรับฟังได้เป็นยุติว่า การจดทะเบียนสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นการจดทะเบียนที่ปราศจากความยินยอมที่จะอยู่กินฉันสามีภริยากันอย่างแท้จริง
เนื่องจากโจทก์กับจำเลยจดทะเบียนสมรสกันเพราะโจทก์ตกลงว่าจ้างจำเลยให้ตั้งครรภ์บุตรให้แก่โจทก์ด้วยวิธีการผสมเทียมโดยต่างไม่ยินยอมเป็นสามีภริยากันอย่างแท้จริงและไม่ประสงค์จะอยู่กินร่วมกันฉันสามีภริยา จึงเป็นการสมรสที่ผิดเงื่อนไขตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1458 ซึ่งมีผลให้การสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1496 วรรคหนึ่ง
เมื่อจำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีว่า การสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะและขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีและกฎหมาย จึงถือได้ว่าเป็นกรณีที่จำเลยซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียร้องขอต่อศาลให้การสมรสเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1496 วรรคสอง แล้ว
ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลจึงมีอำนาจพิพากษาว่าการสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะได้ กรณีไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
แม้การสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะ แต่เมื่อบุตรผู้เยาว์คลอดระหว่างที่ศาลยังไม่ได้มีการพิพากษาว่าการสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะ
ผู้เยาว์จึงเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1536 วรรคสอง ในส่วนของอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์นั้น แม้โจทก์กับจำเลยในฐานะเป็นบิดามารดาของผู้เยาว์เป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ร่วมกัน แต่เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยเป็นฝ่ายเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์เพียงคนเดียวมาตั้งแต่ผู้เยาว์เกิด ไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์เสียหายใด ๆ
ต่อสวัสดิภาพและอนาคตของผู้เยาว์ ส่วนโจทก์ไม่เคยกลับมาประเทศไทยและไม่เคยดูแลผู้เยาว์อย่างใกล้ชิด ดังนั้น ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรกำหนดให้จำเลยเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์ในส่วนของอำนาจปกครองในการกำหนดที่อยู่ของผู้เยาว์ แต่เพียงผู้เดียวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1499/1 และ 1567
(พิพากษากลับว่า การสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะ ให้แจ้งนายทะเบียน...เพื่อบันทึกความเป็นโมฆะไว้ในทะเบียนสมรส กับให้โจทก์กับจำเลยมีอำนาจปกครองเด็กชาย ม. ผู้เยาว์ร่วมกัน แต่ให้จำเลยเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองในการกำหนดที่อยู่ของผู้เยาว์แต่เพียงผู้เดียว ให้ยกฟ้องโจทก์)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา