12 ม.ค. 2023 เวลา 11:48 • ประวัติศาสตร์

“ค.ศ.1816 (พ.ศ.2359)” ปีที่ปราศจากฤดูร้อน

ปีค.ศ.1816 (พ.ศ.2359) เป็นปีที่เป็นที่รู้จักในฐานะของ “ปีที่ปราศจากฤดูร้อน”
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องจากได้เกิดการระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ในบริเวณดินแดนของอินโดนีเซียในปัจจุบัน ทำให้ฝุ่นและเถ้าถ่านคละคลุ้งไปทั่วชั้นบรรยากาศ
ท้องฟ้านั้นถูกบดบังด้วยเมฆหมอก อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว และอากาศที่หนาวจัดประกอบกับแสงแดดที่น้อยก็ทำให้การเพาะปลูกได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบตั้งแต่จีนไปจนถึงฝรั่งเศส
1
ในปีค.ศ.1816 (พ.ศ.2359) ยังเป็นปีที่ได้รับการบันทึกว่าเป็นปีที่ฤดูร้อนในยุโรปมีอากาศเย็นที่สุด โดยอุณหภูมิในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกนั้นต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยสามองศาเซลเซียส ทำให้ฤดูร้อนดูเหมือนฤดูหนาวมากกว่า ซ้ำด้วยฝนที่ตกหนัก ทำให้การเพาะปลูกล้มเหลว และเกิดน้ำท่วม
ผลที่ตามมาคือภาวะข้าวยากหมากแพง โดยในปีค.ศ.1816 (พ.ศ.2359) ได้ชื่อว่าเป็นปีที่มีภาวะอดอยากเลวร้ายที่สุดในยุโรปตลอดศตวรรษที่ 19
ทางด้านอเมริกาเหนือก็ถูกโจมตีด้วยหมอกปริศนา เกิดลมพัดตลอดทั้งวัน และฝนก็ตกตลอดฤดูใบไม้ผลิ
ในเวลานั้น ยุโรปเพิ่งจะผ่านพ้นสงครามนโปเลียน (Napoleonic Wars) มาไม่นาน โดยสงครามนี้ส่งผลกระทบต่อชาวนาชาวไร่เป็นจำนวนมาก
ซึ่งภัยธรรมชาติในปีค.ศ.1816 (พ.ศ.2359) นี้ก็ได้กระหน่ำซ้ำเติมพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงคราม ทำให้เกิดความอดอยากไปทั่ว
สงครามนโปเลียน (Napoleonic Wars)
ความอดอยากนั้นบุกไปถึงอังกฤษ ทำให้ผู้คนนับพันเสียชีวิต และเกิดการอพยพของผู้คนจำนวนมาก ส่วนที่ฝรั่งเศส ก็เกิดการจลาจล
ราคาอาหารนั้นพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว ทำให้ประชาชนไม่พอใจและเกิดการจลาจลไปทั่ว
ทางด้านจีนนั้น ก็ต้องเผชิญกับน้ำท่วม ทำให้ข้าวในนาเสียหาย ส่วนที่ไต้หวันก็เกิดหิมะตก เกิดความอดอยากไปทั่วเอเชีย
กว่ากระบวนการผลิตอาหารจะฟื้นตัวและกลับมามั่นคง ก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีเลยทีเดียว
อาจจะเรียกได้ว่าค.ศ.1816 (พ.ศ.2359) เป็นปีที่เลวร้ายที่สุดปีหนึ่งในประวัติศาสตร์โลกเลยก็ว่าได้
โฆษณา