Haruki Murakami
ถ้าถามถึงนักเขียนญี่ปุ่นที่คนไทยรู้จักกันดี และผลงานเคยผ่านสายตากันมาบ้างแล้ว แน่นอนว่าชื่อของ ‘ฮารูกิ มูราคามิ’ คือหนึ่งในชื่อที่หลายๆ คนจะต้องนึกถึงก่อนเป็นลำดับแรก
นั่นเป็นเพราะว่า ‘ฮารูกิ มูราคามิ’ เป็นนักเขียนในยุคนี้ที่ผลงานของเขาได้รับการยอมรับขึ้นแท่นหนังสือขายดี หรือเบสท์ เซลเลอร์ ที่ไม่ใช่แค่เฉพาะในญี่ปุ่น แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไปทั่วโลก รวมถึงในบ้านเราที่ผลงานของเขาได้รับการแปลหลายต่อหลายเรื่อง เผยแพร่ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา
‘ฮารูกิ มูราคามิ’ เติบโตเป็นวัยรุ่นในช่วงยุค 60 ในยุคที่วัฒนธรรมตะวันตกหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศ อันเป็นผลจากการที่ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ‘ฮารูกิ มูราคามิ’ ชื่นชมและหลงใหลวัฒนธรรมตะวันตกที่แฝงไว้ด้วยอิสรภาพและเสรีภาพทางความคิด แตกต่างจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยความเคร่งครัด อันมีผลต่อการดำเนินชีวิต และมีอิทธิพลต่องานเขียนของเขาในเวลาต่อมา
‘ฮารูกิ มูราคามิ’ เติบโตมากับนิสัยรักการอ่าน อันเป็นผลพวงจากการที่ทั้งพ่อและแม่เป็นอาจารย์สอนวิชาสาขาวรรณกรรมกันทั้งสองคน เขาหลงใหลในวรรณกรรมตะวันตกอย่างผลงานของ ฟิโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี และ ชาร์ลส์ ดิกเคนส์ ชื่นชอบกีฬาอย่างเบสบอล รวมถึงหลงใหลในดนตรีแจ๊ส ช่ำชองในเรื่องเพลงแจ๊สเป็นอย่างดี ถึงขนาดเคยเป็นเจ้าของและบริหารแจ๊สบาร์อยู่นานหลายปีก่อนที่จะลงมือจับปากกาเขียนหนังสือ
หลังจากทำตัวเป็นนักอ่านมานาน…’ฮารูกิ มูราคามิ’ เริ่มต้นเขียนหนังสือเป็นครั้งแรกในวัย 29 ปี ด้วยความคิดเริ่มต้นง่ายๆ ที่อยากเขียนเรื่องที่ตัวเองอยากเขียน เริ่มจากผลงานชื่อ Hear The Wind Sing หรือ ‘สดับลมขับขาน’ ในภาคภาษาไทยที่แปลโดย นพดล เวชสวัสดิ์ ‘ฮารูกิ มูราคามิ’ เขียนผลงานชิ้นนี้ในปีค.ศ. 1979 ใช้เวลานาน 10 เดือน หลังจากเขียนจบ เขาได้ส่งผลงานชิ้นนี้เข้าประกวด และได้รับรางวัลชนะเลิศ ทำให้ ‘ฮารูกิ มูราคามิ’ มีกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานอื่นๆ ตามมา
แต่ผลงานที่สร้างชื่อเสียงที่สุด แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการ คือผลงานชื่อ Norwegian Wood หรือในชื่อภาษาไทย คือ ‘ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย’ ในปี ค.ศ. 1987 ผลงานที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ มียอดขายเฉพาะในญี่ปุ่นเองนับล้านๆ เล่ม ทำให้ ‘ฮารูกิ มูราคามิ’ กลายเป็นคนดังขึ้นมาทันที ได้รับทั้งดอกไม้และก้อนหินในคราวเดียวกัน ด้วยการนำเสนอความเหนือจริงหรือ Surreal ของเนื้อหา ที่แตกต่างจากวรรณกรรมสไตล์ญี่ปุ่นทั่วๆ ไป รวมถึงเนื้อหาเกี่ยวโยงกับเพศสัมพันธ์หรือฉากอีโรติกอย่างชัดเจนโจ่งแจ้ง
Norwegian Wood เป็นเรื่องราวของความรักในความทรงจำ รักสามเส้าของชายหนึ่งหญิงสอง เล่าเรื่องตามสไตล์ของเขาด้วยโทนเหงาๆ ผสมผสานด้วยการเยียวยาจิตใจ วิธีเผชิญกับโรคซึมเศร้า ความเจ็บป่วยทางจิต สภาวะสับสนต้องเลือกระหว่างการมีชีวิตกับความตาย เเละวัฒนธรรมฟรีเซ็กส์ของชาวตะวันตก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะได้รับการแอนตี้ การประท้วงจากคนญี่ปุ่นบางกลุ่ม จนทำให้ถึงกับเลือกใช้ชีวิตด้วยการออกเดินทางท่องเที่ยว หรือแม้แต่พำนักอาศัยอยู่ต่างประเทศเป็นระยะเวลานานๆ
หลังจากความสำเร็จของ Norwegian Wood ที่ได้ชื่อมาจากบทเพลงของวงดนตรี The Beatles แล้ว ‘ฮารูกิ มราคามิ’ ยังมีผลงานในระดับมาสเตอร์ พีซ ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ‘ตัวหนังสือของเขาครอบครองหัวใจนักอ่านขี้เหงาทั่วโลก ด้วยตัวละครในนิยายที่มักจะเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกแยกและโดดเดี่ยว เคล้าคลอด้วยดนตรีแจ๊ส บทเพลงคลาสสิก และเหตุการณ์เพี้ยนสุดกู่ที่มักจะปรากฏขึ้นในหนังสือของเขาอยู่เสมอ’*
วันนี้…12 มกราคม คล้ายวันเกิดของ ‘ฮารูกิ มูราคามิ’ ที่ปีนี้ครบ 74 ปีแล้ว เลยขอนำประวัติคร่าวๆ และผลงานอันโดดเด่นของเขา มานำเสนอให้กับใครที่ไม่คุ้นชินกับนักเขียนหรือวรรณกรรมญี่ปุ่นมากนัก มาแนะนำให้ได้รู้จักกันในวันนี้
………………………………………
*จากบทความ ‘ฮารูกิ มูราคามิ: ที่มาของนักเขียนผู้ทำให้นักอ่านได้สัมผัสกับโลกอันเปลี่ยวเหงาผ่านตัวหนังสือ’ โดย พิมพ์ คำภีร์ ในเว็บไซต์ The Standard
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
