12 ม.ค. 2023 เวลา 17:37 • หุ้น & เศรษฐกิจ
วิวัฒนาการทางเศษฐกิจ และความคิดทางเศรษฐศาสตร์
สิ่งที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน ล้วนเคยเกิดขึ้นมาแล้วแทบจะทั้งสิ้นในอดีตเพียงแต่บริบทของยุคสมัยได้มีการผันแปรไป รูปทรงภายนอกนั้นอาจแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ทว่ารูปทรงภายยังคงสภาพไว้ดังเดิม
บิทคอยน์ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ 2008 นั้นก็เคยเกิดขึ้นเมื่อ 500 ปีก่อนบนกาะแยป (Yap) หรือการพิมพ์เงินขึ้นมาใช้จ่าย ณ ปัจจุบันก็เคยเกิดขึ้นในยุคโรมันแม้กระทั่งเงินเฟ้อ
ย้อนกลับไปในอดีตเมื่อมนุษย์อาศัยและดำรงชีวิตอยู่ในป่า ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ดำรงชีวิตด้วยการเก็บผลไม้ ล่าสัตว์ เพื่อประทังชีวิต เมื่อเวลาผ่านไปพืชผลและสัตว์ป่า เริ่มลดจำนวนลงจากการเพิ่มขึ้นของประชากรมนุษย์ อาหารเริ่มหายากมากยิ่งขึ้นส่งผลให้ระยะเวลาในการหาอาหารเพื่อดำรงชีวิตนานมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย
การวิวัฒนาการของมนุษย์เริ่มจาการใช้เครื่องมือล่าสัตว์ และแปรเปลี่ยนเป็นเครื่องมือเป็นการทำการเกษตร
ตามมาด้วยคำถามที่ว่า “มนุษย์จะทำอย่างไรจึงจะอยู่รอดด้วยตัวเอง” นั่นคือ การผลิตอาหารด้วยตัวเองเพื่อยังชีพและลดการพึ่งพาธรรมชาติให้น้อยลง
Agriculture and Irrigation https://www.ancienthistorylists.com/wp-content/uploads/2015/12/agriculture-mesopotamia.jpg
เมื่อยุคเมโสโปเตเมีย การทำการเกษตรในช่วงแรกนั้นเป็นการทำเพื่อยังชีพ แต่เมื่อเวลาผ่านไปมีการนำนวัตกรรมและเครื่องมือที่ทันสมัย (ในยุคที่ไม่มีไฟ การรู้จักจุดไฟขึ้นมานั้นถือเป็นนวัตกรรมเพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน) ผลิตภาพของมนุษย์เริ่มสูงขึ้นผลผลิตที่ได้จึงสูงขึ้น
เมื่อมีปริมาณผลผลิตที่ผลิตได้มากเกินความต้องการ จึงเกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างกัน
จากการที่ผู้ผลิตให้คุณค่าของสิ่งที่ตนมีน้อยกว่าคุณค่าที่ตนจะได้รับจากการแลกเปลี่ยน เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนให้คุณค่ามากกว่า นำไปสู่ระบบที่เรียกว่า (Barter System) การแลกเปลี่ยน สิ่งของ กับ สิ่งของ หรือเรียกอีกอย่างว่าแลกเปลี่ยนกันโดยตรง (Direct Exchange) ภายหลังระบบนี้เริ่มมีข้อจำกัดมากขึ้นและถูกลดทอนลงไป และปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบการแลกเปลี่ยนทางอ้อม (indirect exchange) โดยใช้เงินเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน
ย้อนกลับมาที่การทำการเกษตรเมื่อมนุษย์มีผลผลิตส่วนเกิน เช่น เมล็ดพืช ข้าวเปลือก ที่ต้องอาศัยสถานที่ในการเก็บรักษาอย่างดีเพื่อคงสภาพ การที่ชาวนาจะมีที่เก็บเป็นของตนเองนั้นเป็นไปได้ยากเพราะมีต้นทุนสูงมาก
สถานที่ในการเก็บรักษาถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อผลิตสถานที่เก็บพืชผล เมล็ดพันธุ์ หรือ ยุ้งฉางจึงต้องมีคนกลางที่ระดมเงินจากชาวนาซึ่งต้องมีความน่าเชื่อถือและได้รับการไว้วางใจจากชาวนาทุกคน
ชาวบ้านทำการลงขันกันเพื่อผลิตยุ้งฉางเก็บเมล็ดข้าว และพืชผลต่าง ๆ (หรือการระดมเงินทุนของชาวนา) เพื่อความปลอดภัยจึงต้องจ้างคนคอยดูแลไม่ให้ถูกขโมย หรือเกิดความเสียหาย (เกิดการจ้างงาน)
เมื่อชาวนานำผลผลิตส่วนเกินของตนไปเก็บที่ยุ้งฉาง เจ้าของยุ้งฉางต้องจดบันทึกว่าผลผลิตที่นำมาฝากไว้มีจำนวนเท่าไหร่ โดยจะแสดงบนโลหะมีค่าที่สลักจำนวนเอาไว้ซึ่งออกโดยเจ้าของยุ้งฉาง
โลหะนี้ยังสามารถแลกเปลี่ยนกับสินค้าต่าง ๆ ได้ตามจำนวนที่สลักเอาไว้ เกิดเป็นธุรกรรมทางอ้อมโดยมีโลหะเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
โลหะที่สลักตัวเลขจำนวนเมล็ดข้าวเปลือกจึงเปรียบเสมือนเงินตราใช้ในการแลกเปลี่ยนทำธุรกรรมระหว่างกัน
โลหะนั้นก็ยังมีขอบเขตในการใช้ด้วยเช่นกันคือ การจะใช้จ่ายนั้นต้องเกิดในหมู่บ้านของตนเท่านั้นจะใช้จ่ายนอกหมู่บ้านไม่ได้ เพราะความเชื่อใจในโลหะที่ออกโดยคนกลางคือ คนในหมู่บ้านเท่านั้น ดังนั้นการที่ชาวบ้านต้องการทำธุรกรรมกับนอกหมู่บ้านของตนจึงต้องใช้การแลกเปลี่ยนระหว่างสิ่งของกับสิ่งของเท่านั้นหรืออาจจะเป็นสิ่งที่มีค่าในตัวของมันเองโดยที่ผู้คนเห็นพ้องกันโดยไม่มีคนกลางคอยกำกับโดยคนใดคนหนึ่ง
เมื่อชาวนาในหมู่บ้านเริ่มมีการค้าขาย ผลิต และบริโภค ทำให้เริ่มเกิดพ่อค้าที่คอยเดินทางระหว่างรัฐต่าง ๆ เพื่อค้าขายมากขึ้น และสิ่งที่ทำให้การค้าเริ่มแพร่หลายไปในเมืองต่าง ๆ มากยิ่งขึ้นคือ การริเริ่มใช้เข็มทิศ การออกสำรวจพื้นที่ทางบก และทางทะเล
รัฐเริ่มมีความต้องการขยายอำนาจของเศรษฐกิจของตนเพื่อครอบครองพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น และในขณะเดียวกันก็ต้องปกป้องทรัพยากรของตนเองจากการรุกรานจากรัฐอื่นอีกด้วย
รัฐมีอำนาจได้อย่างไร
เกิดจากประชาชนทุกคนเห็นพ้องกันว่าการที่ตนพึงปรารถนาที่จะได้รับความปลอดภัยทางด้านชีวิตและทรัพย์สิน ครั้นเมื่อยามวิกาลตนจะสามารถพักผ่อนนอนหลับได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลถึงการรุกราน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยประชาชนต้องละทิ้งอิสรภาพบางส่วนและโอนอำนาจไปที่รัฐหรือผู้ครองนครให้มีการผูกขาดในการปกครอง
รัฐเริ่มมีการเกณฑ์กองกำลังทหารเพื่อปกป้องประชาชนของตน และ ยึดทรัพยากรของรัฐอื่น ๆ อีกด้วย
รัฐยิ่งมีอำนาจจากการยึดทรัพยากรและดินแดน ยิ่งทำให้การค้าขายแพร่กระจายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น เกิดการนำเข้าของสินค้า เช่นทอง โลหะ และส่งออกพืชผลเช่น ธัญพืช ระหว่างเมือง
อันจะเห็นได้ว่าเมื่อเริ่มมีการผลิตส่วนเกินในการหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจทำให้เกิด พ่อค้า รัฐ กองกำลังทหาร และสิ่งที่จะตามมาอีกในภายหลัง...
รัฐได้รับอำนาจจากประชาชน วันดีคืนดี ประชาชนอาจจะทวงคืนมาได้เหมือนกันเพื่อให้ตนมีอำนาจต่อๆไปจึงต้องปลูกฝังค่านิยมและคติต่าง ๆ โดยนักบวชจะปลูกฝังเรื่องผู้ปกครองนั้นได้รับหน้าที่จากพระเจ้าให้ในการปกครองประชาชนจากภยันตรายต่าง ๆ การขัดขืนการปกครอง เท่ากับการขัดขืนต่อพระเจ้า
เพื่อเป็นการแสดงการสัการะบูชาต่อพระเจ้า ประชาชนต้องนำเงิน ทอง ทรัพย์สินของตนที่ได้จากการค้าขาย หรือ เก็บสะสม มาบูชาให้พระเจ้า เพราะมีความเชื่อว่ายิ่งนำเงินมาบูชามากเท่าไหร่ตนจะได้ขึ้นสวรรค์และพบกับความสุขที่ถาวร
เราจะเห็นได้ว่าประชาชนแต่ละคนนั้นจะมีความเท่าเทียมกันทางรายได้ หรือมองว่าการบูชาด้วยเงิน ทอง นั้นก็เหมือนกับการต้องเสียภาษี ที่ลดอำนาจของคนแต่ละคนลง
และเงินทองโลหะมีค่าเหล่านั้นที่นำไปบูชาพระเจ้าไปอยู่ที่ไหนกัน?
ต่อ…
1
โฆษณา