Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ไฉไลเป็นบ้า
•
ติดตาม
12 ม.ค. 2023 เวลา 18:43 • อาหาร
ปิดตำนาน 114 ปี “มิ่งหลี” ความคลาสสิคแห่งรัตนโกสินทร์
ร้านอาหารที่เป็นยิ่งกว่าไอคอนของชาวศิลปากร นอกจากจะเป็นที่ฝากท้องยามหิวแล้ว หลายคนเมื่อได้เข้ามาเป็นลูกค้า “มิ่งหลี” แม้เพียงแค่ครั้งเดียวสิ่งหนึ่งที่ต้องได้รับกลับไปอย่างแน่นอนนั่นคือความทรงจำ
ทำเลของร้านติดกำแพงรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ตรงข้ามกับกำแพงวัดพระแก้ว แม้จะหาง่ายแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะได้เข้าไปลิ้มรสชาติอาหารในร้านนี้
ร้านเปิดตั้งแต่จันทร์-ศุกร์เริ่มราวๆ11โมง ถึงแค่ บ่าย 4 โมงเท่านั้น ส่วนเมนูอาหารก็มีให้สั่งไม่ถึง 20 อย่าง ที่ขึ้นชื่อเป็นที่นิยม เช่น ไข่ห่อปู หมี่กรอบชาววัง เนื้อประเทือง ผัดคะน้าหมูหมัก สตูลิ้นวัว มะระผัดไข่
นอกจากนี้ บรรยากาศภายในร้านยังคงมีสภาพเดิมๆ โดยเฉพาะบันไดเก่าๆที่สูงชันจนเห็นแล้วไม่น่าจะมีคนเดินขึ้นไปชั้นบนได้ ห้องน้ำผสมผสานระหว่างความโบราณกับสุขภัณฑ์สมัยใหม่อย่างเคอะเขิน และเจ้าของร้านที่ดูเหมือนไม่เป็นมิตรแต่กลับใจดีเหลือเกิน
ซึ่งตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา “มิ่งหลี” มีศิลปิน อาจารย์ จิตรกร เป็นลูกค้าประจำอยู่ไม่มากนัก โดยในร้านจะมีโต๊ะที่ถูกจองอยู่ 1 โต๊ะแม้ว่าวันนั้นมันอาจไม่มีใครนั่งเลยก็ตาม
หลายๆสิ่งเหล่านี้ค่อยๆประกอบกันขึ้นมาผ่านวันและคืนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะทำให้มิ่งหลี ของ “อาภา สกุลพิชัยรัตน์”เป็นมากกว่าร้านอาหาร
มิ่งหลีเป็นร้านอาหารประเภท “กุ๊กช็อป” (Cook Shop) ซึ่งปรุงอาหารประยุกต์ระหว่างฝรั่ง กับ จีนไหหลำ หรืออธิบายง่ายๆคือเป็นร้านอาหารฝรั่งที่คนจีนเป็นเจ้าของ เมนูยอดนิยม เช่น สตูลิ้นวัว สลัดเนื้อสัน สเต๊กที่มีการปรุงน้ำเกรวี่แบบน้ำท่วมเนื้อ เป็นต้น
ว่ากันว่า ร้านอาหารประเภทกุ๊กช็อปนี้เคยได้รับความนิยมมากเมื่อประมาณ 50-60 ปีที่แล้ว โดยทุกวันนี้เหลืออยู่เพียงไม่กี่ร้าน เช่น ฟูมุ่ยกี่ สีลมภัตตาคาร พงษ์พัฒน์หลี เป็นต้น
ส่วนย่งหลี สุขุมวิท 39 ปิดกิจการไปตั้งแต่ 31 ธ.ค.2561 แล้ว
“มติชนออนไลน์” เผยแพร่บทความ “ทบทวนความอร่อยตามรอยพ่อไปชิมอีกครั้ง กับร้านมิ่งหลีอายุร้อยกว่าปี” โดย ปิ่นโตเถาเล็ก เผยแพร่เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2561 ระบุว่าตัวอาคารร้านมิ่งหลีก่ออิฐถือปูนสูง 2 ชั้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมยุโรปนีโอคลาสสิก จำนวน 29 ห้อง เริ่มสร้างในสมัยปลายรัชกาลที่ 5 เมื่อ พ.ศ.2452 นับเป็นอาคารพาณิชย์โบราณอายุเกือบ 110 ปี
ร้านโปรดในดวงใจของคุณชายถนัดศรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่พ่อไปเป็นอาจารย์พิเศษ สอนวิชาสื่อสารมวลชนอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากรนั้น มิ่งหลีคือสถานที่นัดพบปะสังสรรค์ของพ่อกับกลุ่มศิลปินหน้าพระลานเป็นประจำ ถึงขนาดคุณชายถนัดศรีได้รับฉายาว่าเป็นอธิการบดีวิทยาเขตมิ่งหลี
ซึ่งตอนนั้นปิ่นโตเถาเล็กในวัยหนุ่มน้อยก็ได้ติดตามพ่อไปนั่งกินกับเขาด้วยอยู่เสมอมา เป็นที่รู้กันดีว่าในยามแดดร่มลมตก โต๊ะด้านในสุดทางขวา (ด้านหน้าร้าน) คือโต๊ะประจำที่จัดไว้ให้คณะของพ่อ ห้ามใครอื่นแปลกปลอมเข้าไปนั่งเป็นอันขาด
พ่อเคยเขียนไว้ว่าร้านกุ๊กช็อปแห่งนี้ สืบประวัติไปได้จนถึงรัชกาลที่ 6 เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป โดยเฉพาะข้าราชการที่ทำงานในวังหลวง ตั้งแต่ยังเป็นกระทรวงคลังมหาสมบัติ ในยุคนั้นชาวจีนไหหลำได้เข้ามาประกอบอาชีพเป็นกุ๊ก ลูกมือของเชฟฝรั่งที่เข้ามารับราชการในห้องเครื่องวังหลวงและวังเจ้านายชั้นสูง จึงได้รับการถ่ายทอดฝีมือการปรุงอาหารแบบฝรั่ง ในภายหลังได้ออกมาเปิดร้านอาหารสไตล์ กุ๊กช็อป ขายซีเต๊ก ซีตู (สเต๊ก สตู) สลัดเนื้อสัน พอร์กช็อป (ซี่โครงหมูอบถั่วลันเตา) กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ
มีเรื่องเล่ากันว่าเมนู “เนื้อประเทือง” เนื้อสุกหั่นเป็นชิ้น เสิร์ฟมาในจานราดด้วยน้ำยำรสจัดจ้าน ที่มีพริก กระเทียม ผักชีฝรั่งสับละเอียดโปะมาด้านบน นั้นตั้งชื่อตาม อ. ประเทือง เอมเจริญ ที่เป็นผู้ให้สูตรไว้
ซึ่ง อ.ประเทือง เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี พศ. 2548
เนื่องจากมิ่งหลีเปิดมาอย่างยาวนาน มีประวัติเก่าแก่ ดังนั้นลูกค้าเก่าๆหลายคนของมิ่งหลีก็เป็น บรรดาเหล่าอาจารย์ช่างศิลป์ อาทิ อังคาร กัลยาณพงษ์ ช่วง มูลพินิจ สุวรรณี สุคนธา หรือ อ.ขรรค์ชัย บุนปาน หนึ่งในผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์มติชน อดีตก็เคยแวะเวียนมาทานอาหารบ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม ระยะหลังมานี้เจ้าของร้านอายุมากขึ้น จึงผลัดมือให้ลูกหลานเข้ามาทำกิจการต่อ
ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า มิ่งหลีจะปิดตำนานเลิกกิจการ หากเป็นความจริง ก็นับว่าน่าเสียดายมากเพราะนี่คือร้านอาหารที่อยู่มาอย่างยาวนานถึง 114 ปี
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย