13 ม.ค. 2023 เวลา 05:33 • หุ้น & เศรษฐกิจ

หุ้น 'บางจาก' พุ่งไม่หยุด หลังประกาศซื้อ ESSO Synergy 1.5-2 ล้านบาทต่อปี

เช้านี้ราคาหุ้น ‘บางจาก’ ก็ยังพุ่งไม่หยุด จากข่าวซื้อกิจการ ESSO ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะสร้าง Synergy ให้บริษัทสูงถึง 1.5-2 ล้านบาทต่อปี พร้อมแนะนำลงทุนต่อเนื่อง
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) หรือหุ้น ‘บางจาก’ วันนี้ (13 ม.ค. 2566) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยเปิดตลาดหุ้นเพียงชั่วโมงเดียวก็บวกเกือบ 8% ไปแล้ว
แน่นอนว่าปัจจัยบวกมาจากข่าวที่บางจากประกาศเข้าซื้อหุ้น บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะทำให้เกิด Synergy ประมาณ 1.5-2 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยหลังประชุมนักวิเคราะห์ร่วมกับบริษัทว่า บอร์ด BCP อนุมัติการเข้าซื้อเอสโซ่ (ประเทศไทย) ในสัดส่วน 65.99%
เบื้องต้นทางบริษัทประเมินราคาซื้อขายอยู่ที่ราว 8.84-9.63 บาท และคาดว่าจะสรุปในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งผู้บริหารคาดว่าราคาซื้อขายจริงจะใกล้เคียงกับระดับราคาข้างต้น โดยจะไม่มีการเพิ่มทุน ส่วนแหล่งเงินทุนมาจากเงินสดและการกู้
ขณะที่สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) หลังการควบรวม คาดว่าจะอยู่ที่ 1.7 เท่า ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด และคาดว่าธุรกรรมทั้งหมดจะเสร็จสิ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
การควบรวมของทั้ง 2 บริษัท จะส่งผลให้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 294 พันบาร์เรลต่อวัน (KBD) จากเดิม 120 KBD และมีจำนวนสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 2,100 สถานี จากเดิม 1,320 สถานี ประกอบกับมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 29.1% (BCP 16.3% และ ESSO 12.8%)
บริษัทคาดว่าจะมี Synergy ราว 1.5-2 ล้านบาทต่อปี จากปัจจัยต่อไปนี้
1. การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดหาน้ำมันดิบ เนื่องจากโรงกลั่นของ ESSO ตั้งอยู่ที่ศรีราชา และมีท่าเรือที่สามารถรองรับเรือขนส่งน้ำมันขนานใหญ่ (VLCC) ได้
2. เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผลิตภัณฑ์ และส่งผลให้ BCP สามารถลดการนำเข้าส่วนผสมของน้ำมันเบนซินได้
3. BCP สามารถบริหารสต็อกน้ำมันสำเร็จได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. คาดว่าจะส่งผลให้ บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) มีช่องทางในการจำหน่าย B100 และเอทานอลได้มากขึ้น
‘ทางฝ่ายมองบวกต่อการเข้าซื้อ ESSO เนื่องจากระดับราคาซื้อขายที่ค่อนข้างถูก และไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน โดยจะใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้และเงินสด
ประกอบกับการควบรวมดังกล่าวมี Synergy ค่อนข้างมาก และคาดว่าจะส่งผลให้มีอัพไซด์ต่อประมาณการณ์และราคาพื้นฐาน ทางฝ่ายยังคงแนะนำ ‘ซื้อ’
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) มองว่า หลัง BCP บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อหุ้น 65.99% ในเอสโซ่ (ประเทศไทย) หนึ่งในผู้นำด้านการกลั่นปิโตรเลียมและค้าปลีกน้ำมันแบบครบวงจร จาก ExxonMobil Asia Holdings (ExxonMobil)
ดีลนี้จะดันให้ BCP ขึ้นแท่นผู้ประกอบการโรงกลั่นและการค้าปลีกน้ำมันขนาดใหญ่สุดในไทย ด้วยกำลังการผลิตรวม 294 KBD บวกกับสถานีบริการกว่า 2,100 แห่ง
การเข้าซื้อ ESSO ที่มูลค่าของกิจการ (EV) ระดับคงที่ 5.55 หมื่นล้านบาท (อาจมีการปรับได้) สะท้อนราคาหุ้นที่ 8.84 บาทต่อหุ้น (อิงงบไตรมาส 3/65) คาดว่าดีลจะแล้วเสร็จภายในตรมาส 3/66 โดยมีกรอบราคาเข้าซื้อที่ 8.8-10.3 บาทต่อหุ้น
หลังเข้าซื้อหุ้นจาก ExxonMobil ทาง BCP จะทำคำเสนอซื้อขายหลักทรัพย์จากผู้ถือหุ้นเดิม (Tender Offer) ในส่วน 34% ที่เหลือของ ESSO ที่ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยสามารถขายหุ้นออกมาในราคาเดียวกับ ExxonMobil
ทั้งนี้ คาดว่ามูลค่าการเข้าซื้อทั้งหมดจะอยู่ที่ 3.0-3.3 หมื่นล้านบาท โดย BCP มีแผนระดมทุนผ่านการกู้ยืมกับสถาบันการเงิน
ดีลนี้จะเป็นผลดีกับ BCP ในแง่ปัจจัยกระตุ้นกำไรต่อหุ้น (EPS) และสามารถสร้างปร#MakeTomorrowTODAY เนินงานได้ โดยไม่คิดว่าบริษัทต้องเพิ่มทุน เพราะจะมีเงินทุนมาจากการกู้ยืม ขณะที่บริษัทเองก็มีเงินสด 3.3 หมื่นล้านบาทในมือที่สามารถกลบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้
นอกจากนี้ คาดว่าบริษัทจะรับรู้รายได้การดำเนินงานก่อนหักภาษีจากประโยชน์ร่วมที่ 1.5-2.0 พันล้านบาทปี และกระตุ้น EPS ได้อย่างมากถึง 60% จึงคงคำแนะนำ ‘ซื้อ’ ที่ราคาเป้าหมาย 42.00 บาท
#TODAYBizview
#MakeTomorrowTODAY
โฆษณา