16 ม.ค. 2023 เวลา 16:18 • หนังสือ

แฮร์รี่ พอตเตอร์ฉบับหัวขบถ [โหมดเอาจริง]

Ch14: ลูเซียส มัลฟอย
นิยามของคำว่า "อยู่เป็น"
มีใครยังรอบทวิเคราะห์ประเด็นที่ผมสัญญาไว้ในก่อนๆ รึเปล่าครับ? สำหรับคนที่ซื้อ Ebook ไปจะได้รู้ก่อนเลย แต่สำหรับคนที่ยังไม่ต้องการจะซื้อ ผมก็จะให้รู้ในเวลาที่เหมาะสม แต่เนื้อหาจะไม่เต็มร้อยเหมือนใน Ebook นะ ไม่งั้นจะถอย Ebook มาเพื่ออะไรล่ะ รออ่านในนี้ดีกว่า (ฮา) เอาเป็นว่าตอนนี้เรามาคุยเรื่องลูเซียสกันก่อนดีกว่า
เท่าที่เคยปรากฎในบทสัมภาษณ์ดูเหมือน JK Rowling ต้องการให้เป็นเราคิดว่าเขาต้องเป็นผู้ชายที่ดูชั่วร้ายมากๆ ซึ่งแฟนๆ ไม่ค่อยประทับใจ เพราะตอนจบดูเหมือนเขาไม่ได้รับผลกรรมอย่างที่ควรจะเป็น ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับลูเซียสที่ปรากฏทั้งใน pottermore และเด็กต้องสาปค่อนข้างจะชัดเจนว่าลูเซียสไม่ต้องรับผลกรรมอะไร (ทั้งๆ ที่ยัยอัมบริดจ์ได้ไปอัซคาบัน) และตั้งคำถามกับ JK Rowling ว่าเธอต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ "เงินง้างได้ทุกอย่าง" รึไง?
ก่อนที่เราจะสรุปแบบนั้น ผมอยากให้เราดูข้อมูลนี้ด้วยกันก่อน คือแม้แฟนๆ จะมีภาพจำเกี่ยวกับลูเซียสในฐานะผู้ชายที่เย่อหยิ่ง ที่เหยียดและรังเกียจมักเกิ้ลและเลือดโคลนทั้งหมด (ในที่นี้หมายถึงเลือดผสมที่มีพ่อแม่คนใดคนหนึ่งเป็นมักเกิ้ลด้วย) แต่ JK Rowling ดูจะไม่ได้คิดแบบนั้นตลอดเวลา เพราะประการแรกเลย ลักษณะของลูเซียสในมุมมองกลางตามที่เธอบอกให้ทีมงานรับทราบคือ "always appears immaculately in a pinstriped suit with short hair" งานนี้ Jason Isaacs ถึงกับร้อง "What!!?" ขึ้นมาเลย
ลูเซียสเป็นคนชั่วที่เหยียดเผ่าพันธุ์ เย่อหยิ่งไม่ใช่เหรอ แล้วเขาจะตัดผม+แต่งตัวเหมือนมักเกิ้ลไปทำเพื่ออะไร? Jason Isaacs เลยโน้มน้าวผู้จัด--ขอออกแบบลุคของตัวละครที่เขาจะเล่น เราจึงได้ลูเซียสตัวใหม่ในภาพยนตร์แทน คือใส่เสื้อคลุมสีดำพริ้วๆ และถือไม้เท้าแทนที่จะได้เวอร์ชั่นที่ตรงกับหนังสือซึ่งจะต้องเหมือนดูเหมือนเดรโก (Tom Falton) ในหนังภาค 7 แต่แก่กว่าและใส่สูทลายทางสีเข้มแทน และเป็น Jason ที่เพิ่มผมยาวสีบลอนด์ลงไปเพื่อคนดูรู้สึกว่าลูเซียสต่างจากเดรโกตามที่บอกไว้ในบทสมภาษณ์
จากลิงค์จะเห็นว่า Jason ตั้งใจแสดงภาพของลูเซียสให้น่ารังเกียจและงี่เง่ามากเพื่อที่แฟนจะได้รู้สึกเห็นใจเดรโกที่มีพ่อแย่ๆ จนกลายเป็นอันธพาลที่โรงเรียนเนื่องจากความเอ็นดูส่วนตัวของเขาต่อ Tom (ฮา) พูดง่ายๆ นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกของนักแสดง การแสดงของ Jason ก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยให้เดรโกดูน่ารักขึ้น ฉะนั้นเมื่อเราเข้าใจตรงกันแล้วและทบทวนหนังสือ เราจะพบว่าไอ้ที่เห็นในหนังมันไม่ใช่ลูเซียสเลย! มันเป็นใครก็ไม่รู้!
ลูเซียสตัวจริงในจินตนาการของ JK Rowling นั้นสง่างาม เฉลียวฉลาด และมีสเน่ห์อย่างยิ่ง! JK Rowling บอกเราใน pottermore (ถ้าจำเนื้อหาตอนที่แล้วได้) ว่าเดรโกพยายามที่จะเลียนแบบพ่อของเขา และน่าเสียดายที่ต้องพูดด้วยว่ามีแต่แฮร์รี่เท่านั้นแหละที่เห็นลูเซียสและเดรโดเหมือนกันและบอกคนอ่านแบบนั้น จริงๆ แล้วหากเราอ่านอ่านระมัดระวัง ลูเซียสไม่เหมือนเดรโกซักนิด แต่เขาเป็นเวอร์ชั่นผู้ชายของเฮอร์ไมโอนี่ต่างหากพร้อมด้วยความชั่วร้ายที่มากขึ้น
อาเธอร์ วิสลี่ย์ได้พูดถึงลูเซียสอย่างน่าสนใจในภาคีนกฟินิกซ์ที่ผมจะขอยกมาบางส่วนดังนี้ "Malfoy's been giving generously to all sorts of things for years... Gets him in with the right people... then he can asl for favors...delay laws he doesn't want passed...Oh, he's very well connected, Lucius Malfoy..." จากตรงนี้จะเห็นว่า (แม้เราไม่รู้ว่าระหว่างลูเซียสกับด๊อบบี้เป็นยังไง) ในสายตาของสังคมเขาเป็นคนที่จิตใจกว้างขวาง ศีลธรรมสูงและฉลาด เหมือนเฮอร์ไมโอนี่
ไม่น่าแปลกที่เดรโกเกลียดเฮอร์ไมโอนี่มาก--ไม่ปรากฏว่าเขาแสดงความเกลียดชังต่อลูกมักเกิ้ลอื่นขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ ทำให้น่าคิดว่าเพราะเขาอยากเป็นแบบพ่อแม่ไม่สามารถเลียนแบบได้ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่มีหลายสิ่งเหมือนพ่อของเขาโดยไม่ต้องพยายาม จะเกลียดเธอก็ไม่แปลก เพียงแต่ขณะเฮอร์ไมโอนี้จริงใจ ลูเซียสทำเพื่อสร้างภาพ
ณ จุดนี้เองที่น่าจะทำให้ JK Rowling ระบุว่าลูเซียสเป็นคนที่ชั่วร้าย เพราะเขาไม่ได้มีความจริงใจที่จะช่วยเหลือสังคม--นอกจากมองเห็นประโยชน์ในฐานะการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่จะได้ผลกำไรมหาศาลกลับมา
แต่เราปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าการบริจาคและรณรงค์เหล่านี้ช่วยเหลือสังคมมากมายไม่เว้นแม้แต่มักเกิ้ล และสิ่งที่เราพึ่งรู้คือมัลฟอยทุกรุ่นไม่มีปัญหาที่จะเข้าไปยุ่งกับมักเกิ้ลถ้ามันทำให้เงินของพวกเขาเพิ่ม ดังนั้นเราสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมลูเซียสที่ควรจะเหยียดและรังเกียจมักเกิ้ลจึงสวมชุดสูทอย่างพร้อมตัดผมหวีเสยในมาดนักธุรกิจ?
สรุปตระกูลนี้ตอแหลได้ทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดครับ
ตามข้อมูลแรกที่ผมแปะจะเห็นว่า JK Rowling ยันยันความมั่งคั่งของมัลฟอยทั้งสกุลเงินของพ่อมดและมักเกิ้ล นั่นหมายความว่ายังไง? ปกติพ่อมดไม่มีเงินมักเกิ้ลเว้นแต่จะทำการแลกเปลี่ยนมาแล้ว แต่ครอบครัวมัลฟอยมีทั้งสินทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์มักเกิ้ล นั่นดูไม่เหมือนพ่อมดอนุรักษ์นิยมเลย นั่นก็ทำให้นึกถึงประวัติของพวกมัลฟอยว่า พวกเขาบูดบึ้งพอควรตอนที่กระทรวงอยู่ในอำนาจของกลุ่มอนุรักษ์นิยม พวกนี้ถึงกับหน้าบูดแต่ก็รีบพูดว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับมักเกิ้ลเลยนะ ทั้งๆ ที่สร้างอพาร์ทเม้นต์ให้มักเกิ้ลเช่านี่แหละ!
เรารู้ว่าพวกมัลฟอยมีความเข้าใจหลายสิ่งที่พวกผู้วิเศษไม่เข้าใจ เช่นวิทยาศาสตร์มักเกิ้ล พวกเขารู้ว่าการแต่งงานระหว่างเครือญาติเป็นเรื่องต้องห้ามเพราะเด็กอาจจะปัญญาอ่อนหรือพิการได้ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจหากลูเซียสอาจจะจบปริญญาหรือทำธุรกิจในโลกมักเกิ้ลด้วย! เขาทำอะไร? เล่นหุ้น? แล้วเขาแอบมีทีวีจอแบน 50 นิ้วอยู่ที่ห้องทำงาน+เคเบิลด้วยรึเปล่า เพราะเขาจำเป็นต้องตามข่าวเศรษฐกิจและแน่นอนว่าเขาต้องมีความรู้ในโลกมักเกิ้ลสูงและเฉลียวฉลาดพอจึงจะประสบความสำเร็จในธุรกิจของเขาได้
การครอบครองเงินและอสังหาริมทรัพทย์มากมายในโลกมักเกิ้ลเป็นความพยายามของมัลฟอยที่จะฟอกเงินและซุกหุ้นรึไม่ มัลฟอยมักยุ่งเกี่ยวกับเรื่องสกปรกมาทุกยุคทุกสมัยโดยไม่ทำให้มือเปื้อนและทำความดีต่อสังคมเพื่อสร้างภาพหรืออะไรก็ตาม นั่นทำให้ผมอดไม่ได้ว่าทำไมคนที่ฉลาดขนาดนั้นจึงลงไปอยู่ในระดับเดียวกันกับอาเธอร์และต่อยกันที่ร้านหนึ่ง หรือแม้แต่แสดงออกถึงการเหยียดมักเกิ้ลที่ชัดเจนเกินไปที่ร้านขายสิ่งประดิษฐ์เกี่ยวกับศาสตร์มืด ทั้งๆ ที่เขาค่อนข้างอ่านใจคนเก่งและวางตัวเป็นคนสุภาพมีเมตตา
สำหรับข้อแรกนั้นมีความเป็นไปได้ 2 แบบ อย่างแรกคือเป็นจินตนาการของแฮร์รี่ทั้งหมด หรือไม่ ลูเซียสพยายามแสดงออกมากๆ ว่าเขาเกลียดมักเกิ้ลเพราะเขาพึ่งติดต่อสัมพันธ์กับไอเท็มของเจ้านาย ถ้าเขาวางตัวเป็นคนใจกว้างมากไป โวลเดอร์มอร์ในบันทึกอาจจะโผล่ขึ้นมาหยุมหัวเอา สำหรับข้อถัดมานั้นหากเราอ่านดูดีมันบอกใบ้ในตอนจบของเล่ม 2 ว่าเขาเป็นมีเรื่องกับอาเธอร์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจทุกคนจากการแอบยัดบันทึกของทอมแคทในตระกร้าของจินนี้
ลูเซียสแม้จะเหยียดมักเกิ้ลและพวกเลือดโคลน (มีพ่อหรือแม่หรือทั้งคู่เป็นมักเกิ้ล) แต่มันมีข้อยกเว้น ในเล่ม 7 เราเห็นเขาต้อนรับเด็กชายสเนปเป็นอย่างดีด้วยการตบหลังเมื่อเขาไปนั่งข้างๆ และหลังจากนั้นคงจะดูแลเขาอย่างดีจนไปกระตุ้นต่อมอกุศลในใจซิเรียสจนถึงกับพูดว่าสเนปเป็น "Lapdog" ซึ่งคนเคยผ่านโรงเรียนประจำในอังกฤษจะไม่ข้ามเด็ดขาด เหมือนวลีที่ว่า "จะเอาฮาไปถึงไหน" ที่หากออกมากจากคนเหนือความหมายพลิกเพราะภาษาเหนือ 'ฮา=ฉัน'
เรารู้ว่ามิตรภาพของสเนปกับลูเซียสนั้นเหนียวแน่นยาวนานมากเพราะในนาซิสซ่าเรียกความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาว่าเป็น Old friends ซึ่งหมายถึงเพื่อนที่คบหากันอย่างเหนียวแน่นยั่งยืน (แต่นักแปลแปลเป็น 'เพื่อนเก่า' ซึ่งบริบทภาษาไทยมันค่อนข้างหมายถึง Ex-friend มากว่า ทำให้คนไทยหลายคนเข้าใจผิดกันไปเยอะ) และสเนปมีปฏิกิริยาทันที่เมื่อแฮร์รี่กล่าวหาลูเซียสต่อหน้าฟัดจ์ ลูเซียสไม่ได้ดูหมิ่นสเนปต่อหน้าใครทั้งๆ ที่รู้ว่าสเนปเป็นเพียงเด็กชายจากสลัม เหล่านี้ค่อนห่างไกลจากคนเย่อหยิ่งอยู่ไม่น้อย
เรารู้ว่าสเนปเป็นเลกจิลิเมนต์โดยธรรมชาติ และเขาไม่เสียเวลากับคนที่ไม่รู้สึกอะไรกับเขาอีกแล้ว เช่นเมื่อลิลี่แสดงออกว่าไม่ต้องการเขาอีกต่อไปเขาหยุดติดต่อกับเธอทันทีแม้ขณะที่พยายามปกป้องเธอและครอบครัวเขาก็ไม่ไปให้เธอเห็นด้วยซ้ำ ดังนั้นการที่เขาติดต่อคบหากับลูเซียสอย่างตลอดรอดฝั่งทั้งๆ และกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูเซียส นั่นชี้ว่าลูเซียสน่าจะมีอะไรมากกว่าที่เห็นในหนังสือเช่นกัน
และพูดตามตรงเรารู้เกี่ยวกับลูเซียสน้อยมากเช่นเดียวกับที่เรารู้เกี่ยวกับพ่อแม่ของแฮร์รี่นั่นแหละ และการจะตัดสิเขาว่าเลวไปซะทุกอย่างก็ชุ่ยพอๆ กับการตัดสินว่าลิลี่และเจมส์เป็นนักบุญ
เรารู้ดีว่าพวกอนุรักษ์นิยมมักจะมองพวกเลือดโคลนต่ำพอๆ กับพวกมักเกิ้ลแต่ลูเซียสอวยน้องเซฟรัวๆๆ จนอัมบริดจ์ถึงกับค่อนแคะศาสตราจารย์คนโปรดของเราว่า "หวังว่าคุณจะทำได้ดี ลูเซียส มัลฟอยยกย่องคุณมาก" ในเล่ม 4 แม้เราจะไม่อยากยอมรับแต่ลูเซียสช่วยชีวิตแฮร์รี่โดยการบอกให้โวลเดอร์เล่าว่าเรื่องมันเป็นไงมาไง ไม่งั้นแฮร์รี่อาจจะตายแล้ว
และในเล่ม 4 อีกเช่นกัน เราเห็นนาซิสซ่าทำหน้าเหมือนมีของเหม็นจ่อจมูก เราคงเดาได้ว่าแม้จะเข้าใจแต่ก็คงไม่ปลื้มกับการที่ลูเซียสสวมสูทมักเกิ้ลแล้วเดินไปรอบๆ (ไม่รู้แกยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาคุยระหว่างดูควิดดิชด้วยรึเปล่า) นาซิสซ่าไม่เคยเติบโตจากความเกลียดชังต่อมักเกิ้ล ขณะที่ลูเซียสดูชัดเจนว่าแม้จะยังยึดแนวทางเลือดบริสุทธิ์ แต่ไม่ต้องการที่ยัดแนวคิดเลือดบริสุทธิ์ลงหัวสกอร์ปิอัส ซึ่งก็ตามที่เดรโกบอกในภาคเด็กต้องสาปนั่นแหละ "เขาชอบโลกแบบที่เป็นอยู่"
ลิงค์ข้างบนที่ผมแนบมา Jason Isaacs ได้บอกว่าลูเซียสหวาดกลัวที่จะพบผู้คน ดื่มหนักและตายก่อนวัยอันควร ผมไม่แน่ใจว่าเขาคิดเอาเองหรือ JK Rowling บอกเขา เพราะผมไม่พบการยืนยันข้อมูลนี้ที่ไหนเลย แต่ผมค่อนข้างพบข้อมูลที่บอกเป็นนัยย์ๆ ว่าลูเซียสออกจากโลกเวทมนตร์ไปแล้วซึ่งสอดคล้องกับที่ Jasonให้สัมภาษณ์ ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของเดรโกที่ว่า "เขาชอบโลกแบบที่เป็นอยู่" และสามารถเข้าใจได้ว่าการแสดงความยึดมั่นในเลือดบริสุทธิอาจจะเป็นการรอมชอมกับนาซิสซาซึ่งไม่เคยหยุดเกลียดมักเกิ้ล
นาซิสซ่าเสมอต้นเสมอปลายครับ
ว่าแล้วมีการเปิดเผยเล็กๆ ในหนังสือเล่ม 7 ว่าทั้งลูเซียสและนาซิสซ่านั้นเป็นนักสู้ที่กาจ (ไม่ใช่เก่งกากเหมือนสเนปตอนเด็ก) มันทำให้เดรโกต้องการดวลกับแฮร์รี่ตามลำพัง ข้อมูลนี้สมเหตุสมผลเพราะโวลเดอร์เลือกลูเซียสเป็นแม่ทัพในการบุกกองปริศนาแทนที่จะเป็นเบลลาทริกซ์ที่ภายหลังเป็นมือขวาของเขา น่าจะการันตรีความสามารถในระดับหนึ่ง เพียงแต่ไม่รู้ลูเซียสดวงซวยหรือแฮร์รี่ดวงดีก็ไม่ทราบ แผนนี้เลยพังไม่เป็นท่า และลูเซียสก็คิดว่าตัวเองโชคดีที่ติดในอัซคาบันแทนที่จะต้องกลับไปเจอจอมมาร
พูดตามตรง จริงๆ ลูเซียสเพียงแค่เข้าร่วมกับผู้เสพความตายเพราะการประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาด เนื่องจากตอนนั้นกลุ่มของโวลเดอร์มอร์กำลังแผ่อิทธิพลไปรอบๆ เหมือนคลื่นสึนามิและเข้าโจมตีทุกอย่างที่ขวางหน้าเพราะกำลังดวงขึ้นและของขึ้น สำหรับลูเซียสตอนนั้นนั่นคือศูนย์กลางอำนาจใหม่ที่เขาจะกอบโกย เราก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าลูเซียสมีความผิดยิ่งใหญ่ที่ยากจะให้อภัยเพราะเขาทำให้เด็กบริสุทธิ์สองคนกลายเป็นผู้เสพความตายนั่นคือสเนปและเดรโก
แต่มันช่วยไม่ได้--ตอนเข้าร่วมกับผู้เสพความตายใหม่ๆ ไม่มีใครรู้ว่าหัวหน้ากลุ่มมันบ้านี่นา ไม่งั้นกี่คนจะหลวมตัว เราไม่รู้ว่าลูเซียสเคยเสียใจกับอดีตรึไม่ แต่การที่เขารักลูกและละทิ้งการต่อสู้ในตอนท้ายเพื่อตามหาลูก มันมากพอที่เราจะให้อภัยเขา เพราะมันดูชัดเจนว่าหากเขารู้แต่แรกว่าเจ้านายของเขาเป็นบ้าเขาจะไม่เสี่ยงชีวิตของเขาและครอบครัวเด็ดขาด ที่เขาทำไปทั้งหมดก็แค่เพื่อรักษาตัวเองและครอบครัวเท่านั้นเอง
อีกทั้งเมื่อรวมกับที่จอมมารทักทายลูเซียสที่สุสานในเล่มสี่ว่า "Lucius, my slippery friend" ทั้งหมดนี้ดูจะอธิบายเขาว่าจริงๆ เป็นคนประเภทไหน
เขาคือนิยามที่ลงตัวที่สุดของคำว่า "อยู่เป็น"
โฆษณา