16 ม.ค. 2023 เวลา 19:44 • ความคิดเห็น
ถ้าเปรียบสามก๊กเป็นหมากล้อมแห่งอำนาจกระดานหนึ่ง ขงเบ้งเป็นคนมีสติปัญญาล้ำเลิศที่สุดคนหนึ่ง เมื่อโดดลงไปเป็นผู้เล่นเกมแห่งอำนาจนั้นแล้ว ยังไงก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด แม้จะรู้ว่าไม่อาจฝืนชะตาฟ้าได้ ส่วนชุยเป๋งนั้นก็ฉลาดล้ำเลิศพอๆกับบงเบ้ง เพียงแต่มิได้ลงไปเล่นในหมากล้อมเกมนั้นกับเขาด้วย แต่ก็อ่านเกมออกว่าสุดท้ายแล้ว หมากเกมนี้จะลงเอยอย่างไร ชุยเป๋งจึงเปรียบได้กับคนที่ยืนดูเขาเล่นหมากล้อมกัน ไม่่ว่าใครจะชนะหรือแพ้ ก็ไม่มีผลต่อชุยเป๋งทั้งสิ้น
ส่วนคู่ต่อสู้ของขงเบ้งในเกมที่เดิมพันด้วยบ้านเมืองนั้น มีหลายคนที่ต่อสู้อย่างสมศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะเป็นจิวยี่ ลกซุน ซีซี กุยแก บังทอง แต่ก็มีคู่ต่อสู้ที่มาเหนือเมฆและเหนือดวง ฉลาด รู้ฟ้ารู้ดิน รู้กาลเทศะ รอคอยโอกาส อ่านเกมได้ทะลุปรุโปร่งไม่แพ้ขงเบ้งและชุยเป๋งอีกด้วย จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก สุมาอี้ คู่ต่อสู้ที่เหลือรอดและเป็นผู้ชนะในเกมแห่งอำนาจตัวจริง สุมาอี้นั้นภายนอกดูเหมือนไม่ได้สนใจในเกมแห่งอำนาจคล้ายชุยเป๋ง แต่ต่างจากชุยเป๋งคือ สุมาอี้รอคอยโอกาสอย่างเงียบๆ ก่อนเดินหมากแห่งอำนาจอย่างเหนือเมฆ
สรุปแล้ว ขงเบ้ง ฉลาดเหนือคน รู้ฟ้ารู้ดิน เดินหมากได้อย่างเฉียบแหลม แต่อายุสั้น อีกทั้งยังมิอาจฝืนชะตาฟ้าได้ สำรับชุยเป๋งนั้น ฉลาดไม่ต่างจากขงเบ้ง รู้ฟ้ารู้ดิน เข้าใจความเป็นไปของโลก จึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ส่วนสุมาอี้ ฉลาดไม่แพ้ขงเบ้งและชุยเป๋ง แต่มีความแตกต่างคือ นอกจากรู้ฟ้ารู้ดินแล้ว ยังมาเหนือดวงและเดินหมากเหนือเมฆอีกด้วย จึงเป็นผู้ชนะในหมากล้อมแห่งอำนาจในที่สุด เพราะฟ้าได้ลิขิตเอาไว้แล้วว่า ตระกูลซือหม่าจะเป็นผู้พิชิตแห่งยุคและขจัดความโกลาหลที่เกิดขึ้นให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดิน
ถ้าจะอ่านแบบการเมืองแล้ว ขงเบ้งเข้ามาช่วยเล่าปี่ชิงอำนาจเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข สำหรับชุยเป๋งนั้น การไม่เข้ามาชิงอำนาจย่อมสงบสุข ส่วนสุมาอี้ก็เช่นเดียวกับขงเบ้ง คือเข้ามาชิงอำนาจเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข แนวทางของขงเบ้งและสุมาอี้จึงเป็นไปในแนวทางเดียวกันแม้จะอยู่คนละฝ่ายก็ตามคือ เป็นแนวทางที่ใช้อำนาจและกฏหมายเพื่อให้เกิดความสงบสุข ส่วนแนวทางของชุยเป๋งนั้นใช้หลักธรรมในการดำเนินชีวิตให้สงบสุข ทั้งสองแนวทางนี้ดำเนินมาควบคู่กันในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งมันก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปเป็นธรรมดาของโลก
1
ถ้ามองในมุมของความรักชาติและเสียสละแล้ว ขงเบ้งเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อมาทำงานให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข แต่ก็ไม่สามารถทำให้เกิดความสงบสุขได้ดังปรารถนา ส่วนชุยเป๋งนั้นก็เป็นการเสียสละอีกแบบหนึ่งคือ การที่ไม่เข้าร่วมชิงอำนาจในบ้านเมืองนั้น เป็นการเสียสละที่ยื่งใหญ่เช่นกัน เพราะถ้าคนมีสติปัญญาและอ่านเกมขาดระดับชุยเป๋งเข้ามาร่วมชิงอำนาจในแผ่นดินอีกคน บ้านเมืองที่แยกเป็นก๊กเป็นเหล่านั้น ย่อมเกิดสงครามที่ยาวนานและเกิดการสูญเสียมากกว่าที่เห็นก็เป็นได้ แต่ถึงแม้ชุยเป๋งจะไม่เข้าร่วม สงครามก็มิอาจยุติ
1
ส่วนสุมาอี้หรือแก้วมาลูนนั้น( คนมาทีหลัง ) ก็เข้ามาช่วงชิงอำนาจด้วยความรักบ้านเมือง อยากให้บ้านเมืองสงบสุขไม่ต่างจากขงเบ้งและชุยเป๋ง แต่สุมาอี้นั้นถูกตระกูลโจจับตามองอย่างใกล้ชิดจนต้องอยู่เฉยๆนิ่งๆดังพญามังกรเร้นกาย ปล่อยให้คนอื่นสู้กันแล้วล้มหายตายจากไปทีละคนสองคน จนมาถึงเวลาที่ฟ้าลิขิต สุมาอี้ได้กลับมามีอำนาจอีกครั้งและปูรากฐานให้ญาติพี่น้องและลูกหลานเข้ามามีอำนาจในราชสำนัก ก่อนที่จะรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นสำเร็จ แม้จะถูกตราหน้าว่าโหดเหี้ยม แต่เพื่อความสงบสุขแล้ว สุมาอี้ยอมถูกผู้คนประณาม
ถ้ามองในเรื่องคุณธรรม ขงเบ้งเป็นคนดีมีคุณธรรมคนหนึ่ง แต่ในกลียุคนั้นมิอาจหลีกเลี่ยงการสูญเสียชีวิตของผู้คนได้ แม้รู้ว่าตัวเองจะต้องอายุสั้น แต่ก็ยอมสละชีวิตเพื่อบ้านเมือง ด้วยวิถีแห่งการเมือง ส่วนชุยเป๋งนั้น ใช้หลักธรรมในการดำเนินชีวิตเป็นปกติอยู่แล้ว มิได้เข้าร่วมในมหาสงคราม การใช้ชีวิตในกลียุคเช่นนั้นได้ ย่อมเป็นวิถีแห่งวิญญูชน สำหรับสุมาอี้นั้นมิได้แตกต่างจากขงเบ้งและชุยเป๋งในเรื่องคุณธรรม แต่ยอมเสียสละตัวเองแฝงตัวเข้ามาทำงานให้โจโฉเพื่อรอคอยโอกาสขจัดความมืดมนแห่งกลียุค ด้วยวืถีแห่งการเมือง
ุถ้าเทียบกับยุคปัจจุบัน ขงเบ้ง สุมาอี้ รวมทั้ง จิวยี่ ลกซุน ซีซี กุยแกและบังทองก็คือนักการเมือง จึงใช้วิถีแห่งการเมืองในการบริหารและชิงอำนาจกัน ส่วนชุยเป๋งนั้นเป็นนักวิชาการอิสระ มิใช่นักการเมือง จึงมิได้เข้ามาพัวพันกับเรื่องการเมือง แล้วท่านผู้อ่านล่ะ จะตัดสินใจเช่นไร หากท่านมีตัวตนอยู่ในกลียุคแห่งสามก๊ก
โฆษณา