Blockdit Logo (Mobile)
Insight การเมืองเศรษฐกิจโลก
•
17 ม.ค. 2023 เวลา 02:01 • หุ้น & เศรษฐกิจ

[[ หนี้สหรัฐฯใกล้ชนเพดาน จะเกิดอะไรขึ้นหากสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้!! ]]

.
.
เป็นข่าวอันร้อนแรงล่าสุดเมื่อหนี้สหรัฐฯกำลังใกล้ชนเพดาน เสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้!
ทางรัฐมนตรีการคลังอย่าง Janet Yellen จึงได้เรียกร้องให้รัฐสภาช่วยขยายเพดานก่อนจะสายเกินไป แต่รัฐสภาขณะนี้กำลังสู้กันอย่างดุเดือด ฝั่งพรรคเดโมแครตต้องการขยายเพดานหนี้ เพื่อการกู้ที่มากขึ้น ในขณะที่ฝั่งพรรครีพับลิกัน เรียกร้องให้ต้องพ่วงมาตรการควบคุมการใช้เงินเข้าไปด้วย ถึงจะยินดีโหวตขยายเพดานให้
“ความขัดแย้งในสภา กำลังจะกลายเป็นความเสี่ยงการผิดชำระหนี้สหรัฐฯได้อย่างไร?”
เนื้อหานี้จะมาสรุปสำคัญ 8 ข้อดังนี้
1. เพดานหนี้สหรัฐฯขณะนี้กำหนดไว้ที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ และขณะนี้ก็กำลังเข้าใกล้เพดานดังกล่าวแล้วซึ่งจะถึงในวันพฤหัสนี้ ทางรมต.การคลัง Janet กล่าวว่า หากไม่มีการขยายเพดาน สหรัฐฯจะเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ และสูญเสียความน่าเชื่อถือในเวทีโลก ซึ่งจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯไม่เคยผิดนัดชำระหนี้
หนี้สหรัฐฯพุ่งเกินกว่า 31 ล้านล้านดอลลาร์ กำลังใกล้ชนเพดานที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์!
2. สำหรับเหตุผลที่ต้องขยายเพดาน นั่นเพราะเมื่อประเทศขาดดุลงบประมาณ จึงต้องก่อหนี้เพื่อชดเชยการขาดดุลดังกล่าว และวันกำหนดชำระหนี้กำลังใกล้เข้ามา
การหารายได้ใหม่เพื่อใช้หนี้จึงจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นภาษี การออกพันธบัตรรัฐบาลหรือแม้แต่การพิมพ์เงินเพิ่ม! ในส่วนการขึ้นภาษีก็เป็นการซ้ำเติมภาระประชาชน ยิ่งกำลังประสบดอกเบี้ยที่สูงด้วย และการพิมพ์เงินเพิ่มก็เท่ากับเร่งเงินเฟ้อ จึงทำให้สหรัฐฯเหลือตัวเลือกไม่มากนัก นั่นก็คือขยายเพดานเพื่อให้กู้ได้มากขึ้น
สหรัฐฯขาดดุลงบประมาณอย่างมากในช่วงวิกฤตโควิด
3. ฝั่งพรรครีพับลิกันคัดค้านการขยายเพดานนี้ โดยมองว่ารัฐบาล Biden ขาดวินัยการใช้งบประมาณ รวมไปถึงธนาคารกลางสหรัฐฯที่ผ่านมาก็มีการพิมพ์เงินมากเกินไปจนเป็นปัจจัยหนึ่งในการเร่งเงินเฟ้อ โดยส.ว. Rick Scott จากรัฐฟลอริดากล่าวว่า รัฐบาล Biden ใช้จ่ายเงินภาษีประชาชนโดยขาดความยั้งคิด
ส.ส.Jason Smith แห่งรัฐมิสซูรีแสดงความเห็นว่า เราต้องปฏิรูปนโยบายการคลัง พวกเราไม่สามารถอนุมัติบัตรเครดิตแบบไม่มีวงเงินได้(Unlimited Credit Card)
ฝั่งพรรครีพับลิกัน จึงเสนอเงื่อนไขว่า ‘พรรคจะยินดีโหวตขยายเพดานให้ ก็ต่อเมื่อ” มีการกำหนดมาตราการใช้จ่ายเงิน และตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นพ่วงเข้าไปด้วย
4. ในขณะที่พรรคเดโมแครตมองว่า พรรครีพับลิกันกำลังจะตัดประกันสุขภาพต่างๆ Medicare, Medicaid, ประกันสังคม โดยส.ว.Ron Wyden พรรคเดโมแครตแห่งรัฐโอเรกอนกล่าวว่า สิ่งที่พรรครีพับลิกันถ่วงเวลาขณะนี้ เป็นการทำลายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และกำลังทำลายตลาดแรงงาน
5. ทางปธน.Biden กล่าวว่า ”ผมปฏิเสธที่จะเจรจาเพดานหนี้” สภาจำเป็นต้องโหวตโดยไม่ต้องมีอะไรพ่วงเข้ามา
6. ในอดีต สหรัฐฯเคยประสบปัญหาชนเพดานหนี้เมื่อปี 2011 ส่งผลตลาดหุ้นปรับตัวลงแรง ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มสูงขึ้น และ“เป็นครั้งแรก” ที่อันดับเครดิตสหรัฐฯถูกปรับลง จาก AAA(แข็งแกร่งที่สุด) ลงเป็น AA+(แข็งแกร่งมาก) และต้องอาศัยเวลาหลายเดือนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจกลับมา
ในที่สุดสภาก็ตกลงขยายเพดานหนี้ในครั้งนั้นไปที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ จากก่อนหน้าที่ 28.4 ล้านล้านดอลลาร์ สหรัฐฯจึงรอดพ้นการผิดนัดชำระหนี้ครั้งนั้นได้
ปี 2011 เพียงเเค่หนี้ชนเพดาน ยังไม่ต้องถึงขั้นผิดนัดชำระ อันดับเครดิตสหรัฐฯก็ถูกปรับลงทันที กระทบตลาดหุ้น
7. ในปัจจุบัน การขยายเพดานหนี้ยังไม่สำเร็จ “และถ้าหากเกิดกรณีเลวร้ายสุด” คือ การขยายเพดานยังไม่เกิดขึ้นจนสหรัฐฯต้องผิดนัดชำระหนี้ จะก่อให้เกิดผลตามมาดังนี้
1) เงินดอลลาร์สหรัฐฯจะสูญเสียความเชื่อมั่นในเวทีโลก ทุนสำรองที่เป็นดอลลาร์บางส่วนจะถูกเทขายออกมา จนทำให้ดอลลาร์ยิ่งอ่อนค่าลงไปอีก เงินสกุลต่างประเทศอื่นจะเข้ามามีบทบาทแทนดอลลาร์
2) การชำระหนี้สาธารณะอย่างประกันสังคม ประกันสุขภาพ กองทุนบำนาญได้รับผลกระทบ รวมไปถึงชาวอเมริกันและบริษัทที่พึ่งพาการอุดหนุนจากรัฐก็ประสบความลำบากตามไปด้วย
3) ประเทศสหรัฐฯจะไม่ใช่ที่ปลอดภัยในการลงทุนระดับต้นของโลกอีกต่อไป เงินทุนจะไหลออกจากสหรัฐฯ
เจ้าหนี้สหรัฐฯรายใหญ่ที่สุดอย่างญี่ปุ่น เเละจีนจะกระทบอย่างมาก หากสหรัฐฯผิดนัดชำระหนี้
8. จึงน่าติดตามว่าสภาสหรัฐฯทั้งสองพรรคจะอนุมัติเพดานหนี้ได้สำเร็จหรือไม่ นั่นเพราะ Janet รมต.การคลังเตือนว่า หนี้สหรัฐฯจะชนเพดานในวันพฤหัสที่จะถึงนี้แล้ว และหากความขัดแย้งสภานี้ยืดยาว ทาง Janet สามารถเลื่อนการผิดนัดได้ไกลที่สุดไม่เกินต้นเดือนมิถุนายน หากล่าช้ากว่านั้นเกรงว่าจะผิดนัดชำระหนี้ได้ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ!
***เพื่อไม่ให้พลาดเนื้อหาสำคัญครั้งหน้า สามารถกดติดตาม Insight การเมืองเศรษฐกิจโลกนี้ได้นะครับ
.
โฆษณา