17 ม.ค. 2023 เวลา 03:03 • สุขภาพ

ไม่มีอาการผิดปกติ...ไม่ได้แปลว่า “ปกติ”

ตรวจมะเร็งปากมดลูก ต้องตรวจให้ครบทั้ง ThinPrep และ HPV DNA
ตรวจให้ครบ จบทุกความเสี่ยง
.
มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในสตรีไทย
พบได้ตั้งแต่วัยสาว อายุก่อน 30 ปี จนถึงวัยชรา อายุ 80 ปี
พบได้มากในช่วง 35-50 ปี
ในปีหนึ่งๆ พบว่ามีสตรีป่วยเป็นโรคนี้ทั่วโลก
ทั้งๆ ที่เป็นโรคมะเร็งที่ตรวจพบง่าย และสามารถป้องกันได้
.
BNH ขอแนะนำแพคเกจตรวจ มะเร็งปากมดลูก ที่ครบถ้วนที่สุด
“CO-TEST PACKAGE”
การตรวจที่รวม 2 เทคโนโลยีที่ดีที่สุดเอาไว้ในหนึ่งเดียว
(ThinPrep + HPV DNA Test)
.
CO-TEST คือวิธีการตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก ที่ได้รับการยอมรับกันในระดับสากล
มี 2 เทคโนโลยีการตรวจอยู่ในแพคเกจนี้ คือ การตรวจตินเพร็พและการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี
.
1. การตรวจมะเร็งปากมดลูกตินเพร็พ (ThinPrep)
เป็นมาตราฐานใหม่ของวิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูก โดยแพทย์เก็บเซลล์ บริเวณปากมดลูกด้วยอุปกรณ์เฉพาะ แล้วใส่ลงในขวดน้ำยาตินเพร็พ นำส่งห้องปฏิบัติการ เพื่อเตรียมสไลด์ด้วย ลักษณะสไลด์เป็นรูปแบบเดียวกัน เซลล์เรียงตัวสม่ำเสมอ เซลล์เรียงตัวแบบบางไม่ซ้อนทับกัน มองเห็นเซลล์ผิดปกติได้ง่าย ไม่มีมูกเลือดบดบังมีข้อมูลการศึกษาวิจัยพบว่า การตรวจหาเซลล์มะเร็งโดยวิธีตินเพร็พ ให้ผลดีกว่าการตรวจแบบดั้งเดิมดังนี้
.
เพิ่มความไวในการวินิจฉัยมะเร็งปากมดลูกระยะก่อนลุกลาม
คุณภาพสไลด์ที่ใช้ในการตรวจดีขึ้น
สามารถยืดระยะเวลาการตรวจหาเซลล์มะเร็งจากปากมดลูกจากทุกๆ 1 ปี เป็นปีเว้นปี
.
2. การตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA Test)
เป็นการตรวจแบบเจาะลึกระดับดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจระดับชีวโมเลกุลที่สามารถค้นหาเชื้อเอชพีวีได้ในระยะก่อนที่จะเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูก ทำให้สามารถป้องกันและรักษาเชื้อเอชพีวีได้ก่อนที่เชื้อจะพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูก
ซึ่งวิธีนี้มีความแม่นยำอย่างมาก เพราะนอกจากค้นหาความผิดปกติแล้ว ยังทำให้รู้ลึกมากขึ้นว่ามีการติดเชื้อเอชพีวีหรือไม่ เพราะถ้าเป็นมะเร็งปากมดลูกต้องมีการติดเชื้อเอชพีวีก่อน ดังนั้น ถ้าไม่มีการติดเชื้อสามารถมั่นใจได้ถึง 99 % ว่าในช่วง 1-2 ปีที่รับการตรวจโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกจะน้อยมาก โดยวิธีการตรวจนี้จะได้ผลดียิ่งขึ้นเมื่อตรวจร่วมกับการตรวจตินเพร็พ
╔═════════════════╗
╚═════════════════╝
โฆษณา