18 ม.ค. 2023 เวลา 00:06 • กีฬา

การคัมแบ็กของ เจดอน ซานโช่ หลังหายไปนานจนคนเกือบลืม

เจดอน ซานโช่ กลับมาซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วนะครับเมื่อวานนี้ (17 มกราคม 2023) จากการรายงานของ แอนดี้ มิทเท่น คอลัมนิสต์สายเจาะลึกทีมปีศาจแดงแห่ง ดิ แอธเลติก สื่อคุณภาพของอังกฤษ หลังจากเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาไปชมเกมที่ต้นสังกัดเปิดบ้านพลิกแซงชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 และแจกลายเซ็นให้แฟนบอลที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วย แม้ไม่ได้มีชื่ออยู่ใน match squad ก็ตาม
ซานโช่ ลงสนามให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นครั้งสุดท้ายในเกมพรีเมียร์ลีกนัดบุกเสมอ เชลซี 1-1 เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2022 โดยเกมนั้นเขาออกสตาร์ทตัวจริงในตำแหน่งปีกซ้าย ก่อนโดนเปลี่ยนตัวออกให้ เฟร็ด ลงแทนในครึ่งหลัง ซึ่งหลังจากนั้นเขามีอาการป่วยจนความฟิตและจังหวะการเล่นดร็อปลงไปเยอะ แล้วก็หลุดจากทีมไปเลย
จากรายงานของ แอนดี้ มิทเท่น เขาเผยว่าซานโช่ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บ และไม่ได้ถูก เทน ฮาก ลงโทษทางวินัยใดๆ ทั้งสิ้น
แต่กุนซือชาวดัตช์มองว่าระดับการเล่นของดาวเตะวัย 22 ปีต่ำกว่ามาตรฐานเกินไป และเขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อดึงฟอร์มของนักเตะที่เคยติดทีมยอดเยี่ยมของบุนเดสลีกา 2 ฤดูกาลซ้อนกลับคืนมา
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในขณะที่บรรดานักเตะแกนหลักหลายคนต้องไปทำศึกใหญ่ร่วมกับทีมชาติในศึก ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ ที่กาตาร์ หรือพวกที่ไม่มีภารกิจในฟุตบอลโลกได้ไปตั้งแคมป์ซ้อมพร้อมอุ่นเครื่อง 2 นัดที่สเปน แต่ดาวเตะค่าตัว 73 ล้านปอนด์กลับถูกส่งตัวไปที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อแยกซ้อมเดี่ยวกับโค้ชพิเศษที่ เทน ฮาก จัดให้
ซึ่งนับตั้งแต่เบรกฟุตบอลโลกจนถึงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซานโช่ยังไม่ได้โอกาสแม้แต่ซ้อมร่วมกับเพื่อนร่วมทีมชุดใหญ่เลยนะครับ
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เอริค เทน ฮาก ได้อธิบายถึงการจับ ซานโช่ เข้าโปรแกรมซ้อมเดี่ยวร่วมกับโค้ชชาวดัตช์ที่เขาเคยทำงานร่วมกันมาก่อนว่า "เราไม่ได้เห็นเขาลงเล่นในช่วงเกมท้ายๆ ของยูไนเต็ด (ก่อนเบรกให้ฟุตบอลโลก) ซึ่งเขาไม่ได้อยู่ในสภาพที่ถูกต้อง ไม่ได้อยู่ในสภาพร่างกายที่เหมาะสม และตอนนี้เขาอยู่ในโปรแกรมซ้อมแยก"
ในช่วงเบรกฟุตบอลโลก เจดอน ซานโช่ ถูกส่งตัวไปเข้าโปรแกรมซ้อมแยกที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อฟื้นฟูทั้งสภาพความฟิตและจิตใจ หลังจากระดับการเล่นตกลงอย่างน่าเป็นห่วง
"เราอยากให้เขาอยู่ในโปรแกรมจนจบ และหวังว่าเราจะได้เห็นเขากลับมาเร็วๆ นี้"
ผู้สื่อข่าวได้ถามนายใหญ่ปีศาจแดงต่ออีกว่าทำไมถึงไม่ให้ซานโช่เข้าร่วมการซ้อมเตรียมความพร้อมกับทีมที่สเปน เพราะแม้แต่นักเตะจากทีมชุดเยาวชนยังได้มีส่วนร่วมเลย แต่น่าแปลกที่ซานโช่ซึ่งเป็นแข้งทีมชุดใหญ่กลับถูกจับแยกจากคนอื่น
เทน ฮาก ได้ตอบว่า "เขาฟิตไม่พอ บางครั้งมันมีสถานการณ์เรื่องของความฟิตและอารมณ์ด้วย ตอนนี้เขาอยู่ในโปรแกรมเรื่องสภาพร่างกาย และเป้าหมายของเราคือได้เขากลับมาให้เร็วที่สุด"
"เขาเคยเล่นดีทีเดียวตอนปรีซีซั่น และเช่นเดียวกับตอนลีกออกสตาร์ท เขาเล่นได้ดีหลายนัดอย่างเกมพบกับลิเวอร์พูล, เลสเตอร์ และ อาร์เซน่อล"
"หลังจากเราดร็อปมาตรฐานลง และสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งบางครั้งคุณไม่รู้ว่าทำไม และมันเกิดจากอะไร นั่นคือสิ่งที่เรากำลังทำในตอนนี้ เราพยายามทำการวิจัย และตอนนี้เราก็พยายามพาเขากลับไปสู่ฟอร์มตรงนั้น มันคือการทำงานร่วมกันระหว่างด้านสภาพร่างกาย รวมถึงด้านสภาพจิตใจด้วย"
เรื่องของ "สภาพร่างกาย" แฟนบอลสามารถสังเกตเห็นได้ถึงระดับความฟิต และความเร็วที่ตกลงชัดเจน แต่ในเรื่องของ "สภาพจิตใจ" เราไม่อาจรู้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เราก็พอเดาได้เหมือนกันว่า เจดอน ซานโช่ คือนักเตะที่เมื่อเสียความมั่นใจ หรือเจอกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจของเขา เขามักจะมีปัญหาในการปรับอารมณ์มากทีเดียว
ถ้าใครเคยไปพบจิตแพทย์บ้างเมื่อเจอกับความเครียดขั้นรุนแรง อาจจะพอทราบว่าทางการแพทย์มันมีโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่ง เรียกว่า "โรคปรับตัวผิดปกติ" (Adjustment Disorder) นะครับ
ซึ่งตัวผมเองขอเล่าว่าเคยถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้เหมือนกัน ตอนตัดสินใจไปพบแพทย์เพราะสูญเสียความมั่นใจในชีวิตอย่างรุนแรง จากการเก็บข้อความ toxic มากมายในโซเชียลไปใส่ใจ แล้วเกิดสภาวะซึมเศร้า ซึ่งบางข้อความมันทำร้ายจิตใจเรามากเกินไป ชนิดที่ไม่สามารถสลัดออกไปได้ แถมคนบางคนยังใช้เฟซอวตารเข้ามาคุกคามด้วยข้อความด่าทอที่รุนแรงซ้ำถึงพื้นที่ส่วนตัวอีก
สำหรับ "โรคปรับตัวผิดปกติ" มักเกิดขึ้นหลังจากเผชิญกับสภาวะกดดันหรือมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาคุกคาม และก่อให้เกิดความไม่สมดุลของร่างกายและจิตใจ และไม่สามารถรับมือกับปัญหานั้นได้อย่างเหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิต โดยแต่ละคนมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียดแตกต่างกัน นั่นทำให้เรื่องเล็กๆ สำหรับบางคน มันคือเรื่องที่คอขาดบาดตายมากสำหรับอีกคน
ตัวอย่างเช่นเรื่องของการเลิกกับแฟน บางคนทำใจได้เร็วเพราะคิดว่าขาดไปก็ไม่เป็นไร แต่บางคนจมอยู่กับความเศร้าเป็นปีๆ เพราะผูกพันและสำคัญกับอารมณ์มาก หรือเรื่องของการรับมือกับภาวะหนี้สิน หรือทะเลาะเบาะแว้งกับใคร แต่ละคนก็มีปัจจัยที่จะหาทางออกได้แตกต่างกัน
บางคนเป็นหนี้ร้อยล้าน แต่มีคนคอยช่วยเหลือมากหน้าหลายตา มีโอกาสที่จะสร้างรายได้กลับคืนมาในเวลาอันรวดเร็ว แต่สำหรับบางคน แค่เป็นหนี้ไม่กี่พันบาท แต่อยู่ในสภาพที่มืดแปดด้าน ไม่มีทั้งงาน ไม่มีทั้งคนคอยช่วยเหลือ อาจทำให้คนที่เป็นหนี้จำนวนน้อยกว่ามีความเครียดมากกว่าได้
อันนี้เรายังไม่นับรวมเรื่องสารเคมีในสมองของคนเรา ที่หลั่งออกมาไม่เท่ากันอีกนะครับทำให้อารมณ์ของคนเมื่อเจอกับความเครียดไม่เหมือนกัน
โดย "โรคปรับตัวผิดปกติ" จะทำงานผ่านฮอร์โมนความเครียด 2 ตัวที่เรียกว่า "คอร์ติซอล" และ "อะดรีนาลีน" ที่หลั่งออกมาจากต่อมหมวกไตสองข้าง มีอาการนานไม่เกิน 6 เดือน จัดอยู่ในกลุ่มโรคทางจิตเวชที่สามารถหายเป็นปกติได้
ผมไม่ได้ฟันธงว่า ซานโช่ เป็นโรคนี้นะครับ แต่อยากจะอธิบายว่าแต่ละคนแม้โปรไฟล์จะดูปกติแค่ไหน แต่ลึกๆ แล้วเราไม่รู้เลยครับว่าสภาพจิตใจเขาแย่ขนาดไหนบ้าง
แม้ เจดอน ซานโช่ จะเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เขาเจอกับเหตุการณ์สำคัญมากมาย ที่น่าจะส่งผลกระทบกับอารมณ์ในการใช้ชีวิตไม่น้อยเลย
ช่วงครึ่งซีซั่นแรกของฤดูกาล 2020-21 สมัยที่เล่นให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขาฟอร์มตกอย่างหนักจนถูกสื่อเยอรมันเจ้าดังอย่าง "บิลด์" ตีแผ่ว่าเขามีสภาวะอารมณ์ไม่ปกติ คาดว่าน่าจะเป็นเพราะหงุดหงิดที่ต้นสังกัดขัดขวางโอกาสย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ปีนั้นด้วยการตั้งค่าตัวสูงถึง 105 ล้านปอนด์
ซานโช่ต้องผ่านตลาดซัมเมอร์ไปด้วยอารมณ์ค้างเติ่ง อยากย้ายใจจะขาดแต่ก็ไม่ได้ย้าย เมื่อทีมปีศาจแดงไม่สู้ราคา สุดท้ายก็ต้องจำยอมเล่นให้ทีมเสือเหลืองต่อไปอีก 1 ปี กว่าจะตั้งสมาธิทำใจได้แล้วเรียกฟอร์มเก่งก็ใช้เวลาหลายเดือน
แม้จะบรรลุข้อตกลงย้ายเข้าสู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จนได้ในซัมเมอร์ปี 2021 แต่ในศึกยูโร 2020 เขาต้องเสียความมั่นใจอย่างรุนแรงจากการไม่ได้โอกาสเป็นตัวหลักให้ทีมชาติอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ แถมในเกมนัดชิงชนะเลิศ กว่าจะถูกส่งลงสนามก็รอเข้าใกล้ช่วงดวลจุดโทษชนิดที่ไม่มีโอกาสได้สัมผัสบอล แล้วก็เป็นหนึ่งในคนที่ซัดพลาด ทำให้ประเทศชาติพบกับความพ่ายแพ้
การเสียความมั่นใจจากความผิดหวังอย่างรุนแรง บวกกับความกดดันจากการเป็นนักเตะค่าตัวมหาศาลทำให้เขาไม่สามารถเค้นฟอร์มได้ในช่วงที่เล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ใหม่ๆ
แถมเมื่อสโมสรไปเซ็นสัญญากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มายึดตำแหน่งหน้าเป้าตัวหลัก จนทำให้ เมสัน กรีนวู้ด ถูกขยับไปแย่งตำแหน่งตัวรุกริมเส้น มันยิ่งทำให้ซานโช่เจอความสับสนเข้าไปอีก เพราะ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ซื้อเขาไปด้วยการมีแผนให้เป็นปีกขวาตัวหลัก แต่พอมาอยู่กับทีมจริงๆ กลายเป็นว่าไม่รู้ตำแหน่งการเล่นที่แน่นอน ไหนจะเจอกับช่วงฤดูกาลที่ทีมปีศาจแดงไม่มีความมั่นคงในตำแหน่งผู้จัดการทีม ทำให้เขามีขวบปีที่ไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย
แม้กระทั่งในยุคที่ เอริค เทน ฮาก เข้ามาคุมทีม เขาอาจจะเล่นได้ดีตั้งแต่ปรีซีซั่น และทำผลงานช่วงออกสตาร์ทได้น่าประทับใจ แต่หนึ่งในสิ่งที่เขาน่าจะตั้งความหวังเอาไว้มากๆ ก็คือการติดทีมชาติอังกฤษไปลุยศึกฟุตบอลโลกที่กาตาร์ ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นว่าเขาไม่ได้รับการเหลียวแลจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต
ต้องไม่ลืมอีกว่าในปี 2022 ซานโช่ต้องสูญเสียคุณอาที่รักซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ต้นปีก่อน แล้วก็มีช่วงที่เขาแสดงออกถึงสภาพอารมณ์ไม่ปกติ นั่นคือการลบทุกโพสต์ออกจากอินสตาแกรม แล้วตั้งรูปโปรไฟล์เป็นสีดำ ซึ่งต่อให้ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ที่แน่ๆ เขาไม่ได้สบายดีแน่นอน
นั่นแหละครับ ถึงเป็นเหตุผลว่าทำไม เอริค เทน ฮาก ถึงต้องจับเขาซ้อมแยกกับเพื่อนร่วมทีมไปเลย ให้ไปสงบจิตใจและฟื้นฟูสภาพร่างกายไปด้วย จนกว่าจะมั่นใจได้มากพอว่าจะกลับสู่ทีมด้วยสภาพที่โอเคที่สุดแล้วจริงๆ
เทน ฮาก พูดเมื่อเดือนธันวาคมว่า "เราอยากนำเขากลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ผมไม่สามารถพยากรณ์โรคได้ว่ามันจะเป็นเมื่อไร"
เทน ฮาก ใช้คำว่า "พยากรณ์โรค" (prognosis) ในการให้สัมภาษณ์ต่อหน้าสื่อถึงเรื่องนี้นะครับ ซึ่งมันก็ทำให้เข้าใจได้ว่า เจดอน ซานโช่ น่าจะมีสภาวะทางจิตใจอะไรสักอย่างที่ผิดปกติไปจากนักเตะคนอื่นๆ
เราจะเห็นได้ว่านายใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามจะใช้คำว่า "ฟิตไม่พอ" ในการอธิบายว่า ซานโช่ หายไปไหนถึงยังไม่พร้อมลงเล่น แต่ลึกๆ แล้วเขาก็พยายามแก้ปัญหานี้เป็นการภายใน
ซึ่งถ้าดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น และการแก้ปัญหานี้ของสโมสรในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา มันก็พอเดาได้ว่าอดีตดาวเตะดอร์ทมุนด์จำเป็นต้องได้รับการดูแลที่พิเศษจริงๆ ไม่อย่างนั้นอาจถึงขั้นฟอร์มหลุดแบบกู่ไม่กลับได้เลย
นี่ไม่ใช่การโอ๋ใคร แต่เป็นการหาทางแก้ปัญหาให้นักเตะที่ยังอยู่ในแผนการทำทีม โดยในช่วงปรีซีซั่น เทน ฮาก เคยจับ ราฟาแอล วาราน เข้าโปรแกรมซ้อมแยกจากคนอื่นมาแล้วเช่นกัน เพื่อให้ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศสโฟกัสเป็นพิเศษไปที่การปรับสภาพร่างกายให้พร้อมที่สุด
แล้วเราก็ได้เห็นว่าในซีซั่นนี้ วาราน คือหัวใจหลักในแดนหลังแบบที่แฟนบอลอยากเห็น หลังจากซีซั่นก่อนหลายคนเคยเอือมระอา ว่าโดน เรอัล มาดริด ใช้จนหมดสภาพแล้วย้อมแมวขายมาให้หรือเปล่า
สุดท้ายไม่ว่านักเตะคนไหนจะได้รับการดูแล หรือประคบประหงมที่แตกต่างจากเพื่อนร่วมทีมส่วนใหญ่ แต่สุดท้าย เทน ฮาก จะเลือกใช้งานเฉพาะนักเตะที่พร้อมและเหมาะสมกับทีมในแต่ละเกมที่สุดเสมอ โดยไม่มีใครมีอภิสิทธิ์พิเศษเลย
เจดอน ซานโช่ ถ่ายภาพร่วมกับแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ด้านนอก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก่อนเกมที่ทีมปีศาจแดงจะเปิดบ้านชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 เมื่อวันที่ 14 มกราคม
สำหรับ เจดอน ซานโช่ กลับจากเนเธอร์แลนด์มาที่แคร์ริงตันตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้วนะครับ แค่ยังไม่ได้ซ้อมเต็มรูปแบบกับเพื่อน โดยทั้งตัวนักเตะและสโมสรต่างเห็นตรงกันว่ามันคงเป็นเรื่องที่ดีกว่า ที่จะค่อยๆ ฟื้นฟูทุกอย่างแล้วประเมินพัฒนาการไปแบบวันต่อวัน
แต่ตอนนี้ ในสถานการณ์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ชนะมา 9 นัดรวดรวมทุกรายการ แล้วได้ตัว ซานโช่ ฟิตสมบูรณ์กลับมาซ้อมได้เต็มรูปแบบ เร็วๆ นี้เราอาจได้เห็นปีกคนนี้กลับมาเล่นได้ในฟอร์มที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเลยก็ได้
หรือถ้าหากไม่ได้ระเบิดฟอร์มเปรี้ยงอะไรมากมาย อย่างน้อยที่สุดเขาก็ได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาสู่สภาพ "นักฟุตบอลอาชีพ" ของทีมที่ผู้จัดการทีมกำลังตั้งมาตรฐานการเล่นไว้สูงมากอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อีกครั้งแล้ว และเขากำลังจะได้เป็นหนึ่งในขุมกำลังของทีมปีศาจแดงในช่วงสำคัญที่กำลังลุ้นทำผลงานทุกรายการให้ดีที่สุดในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้
#เสียบสามเหลี่ยม #ซานโช่ #เจดอนซานโช่ #เทนฮาก #เอริคเทนฮาก #ผีแดง #ปีศาจแดง #แมนยู #แมนฯยูไนเต็ด #แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด #พรีเมียร์ลีก
โฆษณา