19 ม.ค. 2023 เวลา 02:55 • ธุรกิจ

บริษัทไทย เป็นเจ้าของเหมืองถ่านหิน ทั่วโลก

ในปีที่ผ่านมา ราคาของถ่านหินทั่วโลกทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปรับตัวขึ้นไปเกือบ 3 เท่าจากปีก่อนหน้า
แม้ไทยจะไม่ได้เป็นผู้ส่งออกถ่านหิน แต่รู้หรือไม่ว่ามีบริษัทของไทย ที่ไปตั้งเหมืองถ่านหิน กระจายอยู่ทั่วโลก
บริษัทอะไรบ้างที่เข้าไปเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินในต่างประเทศ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ถ่านหิน เรียกได้ว่าเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของหลายประเทศ เนื่องจากถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าต่ำ
หลายประเทศจึงพึ่งพาการใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหิน ในการผลิตไฟฟ้าเป็นหลัก
โดยคิดเป็นอันดับ 2 ด้วยสัดส่วนกว่า 32.7% ของการบริโภคเชื้อเพลิงทั่วโลก ตามหลังน้ำมันที่มีสัดส่วน 37.6%
โดยประเทศที่ส่งออกถ่านหินมากสุด 3 รายแรก คือ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และรัสเซีย
ที่น่าสนใจคือ บริษัทไทยเองก็เข้าไปเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินทั่วโลก
2
ไม่ว่าจะเป็นในออสเตรเลีย อินโดนีเซีย รวมถึงจีน ที่แม้จะไม่ใช่ผู้ส่งออกรายใหญ่ แต่ก็เป็นประเทศที่มีการบริโภค และผลิตถ่านหินมากที่สุดในโลก
2
บริษัทที่ว่านี้ก็คือ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และบริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน)
โดยเฉพาะบ้านปู ที่มีการเข้าไปลงทุนถึง 3 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และจีน
ในปี 2564 บ้านปู มีปริมาณการผลิตของเหมืองต่างประเทศ แบ่งได้เป็น
อินโดนีเซีย 20.2 ล้านตัน
ออสเตรเลีย 9.8 ล้านตัน
จีน 6.0 ล้านตัน
2
สำหรับเหมืองในไทยของทั้ง 2 บริษัทนั้น ได้ปิดดำเนินการไปแล้ว และธุรกิจถ่านหินในไทย ปัจจุบันเป็นรูปแบบการจัดจำหน่ายเท่านั้น
1
ในขณะเดียวกัน ตลาดเหมืองถ่านหินทั่วโลก ก็มีการชะลอการเปิดเหมืองถ่านหินลง เนื่องจากหลาย ๆ ประเทศให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และหันไปสนับสนุนไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน
สาเหตุเนื่องจาก ถ่านหินปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สูงกว่าเชื้อเพลิงอื่น ถึง 2 เท่า และนโยบายในหลายประเทศทั่วโลก กำลังมุ่งเข้าสู่ Net Zero Carbon จึงทำให้หลายบริษัท เริ่มมีการถอนการลงทุนในถ่านหิน
แต่จะเห็นว่าในปี 2564 ราคาถ่านหินนั้นขึ้นไปสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งก็สะท้อนไปยังผลประกอบการของทั้ง 2 บริษัทที่มีรายได้มากกว่า 70% มาจากธุรกิจถ่านหิน ส่งผลให้รายได้และกำไรของบริษัทก็ทำจุดสูงสุดในรอบ 10 ปี
1
โดยผลประกอบการย้อนหลัง ของผู้ผลิตถ่านหินทั้ง 2 บริษัทเป็นดังนี้
1
- บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)
ปี 2563 รายได้ 72,930 ล้านบาท ขาดทุน 1,786 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 134,990 ล้านบาท กำไร 9,852 ล้านบาท
ปี 2565 (9 เดือน) รายได้ 192,075 ล้านบาท กำไร 40,797 ล้านบาท
4
- บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน)
ปี 2563 รายได้ 9,583 ล้านบาท กำไร 293 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 15,854 ล้านบาท กำไร 1,575 ล้านบาท
ปี 2565 (9 เดือน) รายได้ 19,617 ล้านบาท กำไร 2,522 ล้านบาท
1
จะเห็นว่าทั้งรายได้และกำไรเติบโตแบบก้าวกระโดด
โดยเฉพาะบ้านปู ที่พลิกจากขาดทุน 1,786 ล้านบาท กลายเป็นกำไรกว่า 40,797 ล้านบาท ใน 2 ปี
ปัจจัยหลักมาจากความต้องการถ่านหินฟื้นตัวขึ้น จากการที่ทั่วโลกเริ่มกลับมาเปิดประเทศหลังจากล็อกดาวน์
กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกกลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่งผลต่อความต้องการใช้พลังงานสูงขึ้นไปด้วย
ในขณะที่ประเทศจีน ที่มีการบริโภคถ่านหินมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกก็ลดการผลิตลง จากการที่รัฐบาลได้เข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยในเหมืองต่าง ๆ มากขึ้น
เนื่องจากอุบัติเหตุในเหมืองถ่านหินในช่วงต้นปี 2564
1
เหมืองหลายแห่งจึงต้องหยุดการผลิตชั่วคราว เพื่อปรับปรุงมาตรการด้านความปลอดภัย ให้เป็นไปตามข้อกําหนดราคา ถ่านหินจึงปรับตัวขึ้นไปสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2564
นั่นจึงทำให้ผู้ค้าถ่านหินของไทยทั้ง 2 บริษัท มีรายได้และกำไรเติบโตแบบก้าวกระโดด
1
ที่น่าสนใจคือ ถ่านหินเหล่านั้นไม่ได้มาจากเหมืองในไทยเลย แต่มาจากเหมืองถ่านหิน ที่ทั้งคู่ ได้ลงทุนเอาไว้ อยู่ทั่วทุกมุมโลก นั่นเอง..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว มีบริษัทที่ทำธุรกิจเหมืองถ่านหิน สัญชาติไทยอีกหนึ่งบริษัทที่ชื่อว่า เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ หรือ EARTH ที่แจ้งว่ามีเหมืองถ่านหินอยู่ที่อินโดนีเซีย แต่ในเวลาต่อมา EARTH ก็ได้ผิดนัดชำระหุ้นกู้ และยื่นล้มละลายในที่สุด..
2
ใครอยากมีความรู้เรื่องตลาดหุ้น ลงทุนแมนแนะนำ หนังสือ BLACK SWAN เล่มนี้ ราคา 380 บาท ที่เล่าถึงความล้มเหลวก่อนที่จะสำเร็จของนักลงทุนในตำนาน 12 คน สามารถสั่งซื้อ ได้ที่
1
References
-รายงานประจำปี บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)
-รายงานประจำปี บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน)
โฆษณา