26 ม.ค. 2023 เวลา 05:00 • ธุรกิจ

ITEL Services พร้อมให้บริการแบบครบวงจร ประตูสู่ความสำเร็จขององค์กร

ในปี 2023 ที่กำลังจะมาถึง ทุกธุรกิจย่อมมุ่งมั่นสู่การเป็นที่หนึ่ง เทคโนโลยีจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเพิ่มกำลังการแข่งขันให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ
และการตามกระแสความเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มที่กำลังมาถึงจะช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างไม่มีสะดุด
เพราะเทคโนโลยีคือประตูสู่ความสำเร็จขององค์กร การที่องค์กรจะจัดการข้อมูลที่มีขนาดใหญ่และกระจัดกระจายให้เชื่อมโยงการทำงานและสร้าง Community ร่วมกันผ่านเทคโนโลยี ทำให้ปัจจุบันองค์กรสามารถทำงานใน ได้อย่างปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี
แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำนายอนาคต แต่คอลัมน์นี้ อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม ได้พาผู้อ่านทุกท่านมาติดตามความพัฒนาของเทคโนโลยีจากทั่วโลกและเข้าไปดูว่าแต่ละธุรกิจได้นำมาใช้อย่างไร
เพื่อทำความเข้าใจนวัตกรรมและการใช้งานของเทคโนโลยีในมุมมองใหม่ๆ เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจ โดยการ์ทเนอร์ เผย 7 เทรนด์เทคโนโลยี 2023 ที่น่าจับตาและไม่ควรพลาด มีดังต่อไปนี้
1. ประสบการณ์การทำงานกับ Metaverse ประโยชน์จากเทคโนโลยี Metaverse ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการมีส่วนร่วม การทำงานร่วมกัน และการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นกับพนักงานในสถานที่ทำงาน
2. รถบินได้ (Flying cars) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเพื่อสร้างวิถีการเดินทางทางอากาศที่เร็วกว่า ถูกกว่า ปลอดภัยกว่า
3. ระบบเศรษฐกิจของมนุษย์ดิจิทัล โดยระบบเศรษฐกิจมนุษย์ดิจิทัลนั้นนำเสนอโอกาสให้แก่ระบบนิเวศดิจิทัลใหม่ๆ ซึ่งอาศัยศักยภาพของเทคโนโลยี
4. องค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ(The Decentralized Autonomous Organization) เป็นองค์กรรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในตลาดบริการด้านไอทีมีศักยภาพที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในอุตสาหกรรม
5. การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) แบบไร้สาย การชาร์จแบบไดนามิก (Dynamic Charging) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มระยะทางขับขี่ได้ไกลขึ้น และลดต้นทุนต่างๆ
6. กราฟีนจะมาแทนที่ซิลิคอนศักยภาพมหาศาลของอุปกรณ์ทรานซิสเตอร์แบบฟิลด์เอฟเฟกต์ที่ใช้คาร์บอนเป็นโครงสร้างหลักทดแทนซิลิคอนในทรานซิสเตอร์แบบเดิมที่มาถึงขีดจำกัดเรื่องขนาดที่เล็กสุด
7. เทคโนโลยีกลายเป็นของใช้แล้วทิ้ง ในการดำเนินธุรกิจที่เน้นความคล่องตัวเป็นหลัก (Business Composability) ถือเป็นโอกาสของผู้บริหารไอทีที่จะดำเนินการไปอีกขั้น และเตรียมพร้อมสร้างความยืดหยุ่นให้แก่เทคโนโลยีแบบที่ใช้แล้วทิ้ง
แนวโน้มเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ ของ Gartner จะช่วยตอบสนองความต้องการทางธุรกิจในการปรับให้เหมาะสมในแต่ละรูปแบบ
โดยบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) พร้อมชูจุดเด่นในการให้บริการด้วยการเป็นเจ้าถนนไฟเบอร์ออฟติก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้โครงข่าย "Interlink Fiber Optic" เป็นโครงข่ายที่มีความรวดเร็วและเสถียรที่สุดในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และสามารถรองรับการให้บริการรูปแบบใหม่ๆ
ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และมุ่งมั่นเป็นเพื่อนคู่คิดให้กับองค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน เพื่อก้าวสู่ยุคดิจิทัล เน้นให้ความสำคัญในการให้บริการแก่ลูกค้า และจะยึดความต้องการของลูกค้า (Customization)
โดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการที่คล่องตัวที่สุดเพื่อตอบสนองธุรกิจของลูกค้าเพื่อทำให้ทุกการเชื่อมต่อของลูกค้านั้นคล่องตัว รวดเร็ม มีเสถียรภาพสูง ไม่ซับซ้อน
โครงข่าย Interlink Fiber Optic ของบริษัทฯ มีโครงข่ายทั้งบนเส้นทางถนนและเส้นทางรถไฟ ทำให้มีความได้เปรียบในการแข่งขันครอบคลุมถึง 75 จังหวัด ทำให้โครงข่ายมีเสถียรภาพสูง สามารถให้บริการครอบคลุม ตั้งแต่
1. การให้บริการโครงข่ายวงจรสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง (Data Service)
- Interlink MPLS IP-VPN : รับ-ส่งข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยี MPLS ทำให้แต่ละจุดเชื่อมต่อเป็นโครงข่ายส่วนตัวเสมือนจริงและกำหนดลำดับความสำคัญของข้อมูลตามประเภทที่ใช้งาน
- Interlink Wavelength : การรับ-ส่งข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยี DWDM ซึ่งใช้วิธีส่งข้อมูลไปบนหลายๆ ช่วงความยาวคลื่น ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลจำนวนมากไปพร้อมๆ กัน
- Interlink Dark Fiber : เชื่อมต่อข้อมูลโดยผู้ใช้บริการสามารถเลือกเทคโนโลยีสำหรับการรับ-ส่งข้อมูลตามความต้องการได้โดยอิสระ รวมทั้งยังเป็นผู้รับผิดชอบบริหารจัดการโครงข่ายเองทั้งหมด
-Interlink IPLC : บริการวงจรเชื่อมต่อในลักษณะจุดต่อจุด ผ่านโครงข่ายในประเทศไทยไปทั่วโลก
- Broadcast Services : การให้บริการในรูปแบบของธุรกิจบรอดแคสต์อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมนำเสนอโซลูชันในการส่งสัญญาณและออกอากาศโดยทีมงานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ
2. การให้บรการติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม (Installation)
เป็นการให้บริการติดตั้งโครงข่าย โทรคมนาคมแบบครบวงจรตั้งแต่ให้คำปรึกษาออกแบบและติดตั้งโครงข่ายที่เกี่ยวข้องกับระบบสื่อสารความเร็วสูง
3. การให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ (Data Center)
Data Center ของทางบริษัทฯ ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อทำให้การรับ-ส่งข้อมูลและทุกการสื่อสารทำได้สะดวกรวดเร็วขึ้น
และเป็นพื้นที่สำหรับให้บริการให้พื้นที่เซิร์ฟเวอร์ พื้นที่วางเซิร์ฟเวอร์ศูนย์ (Colocation)จัดเตรียมไว้สำหรับลูกค้าแต่ล่ะราย และให้เช่าเซิร์ฟเวอร์เสมือนคุณภาพสูง (Virtual Server) และศูนย์สำรองข้อมูลฉุกเฉิน (Disaster Recovery Service) แก่องค์กรต่าง ๆ เพื่อให้บริการตามจุดประสงค์ต่างๆ
บริการโครงข่ายสื่อสารความเร็วสูงแบบใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) เสถียรสูง ปลอดภัย ของ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) มีทีมวิศวกรดูแลตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน
ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าบริการของบริษัทฯ สามารถตอบสนองการส่งผ่านข้อมูลและการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยสูงสุด และสามารถตรวจสอบสถานะของโครงข่าย เพื่อให้สามารถป้องกันหรือแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที
จึงทำให้โครงข่าย Interlink Fiber Optic สามารถให้บริการได้ด้วยมาตรฐานและคุณภาพบริการ (Service Level Agreement) ที่ระดับ 99.9% เสริมความแข็งแกร่งด้วยการแจ้งเตือนและแจ้งอัปเดตทุกครั้งที่มีความคืบหน้าในการดำเนินงานเพื่อให้ลูกค้าที่ใช้บริการรู้ความเคลื่อนไหวในการดำเนินงาน
ซึ่งการเข้าแก้ไขเหตุขัดข้องต่างๆ จะสามารถดำเนินการได้ ตลอด 24 ชม. เนื่องจากการติดตั้งอุปกรณ์โครงข่ายของบริษัทฯ นั้นติดตั้งอยู่ในพื้นที่ที่บริษัทฯ สามารถเข้า-ออกได้ตลอดเวลา แม้ในเวลากลางคืนหรือวันหยุด
ซึ่งจะดำเนินการผ่านทางทีมงานของบริษัทฯ ที่อยู่ประจำศูนย์ปฏิบัติการและซ่อมบำรุงโครงข่าย ตามภูมิภาคต่างๆ (Operation and Maintenance Center) ทั้ง 38 ศูนย์ทั่วประเทศ
หากองค์กรของท่านต้องการเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถไว้ใจได้ บริการมีความปลอดภัยน่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน ได้รับการรับรองในระดับสากล สามารถติดต่อ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน)
เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อีเมล: info@interlinktelecom.co.th
โฆษณา