Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เมืองไทยไดอารี่ by Supawan
•
ติดตาม
22 ม.ค. 2023 เวลา 00:36 • ท่องเที่ยว
วัดท่าตอน พระอารามหลวง .. อำเภอฝาง เชียงใหม่
วัดท่าตอน พระอารามหลวง .. อำเภอฝาง เชียงใหม่
“วัดท่าตอน” เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ ในหมู่ที่ 3 บ้านท่าตอน ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
ภาพจาก internet
ภาพร่างพื้นที่ของวัดท่าตอน .. แบ่งออกได้เป็น 9 ชั้น (เราไม่ได้ไปเยี่ยมชมครบทุกชั้น)
“วัดท่าตอน” .. ตั้งอยู่บนยอดเขาต่อเนื่องหลายลูก บนเนื้อที่ประมาณ 425 ไร่ แยกเป็นพื้นที่ตั้งวัดชั้นล่าง 45 ไร่ และเป็นเขตอุทยานพุทธศาสนาและสำนักปฏิบัติธรรมราว 380 ไร่
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาลาดชัน มีที่ราบริมน้ำแม่กก
วัดท่าตอนในปัจจุบัน .. มองจากเนินเขา ณ สถานที่ประดิษฐานพระองค์ขาว
พระองค์ขาว .. ซึ่งประดิษฐานอยู่ในระดับช่วงกลางของเทือกเขาอันเป็นที่ตั้งของกลุ่มอาคารของวัดทั้งหมด
“วัดท่าตอน” เดิมเป็นวัดโบราณ ร้างมานานหลายร้อยปี ... มีพระเจดีย์เก่าชำรุดอยู่หนึ่งองค์ ล้อมรอบด้วยป่าหนาทึบ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างในสมัยใด
มีการคาดคะเนย์ว่า...อาจสร้างในสมัยเดียวกับที่พระเจ้าพรหมมหาราชทรงสร้างพระธาตุสบฝาง ( ประมาณหลัง พ.ศ. 1483 ) เพราะอยู่ไม่ห่างกัน (ประมาณ 5 กิโลเมตร) และตั้งอยู่บนยอดเขา ริมแม่น้ำกกเช่นเดียวกัน อีกทั้งจารึกในฐานพระพุทธรูปวัดศรีบุญเรือง ซึ่งนำมาจากวัดร้างในท้องนาบริเวณไม่ห่างจากท่าตอน ก็ใกล้เคียงสมัยพระเจ้าพรหมมหาราชมาก
ตามตำนานสุวรรณดำแดงกล่าวว่า กลุ่มคนไทยที่อพยพเข้ามาอยู่ตอนกลางของเชียงใหม่ ประมาณหลังปี พ.ศ. 1700 นั้น เป็นผู้นับถือพุทธศาสนา นักประวัติศาสตร์หลายท่านได้มีความเห็นว่า บริเวณลุ่มน้ำต่างๆ เช่น แม่น้ำกก เป็นที่ตั้งของชุมชน ที่มีวัฒนธรรมอยู่มาก่อน ก่อนที่จะสร้างเมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 1839 ห่างจากวัดท่าตอนไปทางทิศตะวันออกประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของเมืองเก่า ชื่อ เวียงแข่ ยังคงมีคูเมืองปรากฏอยู่ เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองในสมัยใดนั้น ไม่เป็นที่ปรากฏหลักฐาน
การค้นคว้าคำจารึกในฐานพระพุทธรูปเก่าที่สุดที่พบในวัดศรีบุญเรือง เขตอำเภอแม่อาย จุลศักราช 221 (พ.ศ. 1403 ) กล่าวว่า ... พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์โบราณที่พบตามวัดร้างในท้องนาและริมแม่น้ำฝาง ซึ่งวัดต่างๆ ในท้องที่เก็บรักษาไว้ บางส่วนขนย้ายไปจังหวัดเชียงราย (วัดมุงเมือง) และส่วนกลาง ( พ.ศ. 2424 คาร์ล บ็อค มาสำรวจเมืองฝางขนไปบ้าง )
… แสดงให้เห็นถึงร่องรอยแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่ผ่านมาหลายศตวรรษของถิ่นนี้ในอดีต แม้ในจุลศักราช 636 (พ.ศ. 1818) พระยามังรายเสด็จมาเสวยราชสมบัติในเมืองฝาง ก็มิได้ปรากฏว่าพระองค์สร้างเมืองขึ้นใหม่
ฝางและอำเภอใกล้เคียง (เวียงไชย เวียงแข่ เมืองงาม เป็นต้น) คงเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อนแล้ว ในตำนานเมืองเหนือ กล่าวว่า ... “อันเมืองฝางนั้น เป็นเมืองที่สร้างมาแต่โบราณกาลแล้ว หากจะพูดตามตำนาน ก็สร้างมาแต่สมัย “พระเจ้าลวะจังกราช” ปฐมกษัตริย์ “ราชวงศ์ลาวจก” และต่อมาในสมัย “พระเจ้ามังราย” บ้านเมืองเดิมก็คงชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่ด้วยเป็นที่อุดมสมบูรณ์ พระเจ้ามังรายจึงได้บูรณะขึ้นอีกครั้งหนึ่ง”
เมื่อคราวที่ “ครูบาศรีวิชัย” ได้ขึ้นมาบูรณะพระธาตุสบฝาง ท่านได้มาถึงท่าตอนแล้วบอกชาวบ้านให้ขึ้นไปหาพระธาตุบนเขา ชาวบ้านได้พากันถางป่าเพื่อค้นหา และพบเจอพระธาตุเก่าแก่อยู่ในพุ่มไม้ จึงนิมนต์ท่านบูรณะ แต่ท่านไม่รับ และบอกให้นิมนต์ “พระครูบาแก้ว กาวิชโย มาบูรณะ”
ในปี พ.ศ. 2470 พระครูบาแก้ว กาวิชโย จากสำนักวัดแม่แหลง (วัดมงคลสถาน) ได้มาเป็นประธานในการบูรณะวัดร้างขึ้นเป็นวัดที่มีพระสงฆ์ สร้างพระเจดีย์ครอบพระเจดีย์องค์เดิม และสร้างเสนาสนะขึ้นอีกหลายหลังเดิมใช้ชื่อว่า “วัดจอมคีรีปิงขอก” หรือ “วัดจอมคีรีศรีปิงขอกต่าตอนจัย”
เราไปเยือน “วัดท่าตอน” ในพื้นที่ด้านล่าง ติดกับแม่น้ำกก .. มาเพื่อกราบสักการะโบราณวัตถุในวัด เมื่อต้นเดือนมกราคา 2565 ..
มองเห็นศาลเจ้าตั้งอยู่ ณ ด้านหนึ่งริมผา
พระโพธิสัตว์กวนอิม .. ประดิษฐานบนผาสูงริมแม่น้ำกก ไม่ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำ สถานที่ ณ จุดนี้นับเป็นชั้นที่ 1 ใน 9 ระดับของโบราณสถานที่ตั้งของวัดท่าตอน
เจดีย์เก่า .. ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ ตั้งอยู่กลางลานวัด
สิ่งที่น่าสนใจของ “วัดท่าตอน” แห่งนี้ อยู่ภายในพระอุโบสถ .. ซึ่งมีพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนและศิลปะสมัยพ่อขุนเม็งรายซึ่งอัญเชิญมาจากวัดพระธาตุสบฝาง
หมู่พระพุทธรูปที่ประดิษฐานกลางพระอุโบสถ .. มีพระพุทธรูปทรงเครื่อง พุทธลักษณะสวยงามเป็นพระประธาน
ด้านหลังของพระพุทธรูปทรงเครื่อง
อีกมุมหนึ่งของหมู่พระพุทธรูป
จากการสำรวจโบราณวัตถุ และศิลปวัตถุของกรมศิลปากร พบว่า … พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์โบราณ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวัดท่าตอน (ศาลาพุทธบุตรประชาสรรค์) ปางมารวิชัยประทับนั่ง 5 องค์
ความงดงามของพุทธศิลป์
ปางประทับยืน 3 องค์ เป็นศิลปะล้านนา เป็นพุทธศิลป์ซึ่งทรงคุณค่าในทางประวัติศาสตร์ มีอายุ 500-700 ปี
พระพุทธรูปด้านข้างพระประธาน
มีคำจารึกที่ฐานพระพุทธรูป 2 องค์ ปางมารวิชัย ประทับนั่งองค์เล็กสุด (พระฝนแสนห่า) สร้างเมื่อจุลศักราช 910 (พ.ศ. 2092)
พระพุทธรูปปางประทับยืนอุ้มบาตร .. บอกแต่เพียงชื่อผู้นำสร้าง และผู้ร่วมทำบุญ ไม่บอกศักราช ดังนั้น จึงสันนิษฐานว่า วัดท่าตอน ได้สร้างมาแล้วเป็นเวลาช้านานหลายร้อยปี
พระอุโบสถแห่งนี้ ดูเรียบง่าย .. การตกแต่งไม่มีอะไรที่เรียกว่าวิจิตรอลังการ เมื่อเทียบกับอีกหลายๆวัด แต่ให้บรรยากาศสงบ สบาย หากมองลงไปเบื้องล่างจะเห็นสะพานข้ามแม่น้ำกก
สะพานข้ามแม่น้ำกก .. มองเห็นชัดเจน
ภาพจิตรกรรมบนปูนปั้นที่มีลักษณะเหมือนใบเสมาที่ห้อยลงมาริมชายคาของอาคารนั้น เป็นภาพที่เกี่ยวเนื่องกับพุทธประวัติ และศาสนาพุทธ ในสไตล์ศิลปะไทย และจีน
ทัศนียภาพของชุมชนเบื้องล่าง และภาพจิตรกรรมในเฟรมเดียวกัน .. บอกเรื่องราว และวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น
อีกหนึ่งมุมมอง .. งดงามในสายตา
“วัดท่าตอน” ..ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2518 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร ได้รับการยกฐานะจากวัดราษฎร์เป็นพระอารามหลวง เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2534
“วัดท่าตอน” .. ยังเป็นสถาบันการศึกษาสำหรับพระภิกษุ สามเณร และเยาวชน เป็นศูนย์บำบัดยาเสพติดและศูนย์สงเคราะห์ชาวเขา
ในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 … พระครูวิมลกิตติสาร ปัจจุบัน คือ พระราชปริยัติเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าตอนได้ริเริ่มโครงการก่อสร้าง “พระเจดีย์แก้ว” เฉลิมพระเกียรติไว้บนยอดเขา คือ “พระบรมธาตุรัชมังคลาจารย์สมานฉันท์” เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และให้ผู้เลื่อมใสศรัทธาได้เข้ามากราบไหว้สักการะ
บันทึก
4
1
3
4
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย