และไม่ควรสร้างหนี้สิน (เพิ่ม)
ในช่วงเริ่มต้นอาชีพ?
ในชีวิตการทำงาน 25 ปีที่ผ่านมา ผมเห็นตัวแทนเก่งๆ มากประสบการณ์vายและการบริหารทีม ต้องประสบกับปัญหาการเงิน และตายจากอาชีพ เพราะขาด FINANCIAL INTELLIGENCE (ความฉลาดทางการเงิน) ซึ่งเป็นคนละวิชากับการvายการบริหารทีมงาน
หลายคนใช้เงินเกินตัว จนเป็นหนี้สิน และต้องหลบลี้หนีเจ้าหนี้ ทำให้ล้มเหลวจากอาชีพไปอย่างน่าเสียดาย
ผมไม่อยากเห็นคนเก่งคนดีต้องจบไม่สวย เพราะไม่เข้าใจเรื่องนี้
ด้วยเหตุนี้ เบื้องต้นผมแนะนำให้ตัวแทนเก็บเงินอย่างน้อย 10% ของรายได้ (และค่อยเพิ่มอัตราส่วนมากขึ้นในอนาคต) ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามจำไว้ว่า Pay yourself first! จ่ายให้ตัวเองก่อน
สิ่งนี้จะส่งผลดีต่อตัวแทนโดยตรง
ข้อดีเมื่อตัวแทนมี “เงินเก็บ” ในบัญชี
1.ตัวแทนมีความรู้สึกมั่นคงทางการเงิน
จำไว้ว่า “สุขใดไหนเล่า ล้วงเป๋าเจอตังค์”
แต่ถ้าล้วงเป๋าไป แล้วไร้สตางค์
เชื่อเถอะครับว่า มันห่อเหี่ยวจนตัวแทนไม่อยากทำอะไร
2.ตัวแทนรู้สึกมั่นใจในวิชาชีพว่าทำแล้วทำเงินได้จริง
ถ้าตัวแทนเห็นเงินในบัญชีที่เกิดจากค่าคอมมิชชั่น
ตัวแทนจะมีความมั่นใจในวิชาชีพจะสูงขึ้น
3.เมื่อตัวแทนรู้สึกมั่นคง และมั่นใจในวิชาชีพ
สิ่งนี้จะส่งผลต่อโดยตรงต่ออารมณ์ในการทำงาน
แต่หากไม่มีเงินเก็บ จิตใจของตัวแทนจะมุ่งอยู่ที่
การหาเงินให้ได้ ส่งผลต่อการนำเสนอลูกค้า
ลูกค้าได้กลิ่นของความอยากได้ของตัวแทน
มากกว่าจะรู้สึกว่าตัวแทนมาช่วยลูกค้าแก้ปัญหา
4.ในระยะยาว หากตัวแทนเก็บออมเดือนละ 10% สม่ำเสมอ
และตัวแทนนำไปลงทุนอย่างถูกต้องตามหลักการ
เงินจะเติบโต และกลายเป็นแหล่งที่มา
ของทรัพย์สินและ Passive income ในอนาคต
ยิ่งเพิ่มความมั่นใจ ความมั่นคงทางอารมณ์ ให้ตัวแทน
และมี Financial Security (ความมั่นคงทางการเงิน)
5.ตัวแทนอย่าเป็นคนประเภทที่วิล สมิธ เคยกล่าวไว้ว่า..
“มีคนมากมายเหลือเกิน
ใช้เงินที่เขายังไม่มี
ไปซื้อของที่เขาไม่ต้องการ
เพื่อไปอวดคนที่เขาไม่ชอบ”
อย่าสร้างหนี้ เพราะวัตถุประสงค์นี้
อย่าทำตามสิ่งที่สังคมเห็นว่าดี
โดยที่ตัวแทนเองก็ไม่มีความสุข
ยังไม่ต้องรีบซื้อหนี้สิน ถ้าสถานการณ์ยังไม่พร้อม
เมื่อคุณซื้อบ้านแพงๆ รถแพงๆ
คุณมีภาระต้องผ่อนทุกเดือน
แต่ยอดขายอาจไม่มีเข้ามาทุกเดือน
เมื่อจิตใจครุ่นคิดอยู่เพียงว่า
จะหาเงินมาผ่อนหนี้ ได้อย่างไร
ตัวแทนจะเข้าสู่โหมด Survival (เอาชีวิตรอด)
มากกว่าที่จะมีความคิดสร้างสรรค์
เพื่อพัฒนาตัวเอง หรือทำให้ธุรกิจเติบโต
ถ้าตัวแทนยังเครียดเรื่องหาเงิน
สมองไม่โล่งโปร่ง
ประสิทธิภาพการทำงานลดลงแน่นอน
เมื่อลูกค้าจะซื้อประกันชีวิตสักฉบับ
ลูกค้าเขาไม่ได้ดูว่าตัวแทนขับรถอะไร
ลูกค้าอยากรู้ว่า ตัวแทนช่วยเขาแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
และดูแลหลังการขายได้ยอดเยี่ยมหรือไม่
คุณว่าจริงไหม?
อนึ่ง หากใครสร้างหนี้ไปแล้ว
ยังมีวิธีแก้ไข (รับรองได้ผล ผมและครอบครัวเองก็แก้ไขหนี้ 30 ล้าน ที่ครอบครัวผมต้องเผชิญก่อนทำธุรกิจประกันชีวิต ได้สำเร็จมาแล้ว) ผมจะเขียนมาให้อ่านในบทความต่อไป เนื่องจากบทความนี้ยาวพอสมควรแล้ว
ผู้เขียนหวังว่า หลักการ 5 ข้อนี้จะช่วย
ตัวแทนแก้ปัญหา และเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการทำงานได้ครับ
#หากคุณอ่านจบพบว่ามีคุณค่ากับคุณ พิมพ์ “มีคุณค่า”
ผมจะได้ทราบว่าบทความแนวนี้มีคุณค่ากับคุณ ผมจะได้เขียนมาให้อ่านอีกครับ
.
เขียนโดย เจฟ ชัยยะพัส
==========
หากคุณอยากได้ไอเดียดีดี เพื่อช่วยในการนำเสนออย่างมืออาชีพ
คุณสามารถสั่งซื้อหนังสือ อีบุค ออดิโอบุค ภาพ+บทความทำคอนเท้นต์
1ถูกใจ
537รับชม
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
