EP : 311 (repost)
โลกแสนวิเศษ
ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมาผมมีนักวาดชาวญี่ปุ่นที่ผมชอบและติดตามเพิ่มขึ้นมาอยู่หลายๆคนครับหนึ่งในนั้นที่ผมชอบเอามากๆ คือ นักวาดที่ชื่อ Asano Inio ครับ ผมรู้จักผลงานของ อ. เขาจากการสุ่มเปิดดูหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นในร้านญี่ปุ่นครับ ต้องเรียกว่าเป็นเรื่องบังเอิญเอามากๆที่หนังสือเป็นพันเป็นหมื่นผมหยิบผลงานของ อ. ขึ้นได้มาดูได้ สิ่งที่สะดุดตาอย่างแรกในผลงานที่ผมอ่านไม่ออกนั้นก็คือลายเส้นฉากหลังที่ดูสวยงามเสมือนจริงและดูมีมิติมาก
แม้ผมจะอ่านอะไรไม่ออกเลยแต่ต้องบอกว่าตั้งแต่วินาทีนั้นผมตกหลุ่มรักผลงานของ อ. อย่างถอนตัวไม่ขึ้น ถ้ามีโอกาสต้องไปหาผลงานของ อ. เขามาเก็บไว้ แม้จะอ่านไม่ออกแต่แค่ได้ดูภาพก็มีความสุขมากแล้วครับ
แต่ออกจะแปลกซักหน่อยที่แม้ลายเส้นเรื่องฉาก สิ่งของ มันจะเรียกว่าสุดยอดได้เต็มปาก แต่ตัวคนที่วาดออกมากี่เรื่องต่อกี่เรื่องจะเรียกได้ว่าไม่สมจริงและไม่สวยเหมือนฉากที่ผมบอกครับ ผมออกจะรู้สึกเสียดายตรงจุดเรื่องคนที่ อ.วาดออกมาเป็นแบบนี้เพราะรู้สึกว่า ด้วยฝีมือการวาดของ อ. นั้นเรื่องการวาดคนน่าจะวาดออกมาได้สวยสมส่วนกว่านี้ อันนี้ความเห็นผมนะครับ แต่นั่นคือสไตล์ของ อ. เขาครับ ผมก็ยังคงชอบผลงานของ อ. อย่างถอนตัวไม่ขึ้นอยู่ดี
จากการที่ผมมีงานของ อ.เขาเยอะระดับนึงในตอนนี้ ทำให้ผมที่ดูลายเส้นอยู่ตลอดเวลาและดูซ้ำๆไปเรื่อยๆ ทำให้ผมเริ่มที่จะคาดเดาหรือรู้เรื่องราวในเล่มที่ผมดูอยู่บ้างแล้ว ประกอบกับค้นหาข้อมูลอยู่บ้างและบางเรื่องที่ผมมีนั้นมีการนำไปสร้างเป็นหนังอยู่บ้างทำให้จับสไตล์เรื่องราวที่ อ. ต้องการสื่อสาร ได้เพิ่มขึ้นอยู่พอสมควรครับ
งานของ อ. ส่วนใหญ่และส่วนมากจะพูดถึงเรื่องราวช่วงเปลี่ยนถ่ายของชีวิตวัยรุ่น สู่การเป็นผู้ใหญ่ครับ รวมถึงสื่อสารการใช้ชีวิต มุมมอง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเด็ก หรือ วัยรุ่น รวมถึงผู้ใหญ่ในบางครั้ง ซึ่งเรื่องราวจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมุมมองและแง่คิด การใช้ชีวิตของใครบางคนรวมถึงการเติบโตเป็นในแบบต่างๆ โดยมีฉากหลังเป็นสภาพปัจจุบันอย่างที่เราเห็นคุ้นเคยกันครับ
ทำให้เมื่อผมดูภาพไปเรื่อยๆ จะเริ่มเข้าใจแนวทางในการนำเสนอของ อ. อย่างไม่ยากเย็น(แต่ไม่ได้บอกว่าตรงกับที่ต้องการสื่อสารหรือเปล่านะครับ555) ซึ่งเรื่องราวและการ์ตูนที่ อ. เขียนและผมมีอยู่นั้นจะนำมาเสนอให้ทุกท่านรู้จักในโอกาสต่อไปนะครับ
กลับมาที่เรื่องที่ผมต้องการนำเสนอนี้ก่อนครับ ต้องบอกว่าด้วยความที่ผมเข้าใจว่าไม่มีผลงานของ อ. เขาในบ้านเราแน่นอนเพราะด้วยแนวและสไตล์ที่อ.เขียนมันไม่ตลาดเอาซะเลย ไม่มีตัวร้าย ไม่มีเหตุการณ์วินาศอะไร ไม่มีพลังนั่นโน่นนี่ที่จะเอาไว้ขาย และอื่นๆ อีกมากมาย นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมตัดใจเชื่อเช่นนั้น
จนวันนึงไปเจอหนังสือญี่ปุ่นในร้านญี่ปุ่นและผมคุ้นมากว่าเฮ้ยเรื่องนี้ของ อ. เราก็มีอยู่นี่นา เลยต้องกลับไปรื้อและใช่เลยในเมืองไทยเคยพิมพ์งานในช่วงแรกๆของ อ. อยู่เรื่องนึงนี่นาเลยต้องรีบอ่านและเป็นที่มาของการรีวิวครั้งนี้กับเรื่อง “โลกแสนวิเศษ” ครับ
บนโลกอันอ่อนโยนแต่น่าเศร้า…
สนุกสนานแต่ขมขื่น …
และไร้แก่นสารเป็นที่สุด ที่พวกเรามีชีวิตอยู่....
โลกแสนวิเศษ เป็นผลงานแรกๆของ อ. Inio ดูได้จากลายเส้นที่ยังเป็นช่วงเริ่มต้น และปีที่เริ่มเขียนนั่นก็คือปี 2002 ได้ครับเรื่องนี้จึงมีอะไรหลายๆ อย่างที่เริ่มเป็นแนวทางของ อ. เขาอย่างชัดเจน โดยเนื้อเรื่องจะแบ่งเป็นตอนๆ เนื้อหามีตัวเอกและการดำเนินเรื่องตัวใครตัวมันเสมือนว่าเรื่องตอนนี้เป็นเรื่องราวของคนนี้
และ เรื่องตอนต่อไปก็จะเป็นของตัวละครต่อไป โดยที่ตัวเอกของแต่ละตอนอาจจมีความเกี่ยวข้องกับตัวละครเอกตอนต่อไปหรือไม่ก็ได้ครับ คือบางทีก็เป็นคนที่เกี่ยวข้องกันทางตรงเลย หรือบางทีก็เกี่ยวข้องแบบทางอ้อม หรือบางตอนไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยทางความรู้จัก แต่เกี่ยวข้องจากการที่ตัวละครตอนนี้นั้นเดินเข้าไปซื้อของจากร้านนี้และตอนต่อไปก็เล่าถึงคนที่ขายของในร้านนั้นครับ
ซึ่งการส่งถ่ายแบบนี้นั้นเป็นอีกจุดนึงที่ผมรู้สึกว่า อ. ต้องการจะสื่อสารว่าคนเราจะมีความสัมพันธ์กันโดยที่ไม่จำเป็นว่าเราต้องเคยคุยหรือทักทายกันนะ ที่ที่เราเคยไปนั่ง จะมีคนที่มีความรู้สึกแตกต่างจากเรา นั่งด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่เหมือนเรา และมีเรื่องราวในการมานั่งตรงจุดนี้แปลกแยกจากเราก็ได้ แต่เราก็ยังมีสายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันไม่ทางใดก็ทางนึงก็ได้ครับ อันนี้ผมคิดเองนะครับ 555
ตัวละครในเรื่องราวในเรื่องนี้เป็นคนญี่ปุ่นธรรมดาครับ ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือคนแก่ เล่าแบ่งเป็นเรื่องราวที่ดูไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่ทุกเรื่องและทุกตัวละครมีปัญหาที่กำลังหนักใจในตอนนั้นอยู่ อย่างเด็กน้อยที่กำลังมีปัญหากับความเป็นไปของโลกนี้และเพื่อนร่วมชั้น เด็กสาวที่ไม่ได้ทำงานและหันหลังให้กับการเล่นดนตรีที่ตัวเองถนัดเพราะเธอคิดว่าดนตรีไม่อาจทำให้เธอมีชีวิตที่ดีได้
หรือหนุ่มผู้หอบเงินหนีจากแก๊งค์ของตัวเองและต้องใช้งานสาววัยเรียนในการซื้อของและหลบหนีการตามล่า และเรื่องราวอื่นๆ อีกมากมาย
อย่างที่บอกว่าแม้เนื้อหามันจะดูไม่เกี่ยวข้องกันแต่ทุกตอนจะมีการเชื่อมและโยนบทเอกในตอนต่อไปให้กับตัวเอกใหม่โดยไม่ทางใดก็ทางนึงจนบางครั้งเราต้องพลิกหน้ากลับมาดูตอนที่แล้วว่า ที่กำลังเล่าเรื่องราวของคนนี้อยู่เนี่ย เจ้าคนนี้มันไปโผล่อยู่ตรงไหนของตอนที่แล้ว และบางครั้งคำตอบก็เป็นอะไรที่ดูง่ายดีอย่าง อ๋อ ไอ้คนนี้มันไปนั่งกินราเม็งอยู่โต๊ะข้างๆ ไอ้ตัวเอกในตอนที่แล้วนี่หว๋าประมาณนั้นครับ
และอย่างที่บอกเนื้อเรื่องที่ อ. ถนัดก็คือการนำเสนอเรื่องราวการก้าวข้ามช่วงวัยและความคิดของคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในญี่ปุ่นเรื่องนี้จึงนำแนวถนัดนั้นมาเขียน ต้องบอกว่าเป็นเรื่องแรกๆที่ อ.เขียนแนวนี้ก็ว่าได้ครับ มีหลายประเด็นที่ผมชอบ แม้จะเป็นเรื่องราวที่ผมพอรู้อยู่แล้วว่าสังคมญี่ปุ่นมันเป็นยังไงมีปัญหาอะไร
แต่เรื่องนี้เล่าเจาะความเป็นคนธรรมดาได้ดีมากครับ เนื้อหาแทบจะเรียกว่าเป็นปัญหาของคนแต่ละคนและก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ในตอนนี้ก็ว่าได้ เราจะได้เห็นตัวละครกำลังมองสังคมญี่ปุ่น มองตัวเอง มองอนาคตที่มืดมน มองทางแยกที่ตัวเองต้องเลือก มองการกระทำของคนรอบข้าง และอื่นๆอย่างครุ่นคิด อย่างสั่นไหว เพราะทุกตัวละครไม่มีอะไรที่ชัดเจนหรือความมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองต้องเผชิญอยู่
นั่นแหล่ะครับปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาของคนทุกคนเหรอครับ คุณไม่เป็นเหรอครับ เมื่อตอนที่เรียนจบไม่ว่าจะ ม.ต้น ม.ปลาย หรือจบ ปวช ปวส หรือ ปริญญาตรี แล้วไม่คิดว่าเราจะทำอะไรต่อไป แล้วเราจะเป็นยังไง คนที่เรารักตอนนี้จะอยู่กับเราไหม สิ่งที่เรากำลังทำจริงๆแล้วมันดีต่อเราจริงๆเหรอ แล้วสิ่งที่ตัดสินใจทำลงไปแล้วนี้มันทำให้เรามีความสุขจริงๆ หรือ และจริงๆ การมีชีวิตมันคืออะไร
คำถามในเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ซึ่งเกิดขึ้นกับคนในทุกยุคทุกสมัยบนโลกใบนี้นั้น ในเรื่องนี้ก็ถูกนำมาสื่อสารโดยตัวละครต่างๆ กันครับ มันให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากๆในเรื่องนี้ แม้ลักษณะการเล่าเรื่องจะเป็นไปแบบไม่หวือหวาและเร้าใจอะไรมาก โอเคมีบ้างตอนที่มีจังหวะเร่งและแปลกไปบ้างด้วยตัวละครที่เหนือธรรมชาติ
แต่โดยรวมแล้วการเล่าเรื่องแทบจะเป็นโทนปล่อยให้เราคิดตามไปในทุกตัวละครและทุกการกระทำที่เกิดขึ้นและกำลังเล่าเรื่องราวให้เราอ่านอยู่ตอนนี้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงควรอ่านในช่วงเวลาที่คุณมีเวลาพอที่จะคุ้นคิดอะไรบางอย่างไปด้วยเพราะช่วงเวลาที่เราได้คุ้นคิดต่อคำถามที่ตัวละครกำลังสื่ออยู่ตอนนี้อาจจะกำลังย้อนถามไปที่ตัวคุณหรือทำให้คุณคิดถึงอะไรบางอย่างในอดีต รวมถึงอนาคตของคุณก็เป็นได้
ทุกๆเรื่องราวของแต่ละคนมีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางนึง นั่นอาจเป็นอีกความรู้สึกนึงที่ได้หลังจากผมอ่านเรื่องนี้จบลง บางเรื่องราวสร้างความรู้สึกหดหู่เล็กๆให้ผม สร้างความกดดันให้กับผมบ้าง หรือสร้างคำถามบางอย่างให้กับใจผม แต่บางเรื่องราวก็ให้ความหวังและให้คำตอบบางอย่างให้กับคนอ่านอย่างผมด้วย ด้วยเรื่องราวที่ง่ายต่อการสร้างคำถามให้กับคนอ่านอย่างผมด้วยช่วงวันเวลาที่ตัวละครกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้นั้น คุณอาจเคยได้ผ่านมันมาแล้วก็ได้นะครับ
แต่แน่นอนเป็นที่สุดครับว่าเราคงไม่เข้าใจในทุกการกระทำของทุกตัวละครในนี้เพราะบริบทบางเรื่องบ้านเขากับเรามันต่างกันมาก บางเรื่องราวอาจไกลตัวเราไป แต่ความรู้สึกที่มีต่อคำถามหรือการเผชิญกับช่วงเวลาที่ต้องครุ่นคิดเหล่านี้นั้นเป็นสากลมาก เราแทบไม่ต้องแปลงคำถามหรือความรู้สึกที่เรากำลังอ่านอยู่ตอนนี้เพื่อให้เราเข้าใจมันมากขึ้นเลย นั่นแหล่ะครับคือสิ่งที่ปรากฏอยู่ในเล่มและเรื่องราวของ “โลกแสนวิเศษ”
โลกแสนวิเศษนี้ ในบ้านเราเจ้าของ LC คือ สนพ TKO ที่ปิดตัวไปแล้วครับ เป็นอีกครั้งที่ผมอยากจะย้อนเวลากลับไปอุดหนุนการ์ตูนของ TKO เยอะๆๆๆๆ เพราะ สนพ นี้มีผลงานดีๆเอามากๆ หลายเรื่อง แต่ ณ ตอนนั้นผมยังเข้าไม่ถึงผลงานที่โครตดีที่กล้านำมาพิมพ์ ตลาดเล็กๆ ของบ้านเราเลยปล่อยให้ สนพ นี้ต้องปิดตัวลง ด้วยเหตุผลทางด้านการเงิน(อันนี้ผมคิดเองนะ)
ด้วยค่ายนี้เงียบเอามากๆ มารู้ตัวอีกทีคือปิดตัวแล้ว และรู้ตัวอีกทีก็เจอว่าเฮ้ย การ์ตูนดีๆทั้งนั้นเลยนี่หว๋า สนพ นี้ไอ้ความรู้สึกแบบนี้เป็นมาหลายครั้งแล้วเพราะผมมีการ์ตูนหลายเรื่องของค่ายนี้ที่ได้มาตอนโล๊ะขายครับ
และเรื่องนี้ก็ย้ำความรู้สึกของผมตอนนั้น เพราะขนาดผมซื้อเรื่องนี้มาเก็บไว้แต่กว่าผมจะรู้และได้อ่านมันก็เพิ่งตอนนี้เอง ถ้าไม่รู้ว่านี่คืองานของ อ. เขาผมอาจจะยังไม่แกะมาอ่านก็ได้ นั่นคือปัญหาของผมที่ไม่รับรู้ถึงความดีงามของเรื่องที่ สนพ นี้นำมาพิมพ์จัดจำหน่ายให้คนอ่านอย่างเราๆได้อ่านกันเลย เสียใจและต้องขอโทษ สนพ TKO มา ณ โอกาสนี้(อีกครั้ง)ครับ
กล่าวก่อนจากกัน โลกแสนวิเศษนี้เป็นการ์ตูนที่เรามุมมองของคนหลายๆคนในหลายๆวัย ต่อช่วงเปลี่ยนผ่านของตัวเอง หรือช่วงเวลาแห่งการที่ต้องตัดสินใจว่าจะซ้าย ขวา หรือนอนอยู่ตรงนี้ พร้อมด้วยเรื่องราวที่ชวนตั้งคำถามให้กับตัวเองในหลายๆเรื่อง ในเรื่องราวของพวกเขาและเรื่องราวที่ผ่านมาของตัวคนอ่านเอง
ด้วยการเรียงร้อยเรื่องราวให้ต่อเนื่องด้วยการเชื่อมต่อของสิ่งเล็กๆน้อยๆ เหล่านี้จะสร้างการขบคิดให้กับตัวคุณเอง แม้จังหวะการเล่าจะไม่ได้แหวกแนวหรือแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ เป็นเพียงการเล่าเรื่องแบบง่ายๆ เพื่อให้เราได้ใช้เวลาที่กำลังอ่านคิดตามและรับรู้ถึงเรื่องราวที่ อ. ต้องการจะสื่อสาร
หรือหาคำตอบให้กับตัวเองว่า “โลกใบนี้แสนวิเศษจริงหรือ” เหมาะมากกับคุณที่มีคำถามอยู่ในใจหรือใครที่ทั้งเคยผ่านและกำลังจะผ่านช่วงเวลาที่สับสนอยู่ในใจ แนะนำให้อ่าน แต่อย่าคาดหวังเยอะเพราะการรับรู้และความชอบของแต่ละคนไม่เท่ากันครับ ส่วนผมชอบเรื่องนี้ครับ
ภาพ 7.5/10 (ค่าเฉลี่ยนะครับ)
เรื่อง 8.5/10
ความประทับใจ 8.9/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #2เล่มจบ #TKO #การ์ตูนแนวก้าวผ่านวัยรุ่น #การ์ตูนแนวดราม่า #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวเสียดสีสังคม #8คะแนน #โลกแสนวิเศษ” #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
