26 ม.ค. 2023 เวลา 10:09 • ธุรกิจ

SABINA เพิ่มแรงบวกรับปัจจัยหนุนไตรมาสแรก ด้วยกลยุทธ์ ‘ต้องดีจากข้างใน’

“ถามว่า มาตรการช้อปดีมีคืนช่วยกระตุ้นกำลังซื้อหรือไม่ ? หรือจีนเปิดประเทศเร็วขึ้นส่งผลดีกับเราหรือเปล่า ? ตอบได้ว่า ดีกับเราแน่นอน แต่ภายใต้ปัจจัยสนับสนุนเหล่านั้น เราต้องดีจากข้างใน
หมายถึงสินค้าต้องดี ราคาต้องโดน โปรโมชั่นต้องได้ ซึ่ง SABINA ตอบโจทย์ได้ทุกข้อ ทำให้เรามั่นใจว่า ไตรมาสแรกของปีนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ดีและเราสามารถรักษาการเติบโตของยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง” คุณดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA กล่าว
ตั้งแต่ต้นปี การจับจ่ายใช้สอยและการบริโภคในประเทศได้รับปัจจัยสนับสนุนสำคัญอย่างน้อย 2 ประการ
1
เรื่องแรก หลังจากรัฐบาลออกมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ให้ประชาชนนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการตามเงื่อนไขที่กำหนด วงเงินรวม 40,000 บาท แบ่งเป็นการออกใบกำกับภาษีปกติ 30,000 บาท
และการออกใบกำกับภาษีแบบออนไลน์หรือ e-Tax อีก 10,000 บาท สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้ปี 2566 ที่จะยื่นแบบในช่วงต้นปี 2567
โดยกำหนดระยะเวลาใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง 15 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งยอดใช้จ่ายสินค้า ‘ซาบีน่า’ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท
ขณะที่ปัจจัยที่ 2 เป็นเรื่องที่จีนตัดสินใจเปิดประเทศเร็วขึ้น หลังจากใช้มาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มานาน และมีการคาดการณ์ว่า จีนน่าเปิดประเทศให้ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวเดินทางได้ในช่วงกลางปี 2566
แต่จีนกลับเซอร์ไพร์สด้วยการผ่อนคลายการเดินทางตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเริ่มเดินทางออกไปในต่างประเทศคึกคักขึ้น โดยประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยวจีน
1
“ปัจจัยแรกนี่ส่งผลดีกับเราโดยตรง เพราะเป็นกำลังซื้อภายในประเทศล้วนๆ แล้วทั้งเราในฝั่งผู้ขายและฝั่งผู้ซื้อต่างก็มีประสบการณ์เรื่องเอกสารต่างๆ สำหรับลดหย่อนภาษีมาแล้ว ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก ส่วนปัจจัยนักท่องเที่ยวจีน เป็นปัจจัยหนุนทั้งทางตรงและทางอ้อม
เพราะปัจจุบันสินค้าของ SABINA ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ จากการติดตามจุดขายที่มีนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก พบว่ามียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนทางตรง
ขณะที่ปัจจัยหนุนทางอ้อมจากการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมในประเทศมีความคล่องตัวมากขึ้น และส่งผลให้เกิดการซื้อของผู้บริโภคในประเทศเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย”
แต่ “กำลังซื้อ” จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อ “สินค้า” ที่นำเสนอต้อง “โดนใจ” ลูกค้าแบบ “เอาอยู่”
“นอกจากการตัดสินใจเลือกซื้อชุดชั้นใน ที่บางครั้งนอกจากจะเลือกจากประโยชน์ใช้สอย เลือกที่ใส่สบายแล้ว เราพบว่า หลายครั้งที่ลูกค้าอาจจะรู้สึกเหมือนกับกำลังสบตาใครสักคน แล้วรู้สึกว่า ถูกใจใช่เลย ที่ผ่านมาเราเห็นพฤติกรรมของลูกค้าหน้าร้านหรือแม้แต่ในออนไลน์ที่เห็นปุ๊บแล้วชอบปั๊บ
ซึ่งจุดนี้มาจากการที่เรามีสินค้าหลากหลาย ไม่ใช่แค่ชุดชั้นในที่อยู่ข้างใน แต่นำไปสู่การเป็นชุดชั้นในที่ใส่ภายนอก เป็น Outer Wear ได้ รวมถึงชุดลำลอง เราตอบโจทย์ในเรื่องความหลากหลายของสินค้า
ตอบโจทย์ในเรื่องคุณภาพสินค้า รวมถึงการมีช่องทางบริการที่ลูกค้าเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งหน้าร้านผ่านเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า และซาบีน่า ช็อป ซึ่งหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ
เราพบว่า ช่องทางค้าปลีก (Retail) คึกคักขึ้นมาก เพราะลูกค้าสนุกกับการเลือกซื้อสินค้าด้วยตัวเอง ยิ่งสินค้ามีความหลากหลายก็ยิ่งตอบโจทย์ของลูกค้าได้มากขึ้น” คุณดวงดาวกล่าว
ขณะที่ช่องทางออนไลน์ (NSR) ก็ยังคงสร้างการเติบโตได้ดี หลังจาก SABINA สื่อสารผ่านสื่อโซเชียลในช่องทางต่างๆ ทำให้ลูกค้าสามารถอัพเดทคอลเลคชั่น รวมถึงโปรโมชั่นใหม่ๆ จากทาง SABINA ได้อย่างต่อเนื่อง
“สิ่งที่เราให้ความสำคัญในช่วงเวลาที่มีปัจจัยสนับสนุนหรือมีแสงสว่างแบบนี้ คือ ทำอย่างไรให้เราอยู่ในแสงสว่างนั้นได้ เพราะไม่ใช่ว่าทุกการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคจะมีเฉพาะเรา แต่เราจะทำอย่างไรให้มีเราอยู่ในนั้นให้ได้มากที่สุด
นั่นก็ต้องกลับไปที่จุดเริ่มต้นว่า สินค้าต้องดี ราคาต้องโดน โปรโมชั่นต้องได้ ทำให้ลูกค้านึกถึงเราเป็นคนแรก สำหรับ SABINA ตอนนี้รอแค่ผลลัพธ์สุดท้ายที่จะสะท้อนผ่านผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าแนวโน้มจะดีขึ้นอย่างแน่นอน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าว
ติดตามช่องทางการสื่อสารต่างๆของซาบีน่า
โฆษณา