แต่สิ่งหนึ่งที่บ่งชี้ถึงความแตกต่างที่มีเฉพาะในแบรนด์ RHYTHM ก็คือการออกแบบที่ต้องตอบโจทย์ความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัยบนทำเลนั้นๆได้อย่างโดนใจ เพื่อมัดใจกลุ่มลูกค้าที่เป็น Local Real Demand ที่มีความต้องการซับซ้อนอย่างเฉพาะเจาะจงให้ย้ายมาพักอาศัยบนโครงการนี้เพื่อทดแทนการอยู่อาศัยในรูปแบบเดิมๆ บนความเชื่อที่ว่าไม่มีใครที่จะรู้ถึง Value ในตัวที่ดิน และบริบทของทำเล นั้นๆมากไปกว่ากลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในย่านนั้นจริงๆ
ที่มีโจทย์จากกลุ่มลูกค้าว่าจะออกแบบพื้นที่อย่างไร ในการรองรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวที่ต้องใช้ชีวิตข้ามไปข้ามมาระหว่างโครงการและ Shrewsburry International School (Riverside) ควบคู่ไปกับการบาลานซ์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของกลุ่มคนโสดวัยทำงานในย่าน เจริญกรุง - สีลม - สาทร ซึ่งการพัฒนาโครงการภายใต้กลยุทธ์การออกแบบที่เอพีนิยามว่าเป็น Dynamic Personalized Model แบบนี้นับว่าเป็นงานที่ยากและท้าทายกว่า การพัฒนาโครงการในเซกเมนท์ Premium Mass ติดรถไฟฟ้าอย่างแบรนด์ Life หรือ Aspire
และใกล้โรงเรียนดังค่าเทอมสูงๆ ที่มีชื่อเสียงสำหรับครอบครัวที่มีศักยภาพทางการเงินระดับสูง นอกจากนี้เจริญกรุงยังคงมีสีสันจากความเป็นย่านมรดกทางวัฒนธรรมการค้า (Commercial Cultural Heritage District) ส่วนผสมเหล่านี้ใกล้ชิดกลมกลืนกันอย่างลงตัวจนทำให้เกิดชุมชนของผู้คนชนชั้นสร้างสรรค์ที่เรียกว่า Creative District ขึ้นมา ทำให้เกิด Community พิเศษขึ้นมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดเด่นของเจริญกรุงที่มีความเป็นย่าน High Quality Education Area เพราะมีโรงเรียนชั้นนำอย่าง Shrewsbury International School Bangkok (Riverside) และ Assumption College และโรงเรียนอื่นๆ รอบๆ อย่างย่านสาทรจึงทำให้มี Real Demand
เสริมให้เกิดการเรียนรู้ ให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ มี Courtyard แบบ Open space สำหรับเด็กเล็กๆ วิ่งเล่นอย่างสนุกสนานกลางแจ้ง ส่วนบริเวณ Pavillion ทั้ง 3 โซน มีแบ่งห้อง Study Pavillion สำหรับกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียนที่ต้องติวหนังสือแบบเดี่ยว หรือแบบกลุ่ม สำหรับคนรักการอ่านก็มีห้อง Reading Pavillion
ให้นั่งแบบเงียบสงบและมีมุมย่อยๆ เป็นส่วนตัว และยังมี Social Pavillion สำหรับการนั่งพูดคุยสนุกสนานได้อีก เรียกได้ว่าในพื้นที่เดียวกันแต่มีอีก space อื่นทับซ้อนกันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่าง เป็น Pavillion in Pavillion