30 ม.ค. 2023 เวลา 08:18 • ครอบครัว & เด็ก

https://pixabay.com/th/photos

แชร์ประสบการณ์ “ ซื้อบ้านปล่อยเช่า “
บ้านหลังที่ 1
หลังจากทำงานได้ 2ปี เก็บเงินได้เล็กน้อย เดินไปขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านกับธนาคารแห่งหนึ่ง ธนาคารยอมให้กู้พร้อมวางเงินดาวน์ไปจำนวนหนึ่งให้ธนาคาร ไม่สามารถกู้ได้ 100%
เมื่อได้บ้านมารีบประกาศให้เช่า ประมาณ 1สัปดาห์ ได้คนเช่าเป็นพนักงานโรงงาน ค่าเช่าที่ได้รับไม่พอส่งธนาคาร ต้องส่งเงินเพิ่มให้ธนาคารอีกเดือนละ 600 บาท ซึ่งก็พอไหวอยู่
บ้านนี้อยู่ในเมือง ผู้เช่าคนเดิมอยู่นานถึง 11 ปี ส่วนบ้านนั้นผ่อนธนาคารหมดที่ระยะเวลา 10 ปีแล้ว
ปีที่ 11 ของบ้านหลังนี้ คือเงินเก็บ ค่าซ่อมแซมในระยะ 10 ปี มีเล็กๆน้อยๆ ผู้เช่าไม่เคยแจ้งและผู้เช่ารับผิดชอบเองทั้งหมด
ปัจจุบันบ้านนี้ขายไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยได้กำไร ประมาณ 180 %
บ้านหลังที่ 2
หลังจากซื้อบ้านหลังแรกได้3 ปี เมื่อคิดพิจารณาแล้วเห็นว่า สามารถรองรับความเสี่ยงจากการที่ไม่มีผู้เช่าได้อย่างมั่นใจแล้ว จึงพิจารณาหาซื้อบ้านหลังที่ 2
🍀 โชคไม่เข้าข้าง ภายในจังหวัด ไม่มีหมู่บ้านสร้างขาย แต่มีคอนโดที่ดูดีมากๆสร้างขายหลายแห่ง สรุป ซื้อคอนโด และตัดสินใจซื้อทั้งที่ราคาค่อนข้างสูง โดยราคาแพงกว่าบ้านหลังแรกถึง 60% พื้นที่ใช้สอยน้อยกว่าหลายเท่าตัว อยู่ไกลตัวเมืองมากกว่า
ทำเหมือนเดิม คือรีบปล่อยเช่า แต่ต้องจ่ายค่าเฟอร์นิเจอร์ไปอีกหลายบาท ส่วนค่าเช่าที่ได้รับช่วง 3 ปีแรกได้ราคาดีมากๆเพราะคอนโดยังขายไม่หมด ทางโครงการยังให้การดูแลสภาพแวดล้อมทุกอย่างดีเยี่ยม
 
เมื่อทางโครงการขายหมด เริ่มมีปัญหาต่างๆนานา ผู้เช่าเปลี่ยนระดับลงไป ทำให้ได้ค่าเช่าเหลือแค่ครึ่งเดียวจากเดิม ส่วนราคาขายลดลงอย่างมากๆเหลือไม่ถึงครึ่งของราคาที่ซื้อไว้ จำใจต้องเก็บไว้และให้เช่าต่อไป ผ่านไป 10 ปี ราคายิ่งลดลงต้องรีบผ่อนธนาคารให้หมดโดยเร็ว
บ้านหลังที่ 3
ได้ซื้อบ้านมือ 2 มา 1หลัง เป็นบ้านแฝด หลังนี้ธนาคารให้กู้เต็ม อยู่ใกล้แหล่งโรงงาน
บ้านไม่ต้องปรับปรุง สามารถปล่อยเช่าได้ทันที
มีผู้เช่าทันที ราคาสมเหตุผล ไม่ได้แพงและถูกมาก ค่าเช่าสามารถผ่อนธนาคารได้ครบและเหลือเงินบ้างหลักพัน นับเป็นบ้านที่สร้างรายได้ให้ตั้งแต่เริ่มซื้อ
ปัญหาคือ เพื่อนบ้านชอบเล่นการพนันกันทั้งซอย เมื่อผ่อนบ้านหมดจึงขายบ้านนี้ไปโดยได้กำไรประมาณ 120 %
นับว่าบ้านหลังนี้ไม่ต้องลงทุน เพราะกู้ได้เต็มจำนวน และเงินที่ผ่อนธนาคารน้อยกว่าเงินค่าเช่าที่ได้รับ
บ้านหลังที่ 4
เป็นบ้านในเมือง ซื้อหลังจากหลังที่ 3 ประมาณ 2 ปี
บ้านนี้ทำไว้อย่างดีแม้จะหลังเล็กๆวางแผนให้เป็นบ้านที่อยู่อาศัยเอง แต่อยู่ได้ไม่นานก็ปล่อยเช่า ค่าเช่าคิดไม่แพงเพราะผู้เช่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
บ้านนี้ก็กู้ธนาคารได้เต็มจำนวน ค่าเช่าที่ได้รับไม่เพียงพอที่จะผ่อนธนาคารก็ต้องเติมเงินเข้าไปในแต่ละเดือน ก็ไม่มาก แค่หลักพันบาท
บ้านนี้ปัจจุบันยังผ่อนอยู่ เหลือติดหนี้ธนาคารล็กน้อย คาดว่าจะผ่อนหมดในปี 66
บ้านหลังที่ 5
บ้านนี้เป็นอาคารพานิชย์ ซื้อหลังจากบ้านหลังที่ 4 ประมาณ 2 ปีกว่าๆ กู้ธนาคารไม่เต็มราคาบ้านเพราะพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง
บ้านนี้อยู่ในเมือง ใกล้ที่ทำงาน จึงใช้เป็นที่พักอาศัยในปัจจุบัน ต้องผ่อนธนาคารอย่างเดียว ไม่มีรายรับ
บ้านหลังที่ 6
บ้านนี้เป็นบ้านเดี่ยว ขนาดใหญ่มาก เนื้อที่เกือบ 100 ตรว. จัดว่าเป็นบ้านที่หรูหราอยู่ต่างจังหวัด ตั้งใจซื้อให้ลูกอยู่เพราะใกล้ที่ทำงานลูก ต่อมาลูกย้ายงาน จึงปล่อยเช่า
ค่าเช่าที่ได้รับไม่เพียงพอกับค่าผ่อน จึงต้องเพิ่มเงินหลักหมื่นต่อเดือน ธนาคารให้กู้เต็มราคาบ้าน
สรุปประสบการณ์ซื้อบ้านปล่อยเช่า
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบก็เป็นความสุข ความสนุกสนานที่ได้ดูแล ปรับปรุง ตกแต่ง แก้ไขต่างๆ
ธนาคารเค้าก็ปล่อยกู้ได้เรื่อยๆถ้าเราเป็นลูกหนี้ที่มีวินัย
สามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้ในแต่ละเดือน
สามารถสร้างกำไรได้เมื่อเราขายต่อ
ได้ทักษะในเรื่องของการลงทุนในอสังหา ฯ
สามารถสร้างความมั่นคงให้ครอบครัวได้
ได้เจอผู้เช่าในรูปแบบต่างๆทำให้เราได้เรียนรู้
บางช่วงเวลาที่บ้านว่าง เราต้องดูแลสม่ำเสมอและต้องพร้อมรับภาระผ่อนธนาคารเอง
โฆษณา