Wilson แบรนด์เทนนิสอันดับหนึ่งของโลก
ในการแข่งขันของนักกีฬาระดับสูง อุปกรณ์ที่น่าเชื่อถือและทันสมัยเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชัยชนะ ซึ่งหนึ่งในแบรนด์กีฬาที่ได้รับการยอมรับในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นั่นคือ “Wilson”
ซึ่งพวกเขาเป็นบริษัทที่ทำการผลิตอุปกรณ์กีฬาหลากหลายชนิด แต่หนึ่งในประเภทกีฬาที่พวกเขายืนอยู่ในจุดที่โดดเด่นและได้รับการยอมรับว่าเป็นเบอร์หนึ่งมายาวนานนั่นคือ “เทนนิส” ที่เราจะนำมาเล่าในบทความนี้กัน
📌 ปี 1913 โดยจุดเริ่มต้นของบริษัทเกิดมาจากความต้องการของ “บริษัทบรรจุภัณฑ์เนื้อสัตว์” ที่ต้องการจัดการกับของส่วนอื่นๆ ของสัตว์ที่ไม่สามารถขายไปกับเนื้อได้
โดยในตอนแรกบริษัทได้ใช้ชื่อ “Ashland Manufacturing Company” โดยมีบริษัทแม่ที่อยู่ภายใต้ “Sulzberger and Schwarzchild”
📌 ปี 1914 ซึ่งในช่วงแรกบริษัทก็มีการผลิตสินค้าหลายประเภทที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่อุปกรณ์กีฬาเท่านั้น แต่มีการผลิตสายไวโอลิน รวมถึงเส้นไหมผ่าตัด
อย่างไรก็ดี บริษัทก็ได้ขยายออกเข้าสู่การผลิตอุปกรณ์กีฬาเต็มตัวมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสินค้าด้านกีฬากลุ่มแรกๆ ของบริษัทนั่นคือ ไม้แร็กเกตและลูกเทนนิสนั่นเอง
และอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญนั่นคือ การแยกตัวออกจากบริษัทแม่มาผลิตสินค้ากีฬาเต็มตัว และต่อมาก็มาเปลี่ยนชื่อเป็น “Wilson Sporting Goods” ซึ่งจะขอเรียกสั้นๆ ว่า “วิลสัน”
📌 ปี 1968 โดยทางวิลสันก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีและสินค้าของตนเองอย่างต่อเนื่อง เช่น ลูกเทนนิสที่กลายเป็นมาตรฐานของวงการผ่านการผลิตจากเครื่องจักร
แต่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้วิลสันกลายมาเป็นผู้นำในวงการเทนนิสจริงๆ นั่นคือ การเปิดตัวแร็กเกตรุ่น T2000 ซึ่งเป็นหนึ่งในแร็กเกตที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล
โดยต้องบอกว่าหนึ่งในความพิเศษของแร็กเกตรุ่นนี้มาจากการที่มันผลิตด้วยโลหะ ซึ่งแตกต่างจากแร็กเกตส่วนใหญ่ในยุคนั้นที่ยังผลิตด้วยไม้อยู่
📌 ปี 1970 ชื่อเสียงของแบรนด์เริ่มพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนไปแตะตาบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่อย่าง PepsiCo ที่ตัดสินใจเข้ามาควบรวมกิจการด้วยมูลค่าดีล 63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งดีลครั้งนี้ทาง PepsiCo ก็ได้ประโยชน์จากภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่จะช่วยโปรโมทสินค้าอื่น พร้อมทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงของรายได้มาสู่อุตสาหกรรมอื่นบ้าง
ส่วนทางวิลสันเอง ดีลนี้ทำให้พวกเขามีเงินทุนและทรัพยากรการจัดการไปสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่อง
หลังจากนั้นทางวิลสันก็ยังมีการปรับเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่ไปตามยุคสมัย โดยในปัจจุบันวิลสันเป็นบริษัทลูกของ “China Anta Sports”
📌 ปี 1979 ความน่าเชื่อถือของสินค้าวิลสันไม่ได้จบลงอยู่แค่ในหมู่ผู้เล่นทั่วไปและนักกีฬามืออาชีพเท่านั้น
แต่ชื่อเสียงที่สะสมทำให้รายการ “U.S. Open” หนึ่งในสี่รายการแกรนด์สแลมที่ยิ่งใหญ่ของวงการได้นำลูกเทนนิสของวิลสันไปใช้ในการแข่งขัน ซึ่งก็มีการใช้ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
📌 ปี 1981 หลังจากความสำเร็จที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทางวิลสันก็ได้ออกแร็กเกตรุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า “Pro Staff”
ซึ่งเป็นแร็กเกตรุ่นที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเทนนิสมืออาชีพอย่างสูง และก็ยังมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การแข่งขันระดับในระดับสูงตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกีฬาที่ต้องการแร็กเกตที่มีความสมดุลสูง แร็กเกตของวิลสันก็จะเป็นตัวเลือกแรกในใจเสมอ
📌 ปี 2003 หลังจากมีช่วงรุ่งเรืองมาเกือบตลอด บริษัทก็ต้องเจอกับปัญหาเรื่องยอดขายตกต่ำเช่นกันในปี 2003
ซึ่งตอนนั้นก็ทำให้ต้องมีการปรับโครงสร้างบริษัท อันรวมถึงการลาออกของ CEO ของแบรนด์ในตอนนั้นอย่าง Jim Baugh แต่หลังจากนั้นบริษัทก็กลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง
📌 ปี 2021 และเมื่อสองปีที่แล้ว ทางวิลสันก็ได้ขยายตลาดออกไปสู่การเปิดตัวเครื่องแต่งการทางกีฬาระดับพรีเมี่ยม ที่เป็นตลาดใหญ่และก็มีโอกาสในการเติบโตสูง โดยเฉพาะในกีฬาอย่างเทนนิส หรือแม้แต่กอล์ฟที่ก็เป็นหนึ่งในสินค้าของแบรนด์ด้วยเช่นกัน
📌 FYI
หนึ่งในการเซ็นสัญญาของวิลสันที่ประสบความสำเร็จที่สุดคือ การเซ็นกับโรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ ซึ่งเป็นการร่วมงานกันตั้งแต่ที่เฟดเดอเรอร์ยังไม่ชนะแกรนด์สแลมแรกเลยด้วย
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References :
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
