สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เดินทางยาวๆไปโค้ชลูกค้าที่ระยอง
ระหว่างทางได้ฟังคลิปหนังสือเสียง
"ชีวิตดีขึ้นทุกๆด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว"
เป็นหนังสือเก่าหลายปีแล้ว
และมองข้ามมันทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้ตั้งใจฟังมาก
เพราะย้ายบ้านมา บ้าน "รก" มาก
.
การที่บ้าน "รก" มีผลต่อร่างกายจิตใจ และชีวิตมากกว่าที่คิด
คนที่บ้าน "รก" ไม่เป็นระเบียบ
ทำให้ระบบความคิด ก็ไม่เป็นระบบ
การหาของไม่เจอ นอกจากทำให้เราหงุดหงิด
มันยังมีส่วนที่ทำให้ เรา "หา" ตัวเองไม่เจอด้วย
บ้านที่รก ทำให้ฝุ่นเยอะ ทำความสะอาดบ้านยาก
และมันตัวที่แสดงออกว่า
เราไม่สามารถตัดสินใจอะไรให้เด็ดขาด
ว่าเราจะ "เอา" หรือ "ไม่เอา" อะไรในชีวิต
ความสัมพันธ์ในชีวิตบางอย่างไม่ชัดเจน
เราต้อง "ทน"เก็บความสัมพันธ์ที่ไม่เวิร์คกับคนบางคน
เพียงเพราะคำว่า "เสียดาย" หรือยังยึดติดกับ "อดีต"
อันนี้คือ Message ที่หุยได้รับหลังจากที่ฟังหนังสือเสียงนี้
.
หุยไม่ได้บอกว่า หุยมีปัญหาอะไรในครอบครัวนะคะ
แต่หุยก็ยังมีอะไรหลายๆอย่างในชีวิตที่ตัดสินใจไม่ได้
หรือไม่ชัดเจนว่าจะเอาอย่างไรดี
เหมือนขาหนึ่งจะก้าวไปข้างหน้า
ส่วนอีกขาหนึ่ง ถูก "อดีต" เหนี่ยวรั้งไว้
เรามักจะคิดว่า "เผื่อว่า" เราต้องใช้ประโยชน์
ที่จริงแล้ว เราไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้
ถ้าขาข้างหนึ่งยังยืนอยู่กับที่
.
แต่การจัดบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ยิ่งบ้านที่ต้องอยู่ร่วมกันหลายๆคน
จำเป็นต้องให้คนที่อยู่ด้วยเห็นปัญหาร่วมกัน
หุยจึงใช้ช่วงเวลาที่ต้องเดินทางยาวๆในรถ
เปิดฟังไปด้วยกัน เพื่อมี Mindset เดียวกัน
.
การจัดบ้านที่จะได้ผลสำเร็จ
ไม่ใช่การจัดทีละน้อย ค่อยๆจัด
แต่ต้องจัดการรวดเดียว และตัดสินใจให้เด็ดขาด
ว่า เราจะเอาอะไรออกไปจากชีวิตของเรา
และเราอยากเห็นชีวิตของเราเป็นอย่างไร
เราอยากเห็นพื้นที่ในบ้านของเราแต่ละมุมเป็นอย่างไร
ออกแบบสิ่งที่เราอยากเห็นก่อน
แล้วจึงลงมือจัดการเอาของออก
.
ในหนังสือเล่มนี้ แนะนำให้จัดของไปตามลำดับ
คือ เสื้อผ้า หนังสือ เอกสาร และพวกของที่ระลึกหรือของในอดีต
ดังนั้น การจัดตู้เสื้อผ้า เป็นสิ่งแรกที่ต้องจัดการ
.
หุยเป็นคนจัดตู้เสื้อผ้าทุกๆ หกเดือน
แต่ก็ยังรกอยู่ดี เพราะหุยมีเสื้อผ้าหลายประเภท
ทั้งที่ใส่อยู่บ้าน ใส่ทำงาน ใส่โค้ช เสื้อผ้าออกงาน เสื้อผ้าไปตปท.เป็นต้น
โดยเฉพาะเสื้อผ้าออกงานและเสื้อผ้าไปต่างประเทศ
เป็นอะไรที่จัดการยากมาก
นานๆใส่ที และเก่าแต่ยังสวย
หุยว่าต้องมาเคลียร์สักที เพราะมันไม่เหมาะกับวัยแล้ว
หลังๆหุยหลีกเลี่ยงการออกงาน
เพราะมันเป็นภาระมาก ในการแต่งตัว
และช่วงหลังๆ หุยมักให้เวลากับงานมากกว่าชีวิตสังคมไร้สาระ
มันอาจจะไม่จำเป็นมากนักสำหรับหุย
.
ส่วนหนังสือ และเอกสารมีมากจริงๆค่ะ
และที่สำคัญคือ มีหลายเล่ม หลายเอกสาร
ที่เราแค่เผื่อไว้ แต่แทบไม่ได้ใช้
และเวลาจะใช้ก็หาไม่เจอ
.
ดังนั้น ขอบคุณหนังสือเล่มนี้ที่ทำให้หุยเกิดปัญญา
และหุยเชื่อว่า ถ้าหุยจัดบ้านด้วยเทคนิคหนังสือเล่มนี้
ถามตัวเองว่า "สิ่งนี้ยังปลุกเร้าความรู้สึกของเราได้ไม๊"
หุยรับรอง ของเกลี้ยงบ้านแน่
เพราะไม่มีอะไรเลยที่ปลุกเร้าความรู้สึกของหุย
สิ่งที่เราเก็บไว้ ล้วนมาจากความ "กลัว"
"กลัวจะใช้แล้วไม่มี"
"กลัวต้องซื้อใหม่"
"กลัวเสียดายเงิน"
"กลัวคนให้มา เสียความรู้สึก"
ซึ่งในความเป็นจริง ของพวกนี้ได้ทำหน้าที่ของมันสมบูรณ์แล้ว
หน้าที่ของข้าวของพวกนี้
คือการทำให้เรามีความสุขตอนที่ซื้อมันมา
หรือทำให้เรามีความสุข ตอนที่ได้ใช้มันในตอนที่อยากใช้
แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว
เราควรขอบคุณมัน แล้วปล่อยมันไปให้มันได้พักดีๆ
ไม่ใช่จับยัดไว้ แล้วหามันไม่เจอ หรือไม่ใช้มันอีก
.
หุยรู้สึกดีใจทุกครั้งที่หุยได้ให้ของๆหุยทียังดูดี
ให้กับคนที่อยากได้
หรือ บริจาคแล้วเค้ายังขายได้
เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือสังคมด้านต่างๆ
.
ข้าวของเงินทองที่เราได้มา
เป็นของประทานจากจักรวาล
ที่ให้เรามามีความสุขและแบ่งปันให้ผู้อื่นด้วย
ดังนั้น การซื้อของมาใช้แล้ว
ควรมีแต่พอสมควร
เมื่อใช้เสร็จ ก็ควรส่งต่อไป แทนที่จะเก็บไว้ให้เป็นภาระของบ้าน
.
บ้านของเรา ห้องของเรา ตารางเมตรนึงเป็นหลักพัน หลักหมื่นหรือแสนบาท
เราไม่ควรให้บ้านต้องมารับภาระเก็บของที่เราไม่ใช้
เพราะมันไม่ได้ทำให้บ้าน ทำหน้าที่ได้สมศักดิ์ศรีเลย
และข้าวของพวกนี้ก็หดหู่ด้วย
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
