31 ม.ค. 2023 เวลา 09:14 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ทำไมหุ้น BYD ถึงน่าสนใจ

ผลตอบแทน 5ปี ย้อนหลังของหุ้น BYD อยู่ที่ 220% ในขณะที่ผลตอบแทน 5ปี ย้อนหลังของตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ -37% จะเห็นได้ว่าหุ้น BYD สร้างผลตอบแทนสูงกว่าผลตอบแทนตลาดหุ้นฮ่องกงถึง 257จุดเปอร์เซ็นต์ เหตุผลหลักมาจากการที่รัฐบาลจีนมีนโยบายที่สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่เนื่องจากรัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศ
ในปี 2565 BYD สามารถทำยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ได้ 1.86ล้านคันซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ 1.5ล้านคัน จากยอดขายของ BYD ในปี 2565 910,000คันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภท Battery Electric Vehicle (BEV) ในขณะที่ Tesla ทำยอดขายได้ 1.3ล้านคัน สำหรับเป้าหมายปี 2566 BYD ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 4ล้านคัน
ทำไมรัฐบาลจีนถึงให้ความสำคัญกับรถยนต์พลังงานใหม่
ในปี 2565 อัตราการใช้น้ำมันของประเทศจีนอยู่ที่ประมาณ 15ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่อัตราการผลิตอยู่ที่ประมาณ 4ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งหมายความว่าการใช้น้ำมันส่วนใหญ่ในประเทศจีนมาจากการนำเข้ารัฐบาลจีนจึงสนับสนุนให้มีการใช้รถยนต์พลังงานใหม่เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันในระยะยาว หากมองในมุมมองของการพัฒนาเศรษฐกิจรัฐบาลจีนได้เริ่มหาอุตสาหกรรมขับเคลื่อนการเติบโตแบบใหม่นอกจากการส่งออกและการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่จึงถูกเลือกให้เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจอันใหม่
โครงสร้างรายได้ของ BYD ปี 2564
ที่มา: BYD
ที่มา: BYD
3 ไฮไลท์ของหุ้น
1. จีนเป็นตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและยังสามารถเติบโตได้อีก
ในปี 2564 ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศจีนอยู่ที่ประมาณ 3ล้านคันซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 49% ของยอดขายทั่วโลกแต่ถ้าหากมองในมุมมองของอัตราการถือครองต่อประชากร 1000คน จีนมีอัตราการถือครองเพียงแค่ 6คันต่อ1000คน หากเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว จะเห็นได้ว่าอัตราการถือครองของประเทศจีนยังถือว่าน้อย ด้วยอัตราการถือครองที่ค่อนค่างต่ำหมายความว่าตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ของจีนยังมีพื้นที่เติบโตที่ยาวไกลกว่าจะเทียบเท่าประเทศที่พัฒนาแล้ว
ที่มา: Statista
ที่มา: Statista
2. รัฐบาลจีนยังมุ่งมั่นสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานใหม่
รัฐบาลจีนมีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งของรถยนต์พลังงานใหม่ให้เป็น 40% ของยอดขายรถยนต์คันใหม่ในประเทศภายในปี 2573 ในปี 2565 ยอดขายของรถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศจีนมีส่วนแบ่งที่คิดเป็น 26% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในประเทศซึ่งขยายตัวจาก 14% ในปี 2564 ถึงแม้ว่านโยบายยกเว้นภาษีซื้อสำหรับผู้ซื้อรถยนต์พลังงานใหม่จะหมดอายุสิ้นปี 2566 แต่ทางรัฐบาลจีนยังมีนโยบายที่ผลักดันให้คนหันมาซื้อรถยนต์พลังงานใหม่เช่นการขึ้นราคาป้ายทะเบียนรถยนต์สันดาปหรือการจำกัดจำนวนป้ายทะเบียนใหม่สำหรับรถยนต์สันดาป
3. จับตลาดชั้นสูงเพื่อดึงอัตรากำไรขั้นต้นขึ้น
อัตรากำไรขั้นต้นของ BYD ในปี 2564 คือ 11% ซึ้งลดลงจาก 18% ในปี 2563 เหตุผลหลักเกิดจากการที่ส่วนแบ่งของรายได้จากบริการประกอบชิ้นส่วนมือถือได้เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นบริการที่มีมาร์จิ้นต่ำ อัตรากำไรขั้นต้นของ BYD เฉลี่ยย้อนหลัง 5ปี อยู่ที่ 15% ในขณะที่ของ Tesla อยู่ที่ 20% เพื่อดึงอัตรากำไรขั้นต้นขึ้น BYD มีแผนที่จะสร้างรถยนต์พลังงานใหม่รุ่นตลาดบนภายใต้ชื่อแบรนด์ Yang Wang ซึ่งจะสามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้นและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น
ที่มา: Yahoo Finance
Sources:
BYD, Statista, Yahoo Finance, Pandaily,
โฆษณา