3 ก.พ. 2023 เวลา 03:13 • นิยาย เรื่องสั้น

#เรื่องสยองของทางบ้าน #TheGhostRadio

**#เสียงโทรศัพท์ปริศนา**
ครอบครัวผมซื้อบ้านใหม่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้สนามบิน บ้านหลังนี้ดูดีมาก เราอยู่กันมาครึ่งปีแล้ว มีเพื่อนบ้านข้างซ้ายเป็นคุณตาคุณยายวัยเกษียณ บ้านตรงข้ามเป็นของครอบครัวที่ทำธุรกิจร้านอาหาร ด้านขวาเป็นบ้านของคุณป้าสุรีและครอบครัว
ผมมีพี่สาวที่สนิทกันมาก 2 คน ชื่อ พี่จุ๊บ และ พี่เจี๊ยบ ส่วนตัวผมชื่อ จ๊อบ พวกผมมักจะเปิดโทรทัศน์เล่นเกม PS4 ด้วยกันตอนกลางคืน บังเอิญว่าสไตล์เกมที่พวกเราเล่นมันก็ตรงกันพอดี ถามว่าเกมอะไร ก็พวกเกมแข่งรถ ทำอาหาร ไม่ก็เตะบอล แต่อย่างหลังเล่นน้อย เพราะมันเล่นได้แค่ 2 คน
อย่างที่บอกว่า พวกเราใช้ชีวิตแบบนี้กันเป็นปกติมาตลอดครึ่งปี ตอนเช้าก็ไปทักทายเพื่อนบ้านบ้าง เพราะเราโชคดีที่เพื่อนบ้านน่ารักทุกคน บางทีก็ไปกินข้าวบ้านเขา บางครั้งก็ชวนมากินข้าวบ้านเรา อบอุ่นสุด ๆ
แต่คืนหนึ่ง ขณะที่พวกผมกำลังเล่นเกมอยู่ ผมได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังแว่วมา ผมเลยหันไปบอกพี่สาวให้รับโทรศัพท์ แต่พี่สาวทั้งสองกลับงงครับว่าผมหมายถึงอะไร พวกเธอไม่ได้ยิน แต่ผมก็ยืนยันไปว่า มันมีเสียงโทรศัพท์จริง ๆ เป็นเสียงที่ระบุระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์ได้เลยว่าเป็น ios
พี่สาวผมก็ควานหาโทรศัพท์ของตัวเองครับ อ้าว! เครื่องของพวกเราสามคนไม่มีใครโทรมา ขณะที่เสียงนั้นก็ยังดังไม่หยุด เหมือนมีคนโทรเข้าเรื่อย ๆ พี่จุ๊บบอกว่า หรือจะเป็นเสียงในเกม แต่เกมทำอาหารก็ไม่น่ามีเสียงโทรศัพท์นะ ทีนี้เราเลยลุกเดินหาครับ แต่เดินทั่วบ้านแล้วมันก็ไม่มี พี่สาวผมลงความเห็นว่า ถ้าโทรมาถี่ขนาดนี้แสดงว่าต้องเป็นเรื่องด่วนแน่ ๆ หรือจะเป็นเสียงจากเพื่อนข้างบ้าน
พวกผมเล็งไปที่บ้านของคุณตาคุณยายก่อนเลย ตอนนั้นคิดในแง่ร้ายว่า ถ้าหากพวกแกเป็นอะไร แล้วลูกหลานติดต่อไม่ได้ล่ะ พี่จุ๊บกับพี่เจี๊ยบวิ่งไปกดกริ่งที่บ้านของแก ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว แต่ก็ตั้งใจจะเช็คให้ชัวร์ว่าแกปลอดภัย พ่อแม่ของพวกเราก็เดินออกมาด้วย ในบ้านปิดไฟมืดสนิท แต่เสียงโทรศัพท์ยังดัง
ตอนที่เราเกือบตัดสินใจปีนรั้วแล้ว สองตายายเดินออกมาพอดี ท่าทางพวกแกงัวเงีย แต่พอเล่าให้ฟังว่าได้ยินเสียงประหลาดดังไปถึงในบ้าน สองตายายก็เหมือนจะคิดอะไรออก พวกแกวิ่งเข้าไปในบ้าน และหยิบถุงพลาสติกออกมาให้ดู ด้านในเป็นโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุด ใหม่จนผมแอบสงสัยว่า สองตายายจะใช้เป็นหรอ เพราะผมเห็นแกยังใช้แค่แบบโทรเข้าโทรออกอยู่เลย
สองตายายบอกว่า ใช้ไม่เป็น ชาร์จแบตก็ไม่เป็น มันเลยดับอยู่แบบนี้ บางทีก็ได้ยินเสียงโทรแว่วมาเบา ๆ แต่พอมองไปหน้าจอก็ปิดสนิท แต่ยังไงก็ขอฝากชาร์จหน่อย ผมเลยอาสาจะเข้าไปชาร์จให้ แต่แกบอกว่า ฝากชาร์จที่บ้านผมได้เลย พวกแกจะไปนอนแล้ว ฝากเปิดเครื่องอะไรให้เรียบร้อยด้วย ด้วยความสนิทกัน พวกผมก็เอาโทรศัพท์กลับมาแบบไม่ได้คิดอะไร พี่สาวผมวางมันไว้บนเตียงเตรียมชาร์จ แล้วเราสามคนก็มาเล่นเกมต่อ
ระหว่างเล่นเกม เสียงโทรศัพท์มันก็ดังขึ้น คราวนี้ชัดเจนว่าเป็นเครื่องของตายาย ผมเดินเข้าไปถือวิสาสะรับ เพื่อบอกว่า ตอนนี้โทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับตายาย แต่พอผมรับสาย เสียงที่ปลายสายกลับแหบแห้งและสั่นเครือ มันเป็นเสียงผู้ชาย พูดประมาณว่า ‘พ่อแม่ทำไมไม่รับสายสักที ผมหนาวจะตายอยู่แล้ว คิดถึงด้วย ผมอยากจะขอโทษ แต่พ่อแม่ก็ไม่รับสาย’ ผมรีบถามกลับไปว่าคุณเป็นใครครับ ให้ผมเอาโทรศัพท์ไปให้ตายายไหม แต่สายก็ตัดไปแล้ว
ผมเอาโทรศัพท์ออกจากหูและดูที่หน้าจอ อ้าว! ยังไม่ได้ชาร์จแบตนี่หน่า พี่สาวของผมบอกว่าเสียบไว้เฉย ๆ ยังไม่ได้ชาร์จ เห็นว่ามันดังก็คิดว่าผมชาร์จแล้ว แต่เปล่าครับ ไม่มีใครชาร์จเลยสักคน มีแต่ทุกคนที่กำลังช็อคเหมือนโดนผีหลอก เห้ย! ผมโดนผีหลอก
เช้าวันต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้านของตาและยาย ลูกสาวลูกชายของแกก็มากันเกือบครบ ที่บอกว่าเกือบครบ เพราะลูกชายคนเล็กของแกไม่ได้มาด้วย เขาเสียชีวิตเมื่อสองวันก่อน ซึ่งก็คือวันเดียวกับที่เอาโทรศัพท์มาให้ตายายเป็นของขวัญ ส่วนศพเพิ่งจะพบเมื่อตอนเช้ามืด
เหมือนว่าลูกชายคนนั้นจะมีอาการซึมเศร้าเป็นทุนเดิม หลังจากที่มาหาตายาย เขาก็ขับรถไปยังสะพานแห่งหนึ่งเพื่อกระโดดน้ำ กล้องวงจรปิดเห็นว่า เขาเดินวนไปมาอยู่นานหลายชั่วโมงทำท่าคล้ายกำลังโทรศัพท์หาใครสักคน ก่อนตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง โดยกระโดดลงไปพร้อมกระเป๋าหนึ่งใบ ในนั้นมีเอกสารระบุตัวตนและโทรศัพท์ของเขาอยู่
ผมไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบันทึกการโทรเข้าออกไหม ผมไม่รู้ว่า เขาโทรหาใคร แต่ผมคิดเอาว่า เขาน่าจะตั้งใจโทรหาพ่อแม่เป็นครั้งสุดท้าย แต่น่าเสียดายว่า สองตายายแกใช้โทรศัพท์ไม่เป็น แต่ผมก็ยังสงสัยว่า ทำไมเป็นครอบครัวของผมที่ได้ยินเสียงนั้น และทำไมแกไม่สื่อสารกับพ่อแม่โดยตรง พี่สาวผมปลอบใจผมว่า บุญกรรมที่ชายคนนั้นมีกับพ่อแม่อาจถูกตัดไปแล้ว นั่นเลยทำให้พ่อแม่ก็ไม่มีโอกาสได้คุยกับลูก และวิญญาณของลูกก็สื่อสารกับพ่อแม่ไม่ได้อีกต่อไป
ผมไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ตายายฟังครับ เพราะพวกท่านคงจะเศร้ามากที่ใช้โทรศัพท์ไม่เป็น ผมไม่อยากให้ท่านคิดว่ามันเป็นความผิดของตัวเองฝ่ายเดียว และท่านทั้งสองคงจะใจสลายที่รู้ว่า ลูกชายพยายามติดต่อมาแล้ว แม้แต่ตอนตายก็ตาม
________________________________________
เรื่องจาก : คุณพล
ภาพ : มัท The Ghost
เรียบเรียง: ทีมงาน The Ghost Radio
________________________________________
*#TheGhostRadio #TheGhostRadioOfficial*
และติดตามเรื่องเล่าสุดหลอนได้ในช่องทางต่อไปนี้
โฆษณา