Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
nothing but movie
•
ติดตาม
3 ก.พ. 2023 เวลา 04:41 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Black Panther: Wakanda Forever หนังฮีโร่ที่ปกคลุมด้วยความเศร้า
ด้วยการจากไปของแชดวิค บอสแมนในปี 2020 น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หนัง Black Panther: Wakanda Forever ขับเคลื่อนด้วยความตาย และครอบทับอีกทีด้วยบรรยากาศความเศร้า ขณะเดียวกันมันก็ทำให้หนังเสียศูนย์จากการสูญเสียสำคัญนี้ ประเด็นที่ว่าใครจะเป็นแบล็ค แพนเทอร์คนต่อไปออกมาหลายกระแส ช่วงต้นก็เทไปทางตัวละครเอ็มบาคูเจ้าแห่งเผ่าหนุมาน แต่สุดท้ายก็ชัดเจนว่าซูรีน้องสาวของกษัตริย์ทีซัลลาจะมารับช่วงต่อ แต่ใครจะเป็นเจ้าเสือดำไม่สำคัญเท่าหนังจะออกมาเป็นอย่างไร
สิ่งที่เห็นได้ใน Black Panther: Wakanda Forever ชัดเจนมากๆ คือการออกอาการสะเปะสะปะ และเป็นเหมือนคนไข้อาการย้ำคิดย้ำทำ มองในมุมไหนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้เวลาถึง 2.40 ชั่วโมงในการเล่าเรื่องนี้เลย
ผมรู้สึกว่า Black Panther: Wakanda Forever เป็นเหมือนกับการปรับฐานของหนัง และจัดการทิศทางของเรื่อให้เข้าที่เข้าทางเพื่อทดแทนการตายของบอสแมน มากกว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนจักรวาล MCU จะเห็นได้จากกลุ่มตัวละครที่ถูกครอบงำด้วยความตายของคนใกล้ชิดตลอดทั้งเรื่องไม่ว่าจะเป็นฝ่ายวากานด้า หรือทางพวกของเนมอร์ที่เข้ามาเป็นคู่ปรับแบบสมน้ำสมเนื้อกับพวกวากานด้า
เรียกว่าหนังย้ำประเด็นการตาย การสูญเสียคนใกล้ชิดมาก ยิ่งเวลาของหนังเกือบ 3 ชั่วโมงเช่นนี้สร้างรู้สึกได้ว่าตัวหนังย้วยเกินไป ไม่เด็ดขาด ไม่เหมือนหนังเรื่องอื่นๆใน MCU
ในขณะเดียวกันต้องยอมรับว่ากลุ่มตัวละครในภาคนี้ขาดเสน่ห์ไปมาก แน่นอนว่าบทนำคือเจ้าหญิงซูรี (เลทิเทีย ไรท์) แต่ตัวละครที่เป็นศูนย์กลางของเรื่องและมีบทบาทมากๆคือราชินีรามอนดา(แองเจลา บาสเซ็ตต์) การตายของแบล็คแพนเทอร์ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองใประเทศวากานด้านั้นซับซ้อนพอสมควร ราชินีรามอนดาแม่ของทีชัลล่าได้ขึ้นครองบัลลังก์แล้ว
เจ้าหญิงซูรีอัจฉริยะทางวิทยาศาสตร์ชูริยังจมอยู่ในความเศร้าติดอยู่กับความทรงจำของพี่ชายของเธอ และอาณาจักรก็ดูเหมือนจะถูกท้าทายครั้งใหญ่ เนื่องจากโลกภายนอกวางแผนที่จะกดดันวากานด้าให้ประเทศมหาอำนาจอื่นสามารถเข้าถึงแหล่งแร่ไวเบรเนียม
สหประชาชาติกลายเป็นเวทีกดดันให้วากานด้ากลายเป็นศัตรูของประเทศกระหายอำนาจอย่างอเมริกา ฝรั่งเศส แต่ด้วยทักษะทางการฑูตของรามอนดา เธอกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว วากานดาจึงสามารถต่อต้านอเมริกาและฝรั่งเศสได้ ยิ่งกว่านั้น ยังมีนักรบชั้นยอดของจาบารีที่นำโดยเอ็มบากู(วินสตัน ดุ๊ก) และนักรบโดรา มิลาเจที่นำโดยโอโคเย(ดานัย กูริรา)เป็นกำลังหลัก
แต่ภัยคุกคามที่แท้จริงมาจากใต้ทะเล ที่ซึ่งทาโลกานซึ่งเป็นประเทศใต้มหาสมุทรของพวกกลายพันธุ์อยู่โดดเดี่ยวมายาวนาน พวกเขาควบคุมแหล่งไวเบรเนียมใต้ท้องทะเล และวางแผนที่จะถล่มประเทศบนพื้นดินเพราะมองว่าประเทศเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อความสงบสุขของโลก
ฉากที่ดีที่สุดในหนังคือฉากที่ราชินีรามอนดาประกาศศักดาต่อประเทศตะวันตกผิวขาวในสหประชาชาติ เราได้เห็นประเทศของคนผิวดำชาวแอฟริกาตอกหน้ามหาอำนาจผิวขาว แต่หลังจากนั้นเหมือนหนังจะหลุดแนวเรื่องไป พวกทาโลกานที่สร้างอาณาจักรใต้สมุทรเดิมทีเป็นชาวละตินอเมิกาแต่ถูกพวกสเปนล่าอาณานิคมเข้ามายึดแผ่นดิน จนต้องหนีไปอยู่ใต้น้ำ พวกเขาเป็นประจักษ์พยานเห็นความโหดร้ายของพวกล่าอาณานิคมทำต่อแผ่นดินแม่อย่างไร จนกลายเป็นความรู้สึกต้องจัดการพวกบนแผ่นดินให้ได้สักวันหนึ่ง
ความสะเปะสะปะคือหนังละทิ้งปมที่วางไว้แต่ต้นเรื่องในเวทีสหประชาชาติ คือ ความพยายามครอบครองไวเบรเนียมเพื่อขยายอิทธิพลของมหาอำนาจผิวขาว ซึ่งควรจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจกว่า หากสองอาณาจักรที่เคยโดนคนขาวเล่นงาน(แอฟริกาและละตินอเมริกา)จะร่วมกันต้านทานศัตรู กำหนดระเบียบโลกใหม่ แต่กลายมาเป็นศัตรูกัน
ในด้านของเรื่องราวแล้วเกือบทุกอย่างใน Wakanda Forever ล้มเหลว ชาติมหาอำนาจกำลังหวาดกลัวชาติในแอฟริกา เพราะถึงแม้พวกเขาไม่มีไวรเบรเนียม แต่ใน MCU เรื่องอื่นๆ ก็เห็นว่าพวกเขามีเทคโนโลยีสร้างซุปเปอร์ฮีโร่ ต่อสู้กับวายร้ายได้ หรือตัวละครใหม่นักศึกษาวิทยาศาสตร์ชื่อริริ ถูกนำเสนอแบบฉาบฉวยจนไม่น่าเชื่อว่าเก่งจริง อีกทั้งไร้เสน่ห์ ส่วนเลทิเทีย ไรท์เธอดูดีในบทสนับสนุนจากภาคแรก แต่พอต้องมาแบกบทนำเป็นแบล็ค แพนเทอร์แล้ว มันดูไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ที่ทรงพลังได้อย่างไร
แต่ที่น่าผิดหวังจริงๆคือเนมอร์ผู้เป็นดุจดั่งเทพเจ้า หูของเขาแหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าเหมือนมิสเตอร์สป็อคในสตาร์เทรค มีเท้าที่มีปีกงอกออกมา แล้วปีกคู่น้อยสามารถกระพือให้เขาเหาะเหินเดินอากาศได้อย่างรวดเร็ว มันออกมาดูตลกมากกว่าน่าเกรงขาม ไม่นับการเคสติ้งนักแสดงมารับบทเนมอร์นั้น เล่นเอาอดหัวเราะไม่ได้
เนมอร์เป็นการ์ตูนยุคแรกๆของมาร์เวลเลยก็ว่าได้ ออกมาครั้งแรกตั้งแต่ปี 1939 เขาจะมีความเป็นแอนตี้ฮีโร่ในตัว ออกจะเย็นชา เรียกว่าพอมาเห็นเนมอร์ในหนังนี้เล่นเอาอดผิดหวังไม่ได้ แต่คนที่ดีที่สุดในเรื่องนี้คือราชินีรามอนดา แองเจลา บาสเซ็ตต์โดดเด่นมากๆในบทนี้ เรียกว่าเป็นตัวเอกอย่างแท้จริง
โดยโครงเรื่องของหนังมันคือการสร้างความสัมพันธ์ 3 เส้า ซูรีรู้สึกแย่เมื่อพี่ชายตายไปโดยที่เธอทำอะไรไม่ได้ เธอโกรธทั้งโลก เธออยากเห็นโลกมอดไหม้ ความโกรธของเนมอร์ที่พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะล้างแค้นให้แม่และบรรพบุรุษของเขา รวมถึงราชินีรามอนดากับบทบาทการเป็นผู้นำในภาวะประเทศตกอยู่ในความเศร้า
Black Panther: Wakanda Forever พยายามจัดให้ทั้งสามคนสลับกันเป็นช่วงๆ แต่ทั้ง 3 มีเหมือนกันคือเศร้าโศก แต่เมื่อมันอยู่บนเนื้อเรื่องที่บางไปและความยาวของหนังที่ยืดเยื้อ ก็เลยกลายเป็นงานของมาร์เวล
ที่้น่าผิดหวังไม่ได้
(ดูได้จากดิสนีย์พลัส)
5/10
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย