6 ก.พ. 2023 เวลา 12:17 • หนังสือ

รัตนา สาหรี เทวี ซูการ์โน

สุภาพสตรีชาวญี่ปุ่นที่ในอดีตเคยโด่งดังเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก ในฐานะภรรยาหรือสุภาพสตรีคู่ใจคู่กายของประธานาธิบดีซูการ์โน อดีตประธานาธิบดีคนแรกของอินโดนีเซีย ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘บิดาผู้สร้างชาติอินโดนิเซีย’ ผู้รวมชาติ ประกาศเอกราชให้กับอินโดนีเซียหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
‘รัตนา สาหรี เทวี ซูการ์โน’ เคยได้รับสมญานามจากสื่อทั่วโลกยกย่องให้เธอเป็น ‘ซินเดอเรลล่าแห่งเอเชีย’ ซึ่งประวัติชีวิตที่โลดโผนน่าศึกษาของเธอนั้น ได้ถูกบันทึกเอาไว้ในหนังสือเล่มนี้
'บุหงาซากุระ' คือเรื่องราวของสาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์อินโดนีเซียในฐานะภรรยาคนหนึ่งของประธาธิบดีซูการ์โน เธอคือ ‘นาโอโกะ เอโมโตะ’ สาวญี่ปุ่นที่ถูกตาต้องใจประธานาธิบดีซูการ์โนเมื่อครั้งไปเยือนญี่ปุ่น และได้รับเชิญจากเจ้าภาพให้มาหาความสำราญผ่อนคลายที่โคปา คาบาน่าคลับ คลับระดับซูเปอร์วีไอพีที่มีไว้บริการนักธุรกิจระดับอภิมหาเศรษฐี และชาวต่างชาติระดับสูงเท่านั้น ‘นาโอโกะ เอโมโตะ’ ทำงานอยู่ที่นี่ในฐานะบาร์ โฮสเตส และเป็นดาวของคลับแห่งนี้ที่ถูกจัดให้มารับรองซูการ์โน
หลังสงครามโลก ญี่ปุ่นในฐานะผู้แพ้สงคราม ต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามให้กับประเทศที่เข้าไปยึดครอง และอินโดนีเซีย คือประเทศหนึ่งที่ญี่ปุ่นต้องชดใช้ค่าเสียหายผ่านโครงการก่อสร้างต่างๆ เพื่อเป็นการพัฒนาประเทศ และประธานาธิบดีซูการ์โน คือผู้ที่มีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวที่จะชี้นิ้วอนุมัติให้ใคร บริษัทญี่ปุ่นไหนก็ได้ รับการว่าจ้างงานก่อสร้างตามที่ได้ตกลงกับรัฐบาลญี่ปุ่นเอาไว้
เมื่อประธานาธิบดีซูการ์โนเดินทางกลับอินโดนีเชีย มีบริษัทก่อสร้างหัวไว ได้ว่าจ้าง ‘นาโอโกะ เอโมโตะ’ ให้มาทำงานที่กรุงจาร์กาต้า และติดต่อประสานงานกับรัฐบาลอินโดนีเซียและประธานาธิบดีซูการ์โน แน่นอนที่สุดว่าบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งนั้นได้โครงการที่หมายมั่นปั้นมือนั้นไป ในขณะที่ประธานาธิบดีซูการ์โนก็ได้ภรรยาใหม่เป็นชาวญี่ปุ่นไปครอบครอง
เพื่อให้เหมาะสมกับสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอินโดนีเซีย ‘นาโอโกะ เอโมโตะ’ ได้เปลี่ยนชื่อเสียใหม่เป็น ‘รัตนา สาหรี เทวี’ ภรรยาคนที่หกของประธานาธิบดีซูการ์โน หลังจากนั้น ‘รัตนา สาหรี เทวี’ ได้ทำทุกอย่างเพื่อเขยิบสถานะของเธอให้เป็นที่ยอมรับของประธานาธิบดีซูการ์โนในฐานะคู่คิดที่ยืนอยู่เคียงข้างเพื่อสร้างและรักษาผลประโยชน์ของท่านประธานาธิบดี และในขณะเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนยอมรับเธอในฐานะภรรยาของผู้นำประเทศคนหนึ่งเช่นกัน
‘รัตนา สาหรี เทวี’ มีบทบาทสำคัญทางการเมืองต่ออินโดนีเซียควบคู่ไปกับประธานาธิบดีซูการ์โนนานหลายสิบปี เธอเป็นหลังบ้านที่ชาญฉลาด รู้จักสร้างภาพให้ตัวเองดูดีในฐานะสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศ
และเมื่อประธานาธิบดีซูการ์โนถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว ‘รัตนา สาหรี เทวี’ ได้ผันตัวเองเป็นคนดังในวงสังคมชั้นสูงของโลก ก่อนที่จะตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นในวัยหกสิบกว่าปี เป็นดาวค้างฟ้า เป็นเซเลบบริตี้ เป็นแขกรับเชิญในรายการทีวีต่างๆ ในนาม ‘คุณนาย เทวี’ หรือ Devi Fujin ในภาษาญี่ปุ่น เป็นที่ชื่นชอบ สนอกสนใจของคนญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้
‘บุหงาซากุระ’ เป็นผลงานแปลของ ‘วราวุธ’ นักแปลเจ้าเดิมที่ถนัดงานแปลประวัติชีวิตที่ใครๆ หลายคนชื่นชอบ เคยลงตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสารพลอยแกมเพชร ก่อนจัดพิมพ์เป็นเล่มโดยสำนักพิมพ์สันสกฤต วางจำหน่ายในราคา 350 บาท
วันนี้…6 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันคล้ายวันเกิดของ ‘รัตนา สาหรี เทวี ซูการ์โน’ ที่ในปีนี้มีอายุถึง 83 ปีแล้ว แต่ยังคงเป็นสุภาพสตรีที่รักษาความงามเอาไว้ได้อย่างน่ามหัศจรรย์ สมกับสมญานาม 'ซินเดอเรลล่าแห่งเอเชีย' ของเธออย่างแท้จริง
…………………………………
โฆษณา