8 ก.พ. 2023 เวลา 13:42 • ศิลปะ & ออกแบบ

ฟื้นลำนำเล่าขานฮกลกซิ่ว สู่ลวดลายงามชามกังไสแห่งเจียงซี

แม้กาลเวลานับพันปีจะสะพัดผ่านตำนานฮกลกซิ่วจนคล้ายจางหายในใจคน ทว่าความเชื่อที่ว่ารูปปั้นจีนจะประทานความมั่งคั่งและความสุขสถาวรสู่ผู้ถือครอง กลับกลายเป็นสิ่งซึ่งไม่เคยล้มตายจากสังคม ตราบเท่าที่มนุษย์ผู้หนึ่งจะเล่าขานให้คนรุ่นหลังได้สืบทอดต่อ ก่อนหยิบยกเรื่องราวเหล่านั้นมารังสรรค์และถ่ายทอดผ่านลวดลายครามชามกังไสที่งามวิจิตรเพลินตา
ชวนผู้ชมหวนรำลึกทรงจำแห่งบรรพกาลอีกครั้ง
ครั้งนี้เราพร้อมผู้อ่านจะร่วมย้อนรอยสัมผัสทรงจำนั้นอีกครั้งหนึ่งกับคุณ วรยุทธ เอื้อจิระพงษ์พันธ์ เจ้าของร้านหนุ่มกังไส 168 ซึ่งเก็บรวมหมู่เทวรูปและถ้วยชามจีนโบราณจากเจียงซีไว้เรียงรายคอยต้อนรับทุกท่านที่มาเยือนกัน
โถแจกันกังไสที่ได้รับความนิยมตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง
ก่อนคุยเข้าเรื่องแรงบันดาลใจจนก่อร่างสร้างร้านหนุ่มกังไส 168 เราจะพลาดกล่าวถึงความรุ่งโรจน์ของชามกังไสเลยก็ไม่ได้ ชามกังไส (Chinese porcelain) หรือที่คุ้นหูในชื่อ เครื่องลายคราม คือเครื่องถ้วยชามจีนเนื้อขาวที่ทำจากกระเบื้องชั้นดี พร้อมด้วยลวดลายสวยสีคราม ซึ่งต้องตาเหล่าชนชั้นสูงและราชสำนักทั่วทั้งจีน ญี่ปุ่น ยุโรปและอาหรับ ไว้ทุ่มกำลังทรัพย์มหาศาลเพื่อครอบครองวัตถุงามไร้ที่เปรียบนี้
อย่างไรก็ดี แรกเริ่มเดิมทีมักผลิตไว้ใช้สอยตามครัวเรือน ก่อนผสานกับศิลปะลายสลักหยกและภาพวาดพู่กันจีนจนได้รับความนิยมสูงสุดในสมัยราชวงศ์หมิง โดยมีเมืองจิ่งเต๋อเจิ้ง (景德鎮: Jing-de-zhen) มลฑลเจียงซีเป็นแหล่งผลิตกระเบื้องเคลือบชั้นดีที่โด่งดังที่สุดในขณะนั้น สมคำพรรณนาในความงามของชามกังไสจากปราชญ์จีนที่ว่า
บางราวกระดาษ ขาวเหมือนหยก เงาดุจกระจก และเสียงใสกังวานดั่งดนตรี
เหตุนี้เองที่ทำให้ฝรั่งต่างเรียกชาวจีนว่า ‘China’ ซึ่งเพี้ยนมาจากชื่อเมืองจิ่งเต๋อเจิ้งในอดีตที่ผู้คนต่างเรียกขานว่า ‘ชางหนาน’ (昌南: Changnan) ทั้งนี้คำว่า ‘China’ ในปัจจุบันยังหมายถึง ‘เครื่องลายคราม’ อีกด้วย
วิธีการทำชามกังไส
ชามกังไส: ลวดลายวิจิตรที่ลึกซึ้งถึงปรัชญา
-----
ทรวดทรงโถโอชามงามดั่งวาด ซึ่งพร้อยพรายด้วยลวดลายปลายพู่กันอันจวนจาง ล้วนสะท้อนห้วงอารมณ์และปรัชญาอันลึกซึ้งที่อยู่คู่ชีวิตมนุษย์มาเนิ่นนาน บางทีทุกการลากวาดลายเส้นจากปลายพู่กันให้ลื่นไหลต่อเนื่อง อาจเผยแสดงถึงแนวคิดเรื่องการคล้อยตามธรรมชาติจากวิถีแห่งเต๋าโดยที่เราไม่อาจคาดคิด หรือบางครั้งวัตถุลายครามที่เราเห็นจนชินตาอาจแฝงเร้นความหมายของการรักษาจิตวิญญาณให้คงอยู่นิรันดร์กาลก็เป็นได้
แต่หากเราไม่รู้ถึงความหมายอันลึกล้ำของ ‘สัญลักษณ์’ ในวัฒนธรรมนั้น ๆ ก็ยากจะเข้าถึงคุณค่าบางอย่างที่ศิลปะนั้นต้องการบอก หลายครั้งเราพบว่าไม้ดอกหลากชนิดและทิวทัศน์ต่าง ๆ บนกังไส อาจเป็นเพียงลายวาดงามภาพหนึ่งเท่านั้นหากมองโดยผิวเผิน
ทว่าเมื่อมองลึกลงไปถึงสิ่งที่ปรากฏจะพบความหมายแสนวิเศษที่ตรึงใจคุณตราบเท่านาน เช่น ดอกเบญจมาศแทนความหมายถึงความสูงส่ง รื่นรมย์และบริสุทธิ์ ต้นสนแทนชัยชนะ ความกล้าหาญ และชีวิตที่ยืนยาว ดอกบ๊วยแทนความหวังที่เวียนกลับสู่ชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่าตามฤดูกาลที่เปลี่ยนผ่าน เป็นต้น
กระนั้นก็ตาม บางคนยังนึกภาพไม่ออกว่ารูปปั้นเทพเจ้าฮกลกซิ่วจะเกี่ยวโยงกับชามกังไสได้อย่างไร บางทีการเข้าใจที่มาของแรงบันดาลใจก่อนเปิดร้านหนุ่มกังไส 168 อาจช่วยคุณไขข้อสงสัยให้กระจ่างแจ้งยิ่งขึ้น
จุดเริ่มต้นของร้าน
-----
บางฉากตอนอาจเริ่มต้นคล้ายชีวิตชาวจีนโพ้นทะเลคนอื่น ๆ ในนิยายทรงจำของแมวกุหลาบดำ ทว่าเรื่องราวเล่าขานเหล่านั้นคงมิได้จบลงอนาถแบบในหน้ากระดาษ บางครั้งสิ่งนั้นอาจเกิดขึ้นเพียงเพราะความรู้สึกชอบอันลึกซึ้งในงานศิลปะจีนและอยากถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านั้นไว้ให้ผู้คนไม่ลืมกันเพียงเท่านั้น เช่นเดียวกับคุณวรยุทธ เอื้อจิระพงษ์พันธ์ เจ้าของร้าน ‘หนุ่มกังไส 168’ ที่เติบโตในครอบครัวคนจีน ซึ่งยังเก็บรักษาความเชื่อและขนบจีนเหล่านั้นให้คงความแน่นแฟ้นไว้ในบ้าน
ในสมัยที่อากงอาม่ายังขายก๋วยเตี๋ยวในตลาด ม้าเคยเล่าว่าสมัยก่อนจะมีพวกซินตึ้งนำเทพเจ้างานกระเบื้องจากเมืองจีนมาวางขายในตลาด เราได้ยินอย่างนั้นก็เกิดอยากเรียนรู้ เราจึงนำขนบและวัฒนธรรมจีนในบ้าน ร่วมกับความชอบเครื่องกระเบื้องกังไสในวัยเด็กมาผสมเป็นไอเดียก่อร่างเป็นร้านขึ้นมา
นอกเหนือจากนั้นเขายังเล่าอีกว่าเหตุที่พ่วงท้ายด้วยเลข 168 นั่นก็เพราะความเชื่อที่มาพร้อมกับ ‘ฮกลกซิ่ว’ มรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ ซึ่งเสมือนความผาสุก 3 ประการในอุดมคติของชาวจีนโบราณที่ประกอบด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ ความมั่งมี และอายุที่ยืนยาว ช่วยจุดประกายอีกไอเดียขึ้นมา ร่วมกับความเชื่อเรื่องตัวเลขตามศาสตร์ฮวงจุ้ย จึงแปลงเป็นเลขมงคลที่ผูกติดกับฮกลกซิ่วที่เห็นในทุกวัน
ชุดแจกันกังไส
กลับมาที่ชามกังไสซึ่งคุณวรยุทธโปรดปรานเป็นพิเศษ การจะได้ศิลปะถ้วยโถโอชามชิ้นเอกแบบครบชุดเช่นนี้คงทำได้ไม่ดีเทียบเท่า หากมิได้ผลิตจากเมืองจิ่งเต๋อเจิ้น มลฑลเจียงซีอันเลื่องลือนับแต่อดีตกาลนั้นโดยตรง เนื่องด้วยพื้นที่นั้นอุดมด้วยดินเกาลินชั้นดีที่นำมาขึ้นรูปเป็นภาชนะเคลือบเอกลักษณ์เฉพาะ พร้อมเขียนลายครามที่ได้จากสารโคบอลต์ออกไซด์ (Cobolt Oxide) ก่อนเข้าเตาเผาด้วยอุณหภูมิสูงจนได้ชุดประณีตศิลป์ทรงคุณค่าคู่ห้องหับเรือน
แน่นอนที่สุดว่าชามกังไสย่อมได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันเช่นกัน ไม่ว่าเราจะนำไปจัดตกแต่งเข้าพรมร่วมกับโต๊ะหมู่บูชาภายในบ้าน หรือไว้ตั้งตระหง่านตามสวนซึ่งแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่ชอุ่มเย็นก็ล้วนแล้วงามเด่นเป็นอย่างดี ในราคาย่อมเยาว์ซึ่งคุ้มค่ากับการรอคอย
แม้ว่าชามกังไสจะงดงามจนแทบเป็นอิสระจากงานหล่อปั้นฮกลกซิ่ว แต่หากสังเกตโดยละเอียดที่ลวดลายบนแขนเสื้อของรูปปั้น จะเห็นว่าลวดลายนั้นก็ปรากฏบนถ้วยโถเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งซึ่งผูกโยงให้ศิลปะทั้งสองเชื่อมถึงกันได้ ก็คงจะเป็นคุณธรรมและปรัชญาอันลึกซึ้งที่มีเฉกเช่นเดียวกันกระมัง
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ Facebook Fanpage : หนุ่มกังไส 168
แหล่งอ้างอิง
-----
โฆษณา