10 ก.พ. 2023 เวลา 19:27 • ประวัติศาสตร์

• อาชญากร 24 หน้า (บิลลี่ มิลลิแกน (Billy Milligan))

ถ้าหากจะกล่าวถึงอาชญากรที่มีนามกระเดื่องในช่วงปลายยุค 70 แต่ไม่ได้รับการถูกลงโทษใดๆ เพราะเขามีอาการป่วยทางจิต โดยหมอที่ต้องตรวจร่างกายของเขาก่อนขึ้นศาลสังเกตได้ว่าเขามีอะไรแปลกๆ ทนายความของเขาก็จับผิดสังเกตเรื่องนี้ได้เช่นกัน จึงส่งจิตแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยโรคของเขาพบว่าเขา เป็นโรคที่มีชื่อว่า
โรคหลายบุคลิก (Dissociative Identity Disorder (DID)) โดยมีชื่อเก่าคือ (Multiple Personality Disorder (MPD)) โดยสามารถเรียกเป็นชื่อไทยที่ถูกต้องที่จะเรียกว่า โรคหลายอัตลักษณ์ ด้วยเหตุนี้ผู้พิพากษาจึงตัดสินให้เขาไม่ต้องรับโทษเพราะมีอาการทางจิต และส่งตัวเขาไปรักษาที่ศูนย์สุขภาพจิตเอเธนส์เขายังเป็นจำเลยคนแรกในสหรัฐอเมริกาที่หลุดพ้นจากความผิดด้วยโรคนี้
1
ภาพวาดบุคลิกภายในของบิลลี่
เรื่องราวเริ่มต้นในเดือน ตุลาคม ค.ศ. 1977 เกิดเหตุข่มขืนบริเวณวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยโอไฮโอโดยมีเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย 3 คน และยังมีพนักงานออฟฟิศอีก 1 ราย ด้วยเหตุเกิดที่ต่อเนื่องและระยะเวลาสั้นๆ จึงทำให้เขาได้เป็นที่รู้จักในนาม The Campus Rapist ต่อมาเขาถูกจับกุมในข้อหาข่มขืน โดยเขาถูกระบุตัวตนจากเหยื่อยรายหนึ่งจากรูปถ่ายของผู้กระทำผิดทางเพศที่ทางตำรวจมีอยู่ และ ได้จากรอยนิ้วมือจากรถของเหยื่อทำให้ทราบว่าชายดังกล่าวก็ คือ บิลลี่ มิลลิแกน
เขาเคยก่อคดีในข้อหาข่มขืนและปล้นอาวุธในปี 1975 ทำให้ตำรวจมีรูปถ่ายของเขาอยู่ เมื่อเขาถูกจับกุมเขาถูกฟ้องในข้อหาลักพาตัว 3 ข้อหา ปล้นทรัพย์ 3 ข้อหา และ ข่มขืน 4 ข้อหา เขาถูกขังอยู่ในเรือนจำของรัฐโอไฮโอระหว่างการรอพิจารณาคดี และเป็นที่ทราบกันแล้วว่าสุดท้ายไม่ได้รับการลงโทษใดๆ เนื่องจากเขาถูกวินิจฉัยว่าป่วยทางจิต
คดีของเขาที่โด่งดังไม่ใช่เพราะการก่ออาชญากรรมของเขาแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะเขามีบุคลิกที่แตกต่างกันออกไปถึง 24 บุคลิกทำให้สังคมในตอนนั้นจับตามองและเป็นที่สนใจในยุคนั้น ด้วยอาการของโรคที่เปลี่ยนจากคนหนึ่งเป็นอีกคนหนึ่ง ทั้งนิสัย การพูดจา ท่าทาง รวมทั้งบุคลิกต่างๆ
ซึ่งตัวตนหลักจะไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่บุคลิกอื่นๆ ออกมา
แต่บุคลิกที่ถูกสร้างขึ้นมาจะรู้ว่ามีตัวตนหลักอยู่ ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันในสังคมในยุคนั้นซึ่งมีทั้งเชื่อว่าเขาป่วยจริง และไม่เชื่อว่าเขาป่วยแต่เขากำลังเล่นละครอยู่ต่างหาก อย่างไรก็ตามเขาถูกส่งไปที่โรงพยาบาลจิตเวช ของรัฐหลายแห่งและก็มีการค้นพบบุคลิกของเขาเพิ่มเติมขึ้นจนมีทั้งหมด 24 บุคลิก ได้แก่
• วิลเลียม สแตนลีย์ มิลลิแกน (บิลลี่) อายุ 26 ปี ตัวตนหลัก เรียนไม่จบชั้นมัธยมปลาย สูง 6 ฟุต หนัก 190 ปอนด์ ตาสีฟ้า ผมสีน้ำตาล
• อัลเลน อายุ 18 ปี เป็นคนเจ้าเล่ห์ จอมบงการผู้นี้มักจะเป็นผู้ติดต่อกับคนภายนอก เขาตีกลอง ชอบวาดรูปคน (portrait) และเป็นตัวตนเดียวที่สูบบุหรี่
อาเธอร์ วาดโดยอัลเลน
• เรเกน วาดาสโควินิช อายุ 23 ปี เป็นชาวยูโกสลาเวีย พูดภาษาอังกฤษที่ติดสำเนียงสลาฟอย่างชัดเจน มีความสามารถในการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ และยังเป็นนักคาราเต้ชั้นยอด
เรเกน วาดโดยอัลเลน
• อาเธอร์ อายุ 22 ปี ชาวอังกฤษ มีเหตุผล ไม่มีอารมณ์ความรู้สึก พูดสำเนียงอังกฤษ ศึกษาฟิสิกส์และเคมีด้วยตนเอง ชอบอ่านตำราแพทย์
• ทอมมี่ อายุ 16 ปี เชี่ยวชาญในการสะเดาะเครื่องพันธนาการต่าง ๆ เล่นแซ็กโซโฟน เชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์ ถนัดวาดรูปภูมิทัศน์
• แดนนี่ อายุ 14 ปี เป็นคนขี้กลัว กลัวคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชาย วาดเฉพาะรูปหุ่นนิ่ง
• เดวิด อายุ 8 ขวบ ขี้สงสาร เห็นอกเห็นใจคน เขาจะเป็นผู้ซึมซับความเจ็บปวดและความทุกข์ของตัวตนอื่นๆ
• คริสทีน อายุ 3 ขวบ เป็นเด็กหญิงชาวอังกฤษที่เฉลียวฉลาด คริสทีนชอบวาดรูปและระบายสีดอกไม้ ผีเสื้อ
• คริสโตเฟอร์ อายุ 13 ปี เป็นพี่ชายของคริสทีน พูดสำเนียงอังกฤษ เล่นหีบเพลงปากได้
• อดาลานา อายุ 19 ปี เป็นเลสเบี้ยน ขี้อาย ขี้เหงา เก็บตัว ชอบเขียนกวี ทำอาหาร และดูแลบ้านให้ตัวตนอื่นๆ
อดาลานา วาดโดยอัลเลน
• ฟิลิป อายุ 20 ปี ‘ไอ้วายร้าย’ เป็นชาวนิวยอร์ก พูดจาหยาบคายมีสำเนียงบรูกลิน
• เควิน อายุ 20 ปี ‘จอมวางแผน’ เป็นโจรลักเล็กขโมยน้อย ผู้วางแผนปล้นร้านขายยาเกรย์ดรักสโตร์ ชอบเขียนหนังสือ
• วอลเตอร์ อายุ 22 ปี ‘ไอ้ออสเตรเลียน’ ชอบคิดว่าตนเป็นนายพรานล่าสัตว์ใหญ่ เก่งเรื่องทิศทาง มักถูกใช้ให้เป็นคนระบุเป้า
• เอพริล อายุ 19 ปี ‘นังตัวแสบ’ พูดสำเนียงบอสตัน หัวของเอพริลเต็มไปด้วยความคิดและแผนการร้ายกาจในการแก้แค้นพ่อเลี้ยงของบิลลี่
• ซามูเอล อายุ 18 ปี ‘ไอ้ยิวจรจัด’ นับถือศาสนายิวออร์ทอดอกซ์ เป็นตัวตนเดียวที่เชื่อในพระเจ้า เป็นประติมากรและช่างแกะไม้
• มาร์ค อายุ 16 ปี ‘ม้างาน’ ไม่มีความคิดริเริ่ม จะทำอะไรต่อเมื่อมีคนสั่ง เป็นคนคอยจัดการงานที่ซ้ำซากน่าเบื่อทั้งหลาย
• สตีฟ อายุ 21 ปี ‘จอมเลียนแบบ’ ชอบเล่นตลกล้อเลียน และเลียนแบบคน
• ลี อายุ 20 ปี ‘ตัวตลก’ ชอบแกล้งคน มีไหวพริบ การเล่นตลกของเขามักจะทำให้คนทะเลาะวิวาทกัน
• เจสัน อายุ 13 ปี ‘วาวล์ลดความดัน’ เขาเป็นตัวตนที่เก็บงำความทรงจำอันเลวร้ายต่าง ๆ ไว้เพื่อที่ตัวตนอื่นจะลืมมันได้
• โรเบิร์ต (บ็อบบี) อายุ 17 ปี ‘นักฝันกลางวัน’ มักจะจินตนาการถึงการท่องเที่ยวผจญภัย
• ชอว์น อายุ 4 ขวบ ‘เด็กหูหนวก’ สมาธิสั้น คนมักคิดว่าเขาเป็นปัญญาอ่อน ชอบส่งเสียงหึ่งๆเพื่อให้รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนในหัว
• มาร์ติน อายุ 19 ปี ‘ผู้ดี’ ชาวนิวยอร์ก ชอบวางท่า อวดร่ำอวดรวย ขี้โม้ อยากมีอยากได้โดยไม่คิดจะทำงานหนักเพื่อให้ได้มา
• ทิโมธี (ทิมมี่) อายุ 15 ปี ทำงานในร้านดอกไม้ ซึ่งทำให้เขาได้เจอเกย์คนหนึ่ง เกย์ผู้นี้ได้ลวนลามทิมมี่ ทำให้เขากลัวมาก และหลบเข้าไปอยู่ในโลกของตัวเอง
• ‘ครู’ อายุ 26 ปี คือตัวตนทั้ง 23 ที่หลอมรวมกัน เป็นผู้สอนตัวตนอื่นๆ ถึงทุกอย่างที่พวกเขาได้เรียนรู้มา เขาบอกว่า “ฉันคือบิลลี่ที่ครบถ้วนสมบูรณ์”
สาเหตุของอาการป่วยโรคหลายอัตลักษณ์ เกิดจากสภาวะทางจิตของผู้ป่วยถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ทางร่างกานและจิตใจตั้งแต่ในวัยเด็ก ทำให้เกิดความเศร้า ความกลัว หวาดระแวง ส่งผลให้จิตสร้างตัวตนอื่นๆมาปกป้องตัวตนหลักและตัวตนที่ถูกสร้างขึ้นจากตัวตนหลัก หากรับมือกับสถานการณ์ไม่ไหวก็จะสร้างตัวตนมาอีกเรื่อย ๆ
ซึ่งหมายความว่าตัวตนอื่นๆที่อยู่ในตัวตนหลักก็สามารถสร้างตัวตนอื่นๆอีกเพื่อมาป้องกันตัวตนนั้นๆ โดยกลไกของมันจะมีบุคลิกที่เป็นผู้นำคอยบอกให้บุคลิกไหนออกมารับมือตามสถานการณ์ที่กำลังเกิดกับตัวตนหลักซึ่งตัวตนหลักจะไม่รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยเมื่อมีตัวตนอื่นๆ แทรกแทรงเข้ามา
ซึ่งเมื่อย้อนไปในวัยเด็ก บิลลี่ ได้เล่าเรื่องราวในวัยเด็กให้จิตแพทย์ของเขาว่า พ่อเลี้ยงของเขาข่มขืน ทรมานเขาโดยจับเขาฝังทั้งเป็น หรือไม่ก็จับเขาห้อยลงมาโดยมัดนิ้วเท้าห้อยเอาไว้ ด้วยเหตุการณ์ที่บิลลี่เล่าในช่วงวัยเด็กที่เขาประสบ ทำให้จิตแพทย์ของเขาวินิจฉัยว่าเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในวัยเด็กของเขา ส่งผลให้เขาเป็นโรคหลายอัตลักษ์
บิลลี่ในวัยเด็ก
ในท้ายที่สุดเขาได้รับการปล่อยตัวใน ปี 1988 หลังจากเขารักษาตัวอยู่โรงพยาบาลจิตเวชมานานหลายทศวรรษและห้วงสุดท้ายของชีวิต ในวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ.2014 ชายที่ชื่อว่า บิลลี่ มิลลิแกน ก็เสียชีวิตด้วยโรงมะเร็ง ในวัย 59 ปี เขาถูกโลกจดจำในนามของอาชญากร คดีของเขาทำส่งผลให้มีการศึกษาถึงโรคหลายอัตลักษณ์ อย่างจริงจังและเป็นที่รู้จักมากขึ้นในปัจจุบัน
อ้างอิง
โฆษณา