ทำไม HALFTIME SHOW ของซูเปอร์โบวล์ ถึงไม่จ่ายค่าตัวให้ศิลปินแม้แต่ดอลลาร์เดียว?
การแสดงคอนเสิร์ต Halftime Show ระหว่างพักครึ่งในซูเปอร์โบวล์นั้น มีโปรดักชั่นที่ยิ่งใหญ่อลังการเวอร์วังทุกปี แต่เรื่องคลาสสิค ที่มีมานานและยังมีอยู่ คือศิลปินที่ขึ้นมาโชว์นั้น จะได้ค่าจ้าง 0 ดอลลาร์
ทาง NFL จะไม่จ่ายเงินให้นักร้องแม้แต่ดอลลาร์เดียว ต่อให้คุณจะโด่งดังคับฟ้าแค่ไหนก็ตาม ก่อนหน้านี้ พอล แม็คคาร์ทนีย์, เรด ฮอต ชิลลี่ เปปเปอร์ส, บียอนเซ่, เลดี้ กาก้า แม้แต่ไมเคิล แจ๊คสัน ไม่มีใครเคยได้เงินจากการแสดงโชว์
เช่นเดียวกันกับในปีนี้ แม้ Rihanna จะคัมแบ็กสู่วงการดนตรีเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เธอก็ไม่ได้ค่าจ้างมาเล่นเหมือนกัน
NFL จะจ่ายค่าเดินทางให้ศิลปิน และจ่ายค่าโปรดักชั่นอย่างอื่นให้ตามสมควร แต่ค่าตัวจะไม่ให้ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่รู้กันตั้งแต่แรก
ทำไม NFL ถึงไม่จ่าย? คำตอบคือ เพราะสิ่งที่พวกเขามีให้ศิลปินนั้น มีค่ายิ่งกว่าค่าตัวเสียอีก
สิ่งที่ศิลปินจะได้รับจาก NFL มีสองอย่าง อย่างแรก คือ "แอร์ไทม์"
เป็นที่ทราบกันดีว่า ซูเปอร์โบวล์มียอดคนดูสูงสุดในอเมริกาทุกปีอยู่แล้ว คนดูมากกว่า 100 ล้านคนเฉพาะในสหรัฐฯ และถ้านับทั่วโลกก็พุ่งสูงเกินกว่า 200 ล้านคน
เมื่อมีแอร์ไทม์ คุณถูกคนเห็นพร้อมกัน 200 ล้านคน ก็นำมาสู่รายได้ในทางอื่นๆ เช่นในปี 2012 ตอนมาดอนน่า มาขึ้นโชว์ช่วงพักครึ่ง ในสัปดาห์นั้น เธอมียอดดาวน์โหลดดิจิตอล เพลง Vogue เพิ่มขึ้น 1033% และ มียอดดาวน์โหลดเพลง Like a Prayer เพิ่มขึ้น 2437%
เจนนิเฟอร์ โลเปซ ขึ้นฮาล์ฟไทม์โชว์ ในปี 2020 ปรากฏว่าพอโชว์เสร็จ เธอมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นในโซเชียลมีเดีย 2.3 ล้านคน
แมรี่ เจ ไบลจ์ ขึ้นโชว์ในปีที่แล้ว (2022) ปรากฏว่ายอดขายอัลบั้มของเธอ พุ่งทะยาน 999% ในวันนั้น
NFL ไม่จ่ายค่าจ้าง เพราะสิ่งที่แลกเปลี่ยนกันมันคุ้มค่ายิ่งกว่า จะมีคอนเสิร์ตไหนในโลก ที่ขึ้นไปเล่นแค่ 15 นาที แต่สามารถสร้างยอดขาย หรือเพิ่มผู้ติดตามได้มากขนาดนี้
อย่างที่สองที่ศิลปินจะได้รับคือ "เกียรติยศ" การได้แสดงโชว์ตอนพักครึ่งของซูเปอร์โบวล์ ถือเป็นหนึ่งในความฝันสูงสุดของนักร้องหลายๆ คน เพราะมันแปลว่าคุณได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุด หรือ Pinnacle ของวงการดนตรี
ในปี 2021 The Weeknd ได้รับเชิญให้ทำการแสดงช่วงพักครึ่งของซูเปอร์โบวล์ ปรากฏว่า เขายอมจ่ายเงินของตัวเอง 7 ล้านดอลลาร์ เพื่อทำให้โปรดักชั่นของโชว์มันสมบูรณ์แบบที่สุด คือนอกจากจะไม่ได้เงิน ยังต้องควักเงินจ่ายเองอีกต่างหาก แต่พวกศิลปินก็คิดว่ามันคุ้มค่า เพราะการได้โชว์ในช่วงพักครึ่งมันคือเกียรติอันยิ่งใหญ่แล้ว
สำหรับ Rihanna เธอไม่ได้ขึ้นคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบมาแล้ว 6 ปีเต็ม สาเหตุเพราะเธอไปจริงจังกับการทำธุรกิจเครื่องสำอาง Fenty Beauty นอกจากนั้น เธอเพิ่งคลอดลูกชายอีกด้วย ตอนแรกหลายคนคิดว่า เธออาจจะไม่กลับมาขึ้นคอนเสิร์ต หรือทำเพลงอีกแล้วก็ได้
แต่สุดท้ายเธอก็กลับมา เมื่อประกาศว่า จะขึ้นคอนเสิร์ต Halftime Show ในปีนี้ โดยเหตุผลของเธอคือ "ถ้าหากฉันจะต้องอยู่ห่างจากลูกล่ะก็ ฉันจะเลือกทำ เพื่อสิ่งที่พิเศษมากจริงๆ" และการได้ขึ้นโชว์ใน Halftime Show มันก็มีคุณค่ามากพอที่เธอจะทำ
Rihanna มีแพสชั่นอยากขึ้นซูเปอร์โบวล์มาตั้งนานแล้ว เธอเคยถูกเชิญในปี 2019 แต่จำใจต้องปฏิเสธไป เพราะตอนนั้นเธอแสดงจุดยืน สนับสนุนโคลิน เคเปอร์นิค ควอเตอร์แบ็กที่คุกเข่าใส่เพลงชาติสหรัฐฯ
ตอนนั้นมีการเคลื่อนไหว Black Lives Matter และคนผิวดำจำนวนมากต่อต้าน NFL ที่ไม่ยอมสนับสนุนเคเปอร์นิค ทำให้ Rihanna ไม่อยากเอาตัวเองไปอยู่ในดราม่าการเมือง เธอจึงปฏิเสธการขึ้นโชว์ในครั้งนั้น
แต่เมื่อถูกเชิญอีกครั้งในปีนี้ เธอจึงตัดสินใจตอบตกลง โดยใช้คำว่า "Now or Never" ถ้าหากไม่ได้ขึ้นโชว์ตอนนี้ ก็คงไม่ได้ขึ้นแล้ว ดังนั้นก็ต้องลุย เพื่อให้ตัวเองมีชื่อจารึกว่าครั้งหนึ่ง ได้เป็นศิลปินที่ถูกเชิญไปเล่นใน Halftime Show
ด้วยเหตุผลสองข้อที่กล่าวมา ทำให้ NFL ไม่จ่ายเงินค่าตัวของศิลปิน เพราะการได้มาโชว์ มันก็มีมูลค่ามหาศาลในตัวเองแล้ว
เมื่อสักครู่ ผมเพิ่งดูโชว์ของ Rihanna จบไปในช่วงพักครึ่ง รู้สึกได้เลยว่า สุดยอดจริงๆ ไม่มีช่วงเบื่อเลย เธอใส่ชุดสีแดงเพลิงขึ้นมาร้องเพลงฮิต ซิงเกิ้ลแล้ว ซิงเกิ้ลเล่า ทุกเพลงนี่ ติดหูทั้งหมด ตั้งแต่ We found love, Work, Umbrella ฯลฯ
ส่วนพาร์ทที่ผมชอบที่สุดคือตอนจบครับ ที่เธอร้องเพลง Diamonds เป็นเพลงสุดท้าย แล้วพลุที่สนามก็จุดปังๆ แบบว่าอลังการสุดๆ
รวมๆ แล้วนี่เป็นโชว์ที่ดีมาก สมแล้วกับการรอคอย เสียดายนิดหน่อยว่าช่วงพักครึ่ง มันมีเวลาแสดงแค่ 15 นาที ทำให้หลายๆ เพลง เธอก็ไม่ได้ร้อง ส่วนตัวผม ถ้าพูดถึง Rihanna จะชอบเพลงชื่อ Take a bow ที่สุด (ซึ่งเธอไม่ได้ร้อง) แต่ก็นะ เวลาแค่นั้น เธอจะขนเพลงทั้งหมด มาร้องก็คงไม่ได้ ก็เลยเลือกแต่บางเพลงเท่านั้น
สำหรับประเด็นที่ถูกพูดถึงอยู่ คือ Rihanna ตั้งครรภ์ลูกคนที่สองหรือไม่ ในโลกออนไลน์ก็ได้แต่คาดเดา จากท้องของเธอที่โตขึ้นมาอย่างชัดเจนเหมือนคนท้อง หลายคนบอกว่า ปกติ Halftime Show มักจะมี Special Guest แต่ Rihanna ไม่ได้เชิญใคร เพราะ Special Guest ของเธอคือลูกคนที่สองในท้องนั่นเอง และล่าสุดเธอก็คอนเฟิร์มแล้วว่า เธอตั้งครรภ์อยู่จริงๆ
หลังจากโชว์จบแล้ว แน่นอนว่า Rihanna ไม่ได้เงิน แต่เธอก็คงไม่ได้แคร์นัก เพราะเธอรวยอยู่แล้ว การได้ขึ้นโชว์ในเวทีระดับนี้ต่างหาก คือเป้าหมายที่สำคัญที่สุด และเธอก็ทำได้ดีในระดับที่ยอมรับได้ แถมยังมีแอบโฆษณา Tie-in เครื่องสำอางแบบเบาๆ อีกต่างหากระหว่างโชว์
สำหรับ Rihanna นั้น การที่เธอมาโชว์ครั้งนี้ สร้างความดีใจให้กับคนทุกๆ วงการอย่างมาก แม้แต่ผู้เล่นอเมริกันฟุตบอลเอง อย่างแพทริก มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กของแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ก็พูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน
มีเหตุการณ์หนึ่งที่ผมชอบครับ คิดว่ามันตลกดี คือก่อนการแข่งจะเริ่มประมาณ 3 วัน ควอเตอร์แบ็กของแต่ละทีม ก็จะให้สัมภาษณ์กับนักข่าวถึงความพร้อมก่อนเกม
แพทริก มาโฮมส์ ขึ้นไปนั่งที่เพรส คอนเฟอเรนซ์ จากนั้นมีอดีตนักกีฬาที่ผันตัวเป็นนักข่าวชื่อแบรนดอน มาร์แชลล์ ได้บอกมาโฮมส์ว่า "Rihanna เพิ่งออกมาบอกว่า คุณคือควอเตอร์แบ็กที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล เมื่อได้ยินแบบนั้น คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง"
มาโฮมส์ ทำหน้าตกใจมาก ไม่คิดว่าจะได้รับคำชมจาก Rihanna แบบนี้ เขาบอกว่า ครอบครัวของเขาทุกคน ตื่นเต้นกับโชว์ของ Rihanna มากกว่าเกมอเมริกันฟุตบอลอีก จากนั้นเขาก็บอกว่า "อะไรก็ตามที่ Rihanna พูด เปรียบได้กับเสียงจากสวรรค์ ดังนั้นผมดีใจมากๆ ที่เธอกล่าวถึงผมด้วยคำที่ให้เกียรติขนาดนั้น"
ระหว่างที่มาโฮมส์ กำลังยิ้มแย้มดีใจที่ Rihanna ชื่นชมเขา นักข่าวแบรนดอน มาร์แชลล์ ก็พูดช็อตฟีลว่า "เธอไม่ได้พูดหรอก! ผมแค่อำคุณเล่นเฉยๆ !" เรียกเสียงหัวเราะจากทั้งเพรส คอนเฟอเรนซ์
มาโฮมส์ หน้าแดงเขินอาย แล้วบอกว่า "โถ่!" อุตส่าห์ดีใจนึกว่า Rihanna ชม กลายเป็นดีใจเก้อเลย มาโฮมส์ก็ได้แต่เซ็ง 55555
สำหรับในอเมริกันฟุตบอล ต้องติดตามกันต่อไป ว่าใครจะมาเป็นนักร้องใน Halftime Show ปีหน้า ในขณะที่ Rihanna เมื่อเธอได้กลับมาขึ้นเวทีแล้ว เธอจะกลับมาอย่างต่อเนื่อง หรือจะหายกลับไปทำธุรกิจตามเดิม และให้เวลากับลูกอีกครั้ง ก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้เช่นเดียวกัน
#HALFTIMESHOW
- 68
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
