13 ก.พ. 2023 เวลา 12:42 • ข่าวรอบโลก

ประเด็นนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ของชาวญี่ปุ่นเลยล่ะ

เมื่อ Eimi Fukada ออกมาบอกว่า
การเดทแต่ละครั้งผู้ชายควรเป็นคนจ่ายเงิน
เพราะผู้หญิงลงทุนแต่งหน้า-แต่งตัวให้สวยแล้ว
ที่มาที่ไปของเรื่องราวนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2023 (เมื่อวาน) นักแสดงสาวชื่อดังชาวญี่ปุ่นอย่าง Eimi Fukada ได้ทำการทวิตข้อความหนึ่งลงในทวิตเตอร์ส่วนตัว
1
หัวข้อทวิตของ Eimi Fukada เปิดด้วยข้อความที่ว่า
1
"ทำไมผู้ชายต้องเป็นจ่ายเงินเวลาชวนผู้หญิงออกเดท"
เนื้อหาโดยสรุปคือ
: รู้ไหม ทำไมผู้ชายถึงต้องเป็นฝ่ายจ่ายเงินเวลาชวนผู้หญิงออกเดท
: นั่นก็เพราะว่า กว่าที่ผู้หญิงจะออกบ้านไปเดทได้ เธอต้องเตรียมความพร้อมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม ทุกอย่างจะต้องเป๊ะก่อนออกจากบ้าน
1
: แค่เสื้อผ้า + เครื่องสำอางที่ผู้หญิงต้องใช้ในการแต่งหน้าก็มีต้นทุนไปแล้วไม่รู้เท่าไหร
2
พร้อมกับยกตัวอย่างว่า อย่างลิปสติกที่ดีหน่อยก็ตกแท่งละ 4,000 เยนแล้ว (ประมาณ 1021 บาท)
: ที่ผู้หญิงยอมทำและลงทุนขนาดนี้ก็เพราะต้องการให้คู่เดทของเธอชมว่าเธอน่ารักและไม่อายเวลาเดินด้วยกัน
1
: ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการเดทฝ่ายชายก็สมควรที่จะเป็นคนจ่ายทั้งหมดนะ
หลังจากทวิตข้อความนี้ไปไม่นาน ทวิตดังกล่าวก็กลายเป็นไวรัลทันที มีผู้คนมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็นใต้ทวิตของ Eimi Fukada อย่างล้นหลาม
ก็มีทั้งฝั่งที่เห็นด้วยและฝั่งที่ไม่เห็นด้วย
ซึ่งทั้งสองฝั่งก็แบ่งค่อนข้างชัดเจนคือ ชายและหญิง
ฝั่งที่เห็นด้วย (ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง) ก็มองว่าข้อความ ที่ Eimi สื่อออกมาก็เป็นความจริง ผู้หญิงทุกคนก็มีต้นทุนในการแต่งตัวเพื่อให้ตัวเองดูดี
ถ้าแต่งแบบธรรมดา ๆ ไป เดี๋ยวก็ถูกหาว่าไม่ใส่ใจคู่เดทอีก
แต่บางความเห็นของฝั่งนี้ก็มองว่า จะให้ช่วยออกก็ได้ แต่ก็อยากเห็นผู้ชายแสดงความใจป๋าบ้างก็แค่นั้นเอง ไม่ใช่เอะอะหารครึ่งตลอด
ฝั่งที่ไม่เห็นด้วย (ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย) ก็มองว่า แล้วทุกวันนี้ผู้ชายใส่ใบไม้ออกจากบ้านหรอ ผู้ชายก็ล้วนมีต้นทุนในการแต่งตัวไม่ต่างจากผู้หญิงแหละ
3
ถ้าผู้ชายแต่งแบบธรรมดา ๆ ไป เดี๋ยวผู้หญิงก็เอาไปเม้าในกลุ่มเพื่อนอีก
แต่ถึงอย่างนั้นบางความเห็นก็บอกว่า ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายที่ต้องออกให้หรอก แต่มันก็ไม่ควรจะต้องออกให้ทั้งหมดรึป่าว
แต่หลังจากที่ทวิตดังกล่าวเป็นประเด็นไม่นาน Eimi ก็รีบกลับมาลบมันทิ้งไปอย่างรวดเร็ว และก็ทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ถึงจะลบเร็วแค่ไหน ก็เร็วไม่ทันนักแคปในตำนาน
4
ทำให้ประเด็นนี้มันยังคงวนเวียนและกลายเป็นที่ถกเถียงกันอยู่จนถึงตอนนี้
อ้างอิง
โฆษณา