8 ที่เที่ยวในเมืองไทย เที่ยวเหนือล่องใต้ ได้ใน 3 วัน
ในเมืองไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งในรูปแบบทะเล ภูเขา รวมไปถึงสถานที่ที่ผู้คนเคารพนับถืออย่าง วัดเก่าแก่ ซึ่งฝังอยู่ตามจังหวัดที่เรารู้จักกันดี เช่น อยุธยา กาญจนบุรี เป็นต้น ซึ่งอยู่ที่ใครจะชอบสถานที่ท่องเที่ยวแบบไหน ดังนั้นวันนี้จึงจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่ผู้คนสนใจ สามารถเที่ยวได้ใน 3 วัน
1. วัดพระเเก้ว จังหวัดกรุงเทพฯ
ที่นี่เป็นที่ตั้งของวัดรัตนโกสินทร์ที่สวยงามตระการตา นอกจากวัดพระศรีสรรเพชญ์แล้ว ก็ยังมีที่นี่ วัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือที่เรียกว่าวัดพระแก้ว มีอายุย้อนไปถึงสมัยอยุธยาและเป็นวัดดังในพระบรมมหาราชวัง นอกจากนี้ พระศรีรัตนศาสดารามยังเป็นที่เคารพสักการะภายในวัดอีกด้วย พระแก้วมรกตหรือที่เรียกว่าพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรถูกส่งมาจากเวียงจันทน์ ในพิธีกรรมต่างๆ ของราชวงศ์ จะทำหน้าที่เป็นวัดที่สำคัญของราชวงศ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในประเทศของเรา
2. ถ้ำมรกต เกาะมุก จังหวัด ตรัง
เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสามในทะเลตรัง เกาะมุก ถือเป็น "ถ้ำมรกตอันล้ำค่าของอันดามัน" นอกจากชายหาดที่สวยงามแล้ว เกาะมุกยังเป็นที่รู้จักจากถ้ำมรกตที่มีความยาว 80 เมตร ซึ่งเป็นถ้ำน้ำขนาดเล็ก นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปในถ้ำได้ในเวลาน้ำลงเท่านั้นและพวกเขาจะต้องลอยอยู่ในความมืดมิด ภายในถ้ำทะเลสีเขียวมรกต สวยงาม และซ่อนเร้น
3. ไร่ชาฉุยฟง เชียงราย
นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่างวัดร่องขุ่น บ้านดำ และดอยตุงแล้ว เชียงรายยังเป็นพื้นที่ที่มีไร่ชาตามไหล่เขาอีกด้วย แน่นอน จากตำแหน่งนี้เราสามารถเห็นไร่ชาเขียวที่ทอดยาว ท้องฟ้าสีฟ้า และภูเขาสูงที่ล้อมรอบ อำเภอแม่จันเป็นที่ตั้งของไร่ชาฉุยฟง นี่เป็นพื้นที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับไร่ชา
4. ตึกชิโนโปตุกีส จังหวัดภูเก็ต
ใครว่าภูเก็ตมีแต่หาดทรายมสวย ผมขอแย้งว่ามันไม่จริง เพราะเมืองภูเก็ตยังมีของวิเศษที่หาได้ยากจากที่อื่น เช่น เมืองเก่าภูเก็ต นอกจากทะเลที่สวยงามมหาสมุทรที่บริสุทธิ์ และเกาะต่างๆ มากมาย ยังมีสีสันตึกชิโนโปรตุกีสที่สวยเด่นตระการตา จะดีถ้าหากครั้งหนึ่งเคยเดินเล่นทั่วเมืองและสามารถผ่อนคลายได้ คุณจะต้องได้ภาพที่สวยงามอย่างแน่นอน
5. เกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต
ทะเลสวยๆที่ภูเก็ต ต้องมีรายชื่อเกาะเฮรวมเข้าไว้ด้วย เพราะว่าเป็นการเดินทางที่แสนง่ายเพียง 15 นาทีเท่านั้น โดยเรือสปีดโบ้ท มีฝูงปลาหลากชนิด มีกิจกรรมมากมายรอเราอยู่ เพื่อให้หาดนี้ดูไม่เงียบเหงาเกินไปขอแนะนำให้ไปเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อไปทำกิจกรรมต่างๆ
6. อ่าวไร่เลย์ จังหวัดกระบี่
อ่าวไร่เลย์นั้นเป็นสถานที่ที่ไพรเวทมาก เนื่องจากไม่ใช่เกาะจริงๆ แต่ก็ไม่สามารถเดินเท้าเปล่าเข้ามาได้เพราะว่ามีแนวเขาสูงทึบขวางอยู่ ทำให้การเดินทางนั้นซับซ้อนไปอีกขั้นหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไป เพราะสามารถขึ้นเรือหางยาวขี่ตรงมาได้ในระยะเวลา 10 นาที อ่าวไร่เลย์นั้นเดินถึงกันหมดสามารถอวดโฉมบิกินี่ได้ถึงที่
7. ดอยหลวงเชียงดาว – จังหวัดเชียงใหม่
ที่เที่ยวบรรยากาศร่มรื่นท่ามกลางธรรมชาติ พอตกค่ำ สามารถนอนดูดาวได้ ไม่ได้มีเพียงแต่ในละครเท่านั้น คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศน่ารักๆ แบบนี้ บนดอยหลวงเชียงดาวในจังหวัดเชียงใหม่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวซึ่งเป็นยอดเขาหินปูนที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย ที่นี่ไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติหรืออ่างเก็บน้ำ แต่ก็ไม่แห้งแล้งนะ นอกจากนั้นยังมีพืชชนิดอื่นที่มีลักษณะเฉพาะไม่ได้เกิดขึ้นตามทั่วๆไป
8. หินสามวาฬ – จังหวัดบึงกาฬ
สถานที่แห่งนี้สามารถชื่นชมความงามได้หากหลายแบบ Three Whale Rocks ดูเหมือนหินขนาดมหึมาอายุ 75 ล้านปีที่มีรูปร่างคล้ายปลาวาฬ 3 ตัว โดยมีแม่และลูกว่ายน้ำอยู่ข้างๆ อยู่กลางทะเลต้นไม้เขียวขจี พ่อและแม่ของวาฬจะเป็นวาฬที่เราอาจจะเดินไปหาก่อนโดยส่วนตัวได้ เพื่อที่จะไปหาลูกวาฬ เราต้องเดินไปหาพ่อวาฬก่อน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
