14 ก.พ. 2023 เวลา 11:00 • การศึกษา

## Episode23: Component within the axial skeleton ##

กระดูกในร่างกายซึ่งทำหน้าที่supportร่างกายให้คงรูปอยู่ได้ จะถูกแบ่งเป็น2ส่วนใหญ่ๆคือ กระดูกแกน(Axial skeleton) และกระดูกรยางค์(Appendicular skeleton) ในบทความนี้ผมจะพูดถึงรายละเอียดของaxial skeletonกันก่อนนะครับ
กระดูกในร่างกายทั้งหมดจะถูกแบ่งเป็น2ส่วนคือ "Axial skeleton"และ "Appendicular skeleton" โดยที่appendicular skeleton ในภาษาไทยเรา เรียกว่ากระดูกรยางค์ จะมีทั้งหมด126ชิ้น ประกอบด้วยกระดูกที่อยู่ส่วนปลายทั้งหมดเช่น clavicle, scapula, humerusเป็นต้น
ในขณะที่axial skeleton ในภาษาไทย เรียกว่ากระดูกแกน ทำหน้าที่ค้ำจุนอยู่บริเวณแกนกลางของร่างกาย จำง่ายๆว่ามี4ตัวคือ skull(29 ชิ้น), spine(26 ชิ้น), ribs(24 ชิ้น), sternum(1 ชิ้น) นอกนั้นที่เหลือคือappendicular skeleton ทั้งหมดครับ
.
ข้อต่อที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างaxial skeleton กับappendicular skeleton จะมีอยู่ด้วยกัน2ตำแหน่ง ด้านบนคือsternoclavicular joint ส่วนด้านล่างคือsacroiliac joint ข้อต่อทั้ง2นี้จึงมีความสำคัญในการส่งผ่านแรงระหว่างส่วนกลางกับส่วนปลายนั่นเอง
สำหรับ terminologyหรือคำศัพท์ที่จะพูดถึงrelative location หรือตำแหน่งของaxial skeleton เมื่อเทียบกับanatomical positionในมนุษย์ อาจจะมีบางคำที่ความหมายใกล้เคียงกัน ใช้แทนกันบ้าง เช่น
- Anterior กับ Posterior จะใช้บอกตำแหน่งด้านหน้า-หลังของaxial skeleton (จะมีความหมายเหมือนกับคำว่า Ventral กับ Dorsal)
- Medial กับ Lateral จะใช่บอกตำแหน่งเทียบกับmidline ว่าเข้าหาหรือออกห่างจากmidline
- Superior กับ Inferior จะบอกถึงตำแหน่งด้านบน-ล่างของaxial skeleton (จะมีความหมายเหมือนกันคำว่า Cranial กับ Caudal)
.
เหตุผลที่มีคำที่มีความหมายซ้ำกัน เพราะมนุษย์มีวิวัฒนาการที่upright ขึ้นมาจากการเป็นสัตว์4ขา ถ้าดูในสัตว์4ขาจะพบว่าterminologyเหล่านี้ จะมีความหมายแตกต่างกันทั้งหมดครับ
สำหรับองค์ประกอบของaxial skeleton ตัวแรกคือskull หรือกะโหลกศีรษะ ทำหน้าที่ปกป้องสมองและอวัยวะสำคัญต่างๆเช่นตา, หู, จมูก, vestibular system เป็นต้น โดยที่skull จะประกอบด้วยกระดูก29 ชิ้น แบ่งเป็น2กลุ่มใหญ่ๆคือ
- Cranial bone(8 ชิ้น): Frontal, occipital, two temporal, two parietal, sphenoid, ethmoid และ
- Facial bone(14 ชิ้น): vomer, two nasal conchae, two nasal bone, two maxilla, mandible, two palatine, two zygoma, two lacrimal
รวมไปถึงกระดูกหูชั้นในข้างละ3ชิ้น และhyoid bone1ชิ้น รวมทั้งหมดเป็น29ชิ้น
.
ระหว่างกระดูกกระโหลกแต่ละชิ้น จะเชื่อมต่อกันโดยfibrous joint ที่เรียกว่าsuture ภายในskull จะมีช่องว่างที่เป็นทางออกของเส้นประสาทสมองที่มาเลี้ยงโครงสร้างต่างๆ และมีช่องขนาดใหญ่ที่occipital boneเรียกว่า foramen magnum ที่เป็นทางผ่านจากสมองลงมาเป็นไขสันหลังนั่นเอง
ส่วนต่อมาคือกระดูกสันหลัง(vertebra) หรือspine แบ่งเป็น5ส่วนคือ cervical, thoracic, lumbar, sacrum, coccyx นอกจากจะทำหน้าที่ในการทรงท่าแล้ว ยังมีหน้าที่สำคัญในการเคลื่อนไหวและการป้องกัน spinal cord, nerve root ที่อยู่ภายในจากการบาดเจ็บ
กระดูกสันหลังจะมีการวางตัวเป็นcurve ส่วนเว้าเราจะเรียกว่า "lordosis" ในขณะที่ส่วนนูนเราจะเรียกว่า "kyphosis" การวางตัวเป็นcurveนี้จะทำให็กระดูกสันหลังรับแรงจากการกดได้ดีขึ้น นอกจากนี้กระดูกสันหลังยังมีligament และโครงสร้างอื่นอีกจำนวนมากที่สร้างความมั่นคง ซึ่งเดี๋ยวผมจะพูดถึงรายละเอียดในบทความต่อๆไปนะครับ
ส่วนต่อมาคือ "Ribs" หรือซี่โครง มีทั้งหมด12คู่ เกาะติดอยู่กับกระดูกสันหลังส่วนอก(thoracic spine) formตัวกันเป็นrib cage เพื่อป้องกันอวัยวะภายในในกลุ่ม cardiopulmonary organ ด้านหลังของribs จะมีส่วนที่เป็นhead และtubercle เกาะยึดติดกับthoracic spineผ่าน2ข้อต่อ คือ costovertebral jointและ costotransverse joint ส่วนทางด้านหน้าจะเชื่อมต่อกับกระดูกหน้าอก(sternum)
โดยที่rib1-7 จะเกาะโดยตรงที่กระดูกsternum ผ่านcostal cartilage ในขณะที่rib 8-10จะเกาะกับsternum ผ่านcostal cartilageของซี่โครงด้านบน และrib11-12 ที่อยู่ล่างสุด จะลอยอยู่ไม่เกาะกับsternum เราจึงเรียกซี่โครง2ซี่สุดท้ายนี้ว่า "Floating ribs"
ส่วนสุดท้ายคือกระดูกหน้าอกหรือsternum เป็นกระดูกแบนๆที่เป็นจุดเกาะของกระดูกซี่โครง จึงมีความสำคัญในขณะที่เราหายใจ โดยsternum จะแบ่งเป็น3ส่วนคือmanubrium, bodyและ xiphoid ทั้ง3ส่วนนี้จะอยู่ติดกันและossified เชื่อมต่อกันภายในอายุประมาณ40ปี
ทั้งหมดนี้ก็คือองค์ประกอบของaxial skeleton และความแตกต่างระหว่างกระดูกแกนกับกระดูกรยางค์นะครับ สำหรับรายละเอียดของแต่ละส่วนผมจะค่อยๆเอามาอธิบายในตอนต่อๆไปนะครับ
ถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ผมฝากกด like กดแชร์ กดติดตามเพจphysioupskillด้วยนะครับ ส่วนถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรก็commentไว้ด้านล่างได้เลยครับ
_PhysioUpskill_
#Physioupskill
#skeleton
#musculoskeletal
⭐สำหรับใครที่อยากเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถอ่านบทความอื่นๆได้ที่ https://physioupskill.com/บทความ/
หรือดูรายละเอียดคอร์สเรียนของเพจได้ที่ https://physioupskill.com/คอร์สเรียน/
ได้เลยครับ
Ref.
Neumann, D. A. (2016). Kinesiology of the Musculoskeletal System: Foundations for Rehabilitation. Mosby.
Becker, C. A. (2022, December 27). Skull. Kenhub. https://www.kenhub.com/en/library/anatomy/the-skull
Grant’s Atlas of Anatomy. (2016). LWW.
โฆษณา