17 ก.พ. 2023 เวลา 07:13 • ความคิดเห็น

Situationship / Friend with Benefit

คำว่า Friend with Benefit เคยได้ยินมานานแล้วค่ะ แต่ คำว่า Situationship ได้ยินเป็นคนครั้งแรกจากการเป็น Tarot Reader หรือหมอดูนั่นล่ะค่ะ ลูกดวงมาถามถึงคนในความสัมพันธ์ ถึงขึ้นต้องเปิดดูความหมายว่าคืออะไร สรุปก็คือคล้ายๆกันคือคบแบบไม่ Status ไม่ผูกมัด ซึ่งจะเป็นการตกลงกันของทั้ง 2 ฝ่ายตั้งแต่แรกที่คบ
ขอเล่าย้อนนิดนึงนะคะว่าตัวเองเป็นหมอดูที่ไม่ได้ทำเป็นอาชีพหลัก จะมีช่วงปิดบ้างเปิดบ้างตามความสะดวก ที่มาทำเพราะว่ามี Destiny ที่ต้องทำงานสาย Healer คือการเยียวยาผู้คน งานในสายนี้จะมีครูโยคะ ครูสอนสมาธิ นักจิตวิทยา เป็นต้น เพราะ Healer มีทั้งระดับกายภาพ อารมณ์ และจิตวิญญาณ จากทำงานพบว่าปัญหาที่ลูกดวงพบมากที่สุดคือความรัก และแยกย่อยออกไปคือความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่ชัดเจน
ในส่วนของการตกลงกันก็หลากหลายค่ะ บางคู่คือมีการเว้นระยะชัดเจน ไม่ไปไหนด้วยกัน มีความสัมพันธ์กันแล้วแยกย้าย ไม่ค้างคืน แต่บางคู่คือมีการเทคแคร์ฟีลแฟน ไปเจอครอบครัวอีกฝ่ายได้แต่ในฐานะเพื่อน ไปเที่ยวค้างคืนได้แต่ถ้าเจอคนรู้จักจะไม่แนะนำชื่อหรือไม่แนะนำว่าอีกฝ่ายเป็นแฟน แต่ปกติจะมีการตกลงว่าถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดไปเจอคนที่อยากจะคบจริงจังหรือเกิดความไม่สบายใจให้บอกกันเพื่อจบกันด้วยดี
ช่วงแรกๆ ที่คบกันส่วนใหญ่ก็ยังไม่มีปัญหาแต่เมื่อคบกันไประยะหนึ่งเมื่อมีคนเริ่มอยากเป็นมากกว่าที่ตกลงกัน อยากมีสถานะ อยากได้ความชัดเจน หรืออยากแต่งงานซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายหญิง เมื่อนั้นล่ะค่ะความสัมพันธ์ก็เริ่มเปลี่ยนไป มีการเรียกร้อง มีการทะเลาะ จบลงด้วยการแยกย้ายซึ่งจะเรียกว่าเลิกราก็ไม่ได้เพราะไม่มีสถานะตั้งแต่แรก แยกย้ายกันแล้วบางคนก็ตัดไม่ขาดค่ะ ยอมกลับมารับเงื่อนไขเดิมเพื่อที่จะมีเค้าในชีวิตต่อไป
บางคู่ก็แยกย้ายเพราะอีกฝ่ายไปเจอคนที่อยากจะให้ Status ขึ้นมา ก็จะเกิดคำถามว่าทำไมเมื่อเค้าอยากจริงจังขึ้นมา ทำไมคนนั้นๆไม่เป็นเรา ทำไมเป็นเราไม่ได้ เรากับคนที่เค้าเลือกมีอะไรที่ต่างกัน จะรู้สึก Hurt กว่าแบบที่เค้ายังลอยไปลอยมาค่ะ เพราะว่ารู้สึกว่าเค้าไม่เลือกเราแต่ก็ยังไม่ได้เลือกใคร ในอนาคตเรายังมีหวัง แต่จากสถิติที่เก็บมาถ้าเค้าวางเราเป็น FWB แต่แรก เค้าจะไม่เลือกเรานะคะ เพราะ 1.เค้ามองว่าเราเป็นของตาย 2.เค้าไม่ได้ชอบเรามากพอ ถ้าเค้าชอบเรามากแต่แรกเค้าจะยอมแลกกับสิ่งอื่น เช่น ความโสดที่เค้าหวง
คำถามที่มักจะได้จากเคส FWB คือเค้าจะกลับมาไหม?ถ้ากลับมาจะได้เลื่อนสถานะไหม? ไพ่ก็มักจะตอบว่าเค้ารักอิสระ ยังไม่พร้อมหยุดที่ใคร เค้าชอบเล่นเกมส์ ชอบควบคุม ถ้าจะคบต้องอยู่ในเกมส์ของเค้า และก็จะแนะนำเรื่องการใช้แรงดึงดูดไปค่ะ จุดประสงค์ของการมาแชร์ไม่ได้มาขายความลับลูกดวง แต่ไม่อยากให้ใครพาตัวเองไปอยู่ในจุดนั้นเพราะส่วนใหญ่จะลงเอยด้วยความเศร้า เราเลือกได้ค่ะ เรามีค่าคู่ควรกับความรักดีๆนะคะ เราต้องเห็นค่าตัวเองก่อน ดูแลตัวเองดีๆวันหนึ่งจะเจอคนที่ดีเอง
อีกหนึ่งคำถามที่ถามบ่อยคือ หนูเกิดมามีคู่กับเค้าไหมคะ? ถ้าเป็นคำถามแบบนี้จะไม่ได้เปิดไพ่ให้นะคะ เพราะตอบได้อยู่แล้วว่ามนุษย์ทุกคนมีคู่ของตัวเองถ้าเราอยากจะมี แต่เราต้องปรับในเรื่องพลังงานค่ะ บางคนอาจจะไม่รู้ว่ามนุษย์จะได้บททดสอบซ้ำๆจนกว่าเราจะสอบผ่าน เช่น มีแฟนกี่คนก็เจอแต่คนแบบเดิมๆ เจ้าชู้ รักเผื่อเลือก เรียกว่าเปลี่ยนคนแต่นิสัยถอดแบบกันเพราะว่าเรายังไม่เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง ยังไม่สามารถเติมเต็มตัวเองได้ ยังให้อภัยแฟนเก่าไม่ได้ เป็นต้น
การเติมเต็มตัวเองได้คือการอยู่คนเดียวได้ อยู่คนเดียวก็มีความสุข เวลาอยู่กับคนอื่นมีความสุข จะทำให้เราเป็นคนคาดหวังน้อย เมื่อคาดน้อยความผิดหวังก็น้อยและเกิดปัญหาน้อยตามไปด้วย คนที่ยังเติมเต็มตัวเองไม่ได้จะมีความสัมพันธ์​แบบยึดติดอีกฝ่าย​เกินไป ต้องการอยู่ด้วยกันตลอดเวลา​ เรียกร้องความรักและเวลาเพื่อให้อีกฝ่ายมาเติมเต็มตัวเราที่รู้สึกขาด​ เป็นความสัมพันธ์​ที่ไม่​ Healthy​ นะคะ คู่รักก็ควรมี​ Space​ เพื่อให้ต่างคนต่างมีเวลาไปทำอย่างอื่น เช่น ไปเที่ยวกับเพื่อน จะทำให้ได้มีเวลาคิดถึงกันด้วยค่ะ
การ Release พลังงานเก่าๆ สามารถทำได้ด้วยการให้อภัยตัวเองที่เลือกคนผิด ให้อภัยตัวเองที่พาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ยุ่งยาก ให้อภัยคนที่ทำให้เราเสียใจเพราะเค้าทำให้เราเรียนรู้การรักตัวเองและทำให้เราเก่งขึ้น รู้ว่าความรักที่ไม่ดีเป็นแบบไหน ทำให้เราเลือกถูกในอนาคต การยกโทษเป็นเรื่องที่ดีแต่ถ้าไม่สามารถทำได้ทันทีก็ไม่เป็นไรค่ะ บางเรื่องก็ต้องใช้เวลา แต่การยกโทษดีจะต่อใจเราเองเพราะเราได้ปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากความโกรธซึ่งเป็นพลังงานลบทำให้เราไม่ผ่านบททดสอบและจักรวาลต้องส่งคนแบบเดิมๆมาให้เรียนซ้ำ
การรักตัวเอง การเห็นคุณค่าตัวเอง คือการดูแลตัวเองอย่างดี 3 ด้านคือทางกาย อารมณ์และจิตวิญญาณ ทางกาย​ ออกกำลังกาย​ ทานอาหารมีประโยชน์ ทำ Self Care บ้าง เช่น ขัดผิวด้วยสครับเกลือ ทางอารมณ์​คือรักษาอารมณ์ให้อยู่ในคลื่นพลังงานบวก​ หมั่นเคลียร์พลังงานลบๆ​ หาเวลาไปพักผ่อน​ธรรมชาติบ้าง​ ทำงานอดิเรกที่ชอบ​ ทางจิตวิญญาณ​คือการนั่งสมาธิ​ การสมดุลจักระซึ่งเป็นศาสตร์ของอินเดีย จะช่วยให้สมดุลทั้ง 3 ด้านได้ดีขึ้น
การรักตัวเองนั้นรวมถึงการที่เรามองตัวเองด้วยค่ะ เรามองตัวเองแบบไหน คนอื่นก็จะมองเราแบบนั้น เราต้องมองตัวเองในแง่ดีค่ะ ถ้าเราคิดว่าตัวเองไม่สวยไม่มีเสน่ห์เราต้องปรับนะคะ เพราะเราจะดึงดูดคนที่เข้ามาแต่ไม่ได้เห็นค่าของเรา และเค้าจะพูดตอกย้ำในสิ่งที่เรามองตัวเองคือไม่สวยไม่มีเสน่ห์ด้วยค่ะ สามารถแก้ไขได้ด้วยการฝึกพูดคำดีๆกับตัวเองหน้ากระจก เช่น ฉันสวยและมีเสน่ห์ ฉันคู่ควรกับความรักดี ตอนพูดต้องรู้สึกแบบนั้นจริงๆด้วยนะคะ แล้วเราจะมีเสน่์ออกมาจากข้างในค่ะ
ทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามา แม้ว่าตัวเองจะเป็นหมอดูแต่ก็ไม่ได้สนับสนุนการดูดวงนะคะ มองว่าการดูดวงเป็นการพูดคุยเพื่อเยียวยาจิตใจมากกว่า ดวงนั้นมีผลต่อชีวิตประมาณ 10% ที่เหลือเกิดจากความคิด คำพูดและการกระทำค่ะ ทุกอย่างแม้มองไม่เห็นแต่มีคลื่นพลังงาน เมื่อเราส่งคลื่นแบบใดออกไปเราจะได้สิ่งนั้นกลับมาเสมอ พลังงานบวกดึงดูดพลังงานบวก พลังงานลบดึงดูพลังงานลบ มนุษย์จะได้รับสิ่งที่เราคู่ควรในเชิงพลังงาน ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากได้ ถ้าอยากได้สิ่งใดเราต้องเป็น Energy นั้นให้ได้ก่อนนะคะ
ในส่วนของความรัก คนบนโลกมีตั้งกี่หมื่นกี่พันล้านคน ต้องมีคนที่เกิดมาเพื่อเรา แต่เราต้องเริ่มจากการเชื่อว่าคนๆนั้นมีจริง เป็นการอนุญาตให้ตัวเองได้มีความรักดีค่ะๆ ต้องเชื่อว่าเราคู่ควรที่จะได้รับการดูแลดีๆและให้เกียรติ ระหว่างนี้ใหโฟกัสที่ตัวเอง พัฒนาตัวเอง รู้จักเลือกคบคน วางใจให้จักรวาลจัดสรรโดยที่ไม่พยายามเร่ง Process เพราะการลังเลสงสัยทำให้สิ่งที่ควรได้รับช้าออกไปค่ะ จักรวาลจะจัดสรรให้เองในเวลาที่เหมาะสมค่ะ ทุกอย่างมีเวลาที่เหมาะสมนะคะ 💗💗💗
โฆษณา