เด็กอายุน้อยเข้ามาทำงาน เก่งแต่ชอบเหยียดและไม่เคารพรุ่นพี่ทำยังไงดีคะ
กระทู้คำถาม
มนุษย์เงินเดือนทรัพยากรบุคคลการบริหารจัดการพนักงานประจำเพื่อนร่วมงาน
คือมีเด็กเข้ามาทำงานในบริษัทเรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยระดับท็อปของประเทศเลย ตอนเข้ามาใหม่ในแผนกค่อนข้างตกใจกันพอสมควร เพราะบริษัทเราเป็นบริษัทเล็กๆ ไม่มีชื่อเสียงอะไรมากมายแทบไม่เคยมีเด็กจากมหาลัยดีขนาดนี้มา
สมัคร แต่น้องให้เหตุผลว่าที่นี่ใกล้บ้านห่างจากบ้าน 2-3 ป้ายรถเมล์และไม่ค่อยเลิกงานดึกเลยเลือกทำงานที่นี่(สายงานเราถ้าเป็นบริษัทอิ่นๆการเลิกงานดึกหรือนอนค้างบริษัทเป็นเรื่องปกติ) พอมาทำงานน้องก็ทำงานเก่งจริง เรียนรู้งานไว สอนอะไรแป๊บๆก็ทำได้เลย และเป็นคนทำงานเป๊ะแถมเร็วด้วย ให้พูดตรงๆคือมาทำงานแค่ปีสองปีแต่เก่งแซงรุ่นพี่หลายคนในบริษัทที่ทำงานมาหลักเกือบสิบปีได้เลย แต่
ความเก่งโดดเด่นของน้องเค้ามาพร้อมปัญหาที่มีกับรุ่นพี่หลายคน คือในโปรเจคที่ต้องทำงานร่วมกันป็นทีม น้องเค้าคาดหวังผลงานจากคนอื่นค่อนข้างสูง คาดหวังว่าคนอื่นจะต้องทำงานได้ในระดับเดียวกับที่เค้าทำ จนหลายครั้งน้องโต้เถียงกับรุ่นพี่หลายคน เพราะรุ่นพี่ทำงานผิดพลาด ช้า หรือทำงานได้ในระดับที่น้องเค้ายังไม่โอเค ถ้าโต้เถียงกันแล้วพูดแต่เรื่องเนื้องานก็โอเคแต่เวลาโต้เถียงน้องจะหลุดคำเหยียดออกมาบ่อยเช่น
"หนูว่าพี่ไม่น่ามาทำงานนี้เลยเลิกแล้วไปทำอย่างอื่นมั้ย"
"หนูไม่เค้าใจว่าพี่เรียนหนังสือจบมาได้ยังไง แต่จบมหาลัย xxx มันก็อาจจะได้แค่นี้แหละ"
"พี่อายุตั้งเท่านี้ ทำงานได้แค่นี้พี่ไม่อายเหรอ"
นี่เป็นคำพูดที่เด็กอายุ 20 กลางๆ ใช้พูดกับรุ่นพี่ที่อายุ 30++ หลายครั้งแทบจะวางมวยกันในบริษัทต้องห้ามทัพกัน
ตอนนี้หัวหน้าแก้ปัญหาโดยการถ้าจะฟอร์มทีมทำโปรเจคใดโปรเจคหนึ่งแล้วจะให้น้องอยู่ในทีม น้องจะต้องอยู่กับเราหรือทีมที่คนในทีมที่มีความสามารถเก่งทันน้องเท่านั้น เรื่องเอาน้องออกสำหรับเราเป็นไปได้ยากมากเพราะฝีมือทำงานน้องมันก็ถือเป็นของจริง บริษัทได้งานเพิ่มหลายชิ้นเพราะน้องด้วยทั้งลูกค้าไปแนะนำต่อ
หรือกลับมาใช้งานบริษัทซ้ำ เราอยากทราบว่าพอจะมีวิธีแก้นิสัยน้องมั้ยคะ ตอนนี้อาจจะยังแก้ได้น้องอายุยังน้อย ให้น้องสามารถทำงานร่วมกับคนได้ทุกกลุ่ม เพราะตอนนี้เหมือนน้องจะร่วมงานได้แต่กับคนที่เก่งกว่าหรือมีความสามารถทันกันเท่านั้น ถ้าน้องต้องร่วมงานกับคนที่ไม่ค่อยเก่งปุ๊บอาการน้องออกทันทีว่าเหยียดและไม่ให้ความเคารพ
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าผมเป็นเจ้าของบริษัท จะจะเลือกค่อยๆ ไล่คนเก่าๆ ออก และรับเด็กใหม่ๆ แทนถ้ายังพัฒนาไม่ได้
มันชัดอยู่ ว่าใครคือตัวถ่วงบริษัท ถ้าขนาดอยู่มาสิบปี แต่ทำงานสู้เด็กจบใหม่ไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 16
ถ้าเป็นบริษัทเรา ถือว่าเป็น sign ของการ Harrassment สามารถแจ้งหัวหน้าได้เลย แต่บริษัทคุณกลายเป็นว่าต้องง้อให้น้องเค้าอยู่ เลยไม่น่าจะทำอะไรได้มากมั้ยคะ จะลงโทษก็กลัวน้องเค้าไปอีก
เอาจริงๆนะ การที่น้องเค้าเก่ง ไม่ได้แปลว่าจะ harrassment คนอื่นเค้าได้นะ เรางงกับคนที่บอกว่าไม่ได้เป็นข้อเสียของน้อง หรือให้ไล่คนเก่าออก มันคนละประเด็นกันมั้ย คนเก่าทำงานไม่ดีก็ให้หัวหน้าประเมินผลงานตามจริง ไม่ใช่ปล่อยให้เพื่อนร่วมงานมา bully กันแบบนี้
ความคิดเห็นที่ 3
ผมก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เอง แต่เท่าที่ฟังแล้วเทียบกับจากที่ทำงานองค์กรมานาน
ขออนุญาตเดาว่าประโยคดังกล่าวไม่น่าจะจู่ ๆ หลุดโพล่งขึ้นมาโดยตัวมันเอง แต่มีเหตุปัจจัย อาทิ วาจาของรุ่นพี่ก็อาจจะเอาเรื่องหรือไม่ครับ แบบทะเลาะกันมาจนลุกลามเป็นการทิ่มแทงกันด้วยคำพูดในที่สุดหรือไม่
ความคิดเห็นที่ 4
แล้วคนที่ทำงานไม่ได้เรื่องนี่ไม่คิดจะปรับปรุงตัวเองกันเลยเหรอ
สมควรแล้วที่จะโดนเด็กมันด่าเอา
ความคิดเห็นที่ 11
ก็ได้แค่เตือนๆแหละ อีกสักพักถ้าองค์กรมันไม่ดีน้องเขาก็จะไปเองค่ะ
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้ารับมาใหม่กระจอก ก็จะทำให้คนที่อยู่เก่าดูเก่งไปเลย ฉันใดก็ฉันนั้น
สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ ครับ
ที่ทำงานอยู่ก็เหมือนกันครับ มีการวางยากันเยอะครับ ไม่ใช่เขาฉลาดธรรมดา แต่ฉลาดแกมโกงครับ
คนๆ นึงเป็นคนรับของ-เก็บของ แกล้งเขียนฉลากผิด แกล้งใส่ของปนกล่อง แอบไปวางสลับที่ (ซ่อนของ) ฯลฯ สารพัด
ทำให้คนที่ทำงานด้วย หยิบผิด หยิบถูก หาไม่เจอ ไม่มีระบบ ทำให้คนรับของ-เก็บของ ดูเก่งดูมีฝีมือกว่าคนอื่น
ในสายตาเถ้าแก่ดูคนนี้เก่งมาก ในขณะนั้น หยิบได้ถูกแม้ว่าฉลากเขียนผิด หรือวางผิดที่ผิดทาง
ตัวผมเข้ามาวางระบบใหม่หมด สินค้าต้องมีรายละเอียดเป็นกระดาษ จับต้องได้ ไม่เน้นที่ตัวเขียน เน้น Part Number มากกว่า
จึงหลุดรอดจากการวางยา เขียนผิดๆ ได้ ทุกวันนี้เขาก็วางยาเขียนฉลากผิดๆ ถูกๆ แต่ผมเห็นผมก็แก้ให้หมด
สงสัยแต่เด็กใหม่ไม่พาสีพาสา หยิบผิดหยิบถูก ติดกับดักที่เขาวางไว้
เก็บกับดักเธอเอาไว้ ไม่อยากให้ใช้เปลือง
ความคิดเห็นที่ 8
อยู่ที่ว่าบ.ต้องการคีปอะไร คีปทีมหรือคีปผลงานเป็นหลัก จากที่อ่านว่าเป็นไปได้ยากว่าบ.จะให้น้องออก แสดงว่าบ.เล็งเห็นคุณประโยชน์ของคนที่ทำผลงานได้ดีเป็นหลัก ฉะนั้นแล้ว คนที่จะต้องปรับตัวคือพวกรุ่นพี่คนที่ทำงานช้าและผิดพลาด
บ่อยนั่นเองค่ะ ควรจะพัฒนาตัวเองเหมือนที่น้องกล่าวนั่นแหละ ส่วนเรื่องประโยคแจ๋วๆที่น้องพูด อันนี้ตัดสินทางเดียวไม่ได้ต้องดูด้วยว่า รุ่นพี่เองก็พูดแจ๋วเหมือนกันหรือปล่าว ไม่ใช่เป็นน้องต้องโดนอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าเป็นการฉะกันทั้ง2ฝ่ายเราก็มองว่าก็พอกัน แต่ถ้าอยู่ดีๆน้องโพล่งออกมาเลย อันนี้ก็ต้องรายงานหัวหน้าให้รับทราบ เพื่อดูแนวทางการแก้ปัญหาจากหัวหน้าค่ะ
ความคิดเห็นที่ 9
ถ้าเป็นบริษัทเล็กๆ เดาเอาเองว่าอาจมีคนเก่าคนแก่ที่ทำงานมาตั้งแต่รุ่นบุกเบิก ซึ่งในความเห็นส่วนตัว ควรจะพัฒนาคนกลุ่มนี้ให้ทำงานได้ดีขึ้นค่ะ จัดอบรมภายใน อัพสกิลให้ดีขึ้น แล้วลองมองหาจุดเด่นของคนกลุ่มนี้ เช่น ทำงานมากนาน รู้จักคนในวงการ ช่วยให้ติดต่องานได้ง่ายขึ้นหรือมีปัญหาแล้วแก้ได้ด้วยคอนเนคชั่นที่พวกเค้ามีอยู่ เพื่อเพิ่มเสริมผลงานและทำให้น้องใหม่เห็นด้วยว่า คนกลุ่มนี้อาจจะ
ทำงานช้าแต่มีประโยชน์ในด้านอื่น ส่วนของน้องใหม่ พฤติกรรมที่กล่าวมา คิดว่ามาจากการที่เห็นการทำงานที่ช้าและไม่มีประสิทธิภาพของพวกพี่ และรู้ว่าทำเงินให้บริษัทได้ ทำให้กล้าใช้คำพูดที่ไม่เกรงใจ คงต้องให้ทำงานกับกลุ่มที่ทันกันไปก่อน แล้วพอรุ่นพี่คนไหนที่สกิลทันกันหรือมีประโยชน์ต่อทีมจากประสบการณ์ที่มีอยู่ค่อยเอามาร่วมโปรเจคกันค่ะ เพราะถ้าสกิลการทำงานต่างกันมาก ก็อาจเกิดปัญหาแบบเดิมได้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 18
น้องเค้าคาดหวังผลงานจากคนอื่นค่อนข้างสูง คาดหวังว่าคนอื่นจะต้องทำงานได้ในระดับเดียวกับที่เค้าทำ จนหลายครั้งน้องโต้เถียงกับรุ่นพี่หลายคน เพราะรุ่นพี่ทำงานผิดพลาด ช้า หรือทำงานได้ในระดับที่น้องเค้ายังไม่โอเค ถ้าโต้เถียงกันแล้วพูดแต่เรื่องเนื้องานก็โอเคแต่เวลาโต้เถียงน้องจะหลุดคำเหยียดออกมาบ่อย
เหมือนคนในออฟฟิศเรามาพูดเรื่องเราเลยค่ะ แต่จริงๆก็คงไม่ใช่เรา จากมุมมองเราถ้าเป็นเด็กคนนั้นนะคะ เราเจอปัญหาแบบนี้เหมือนกันค่ะ คนในบอสัด ไม่ได้มีความสามารถโดดเด่นเท่าไหร่ แต่เด็กมาใหม่เก่งกว่า
เราเองเจอปัญหานี้อยู่ค่ะ เราเป็นเด็กคนนั้นที่คิดว่าตัวเองเก่งกกว่า manager
แน่นอน
เราเคยเจอเหตุการที่เราบอกว่าเพื่อนเราเก่งกว่าเราอีกนะ แต่เขาฟังว่าเก่งเท่าเรา เขาก็พูดมาว่า มั่นใจจังเลยนะ ซึ่งเราก็นั่นแหละค่ะ ตามนั้น เรารู้จักตัวเองดีที่สุด ไม่ได้พูดอะไรต่อ
แต่กลับกันว่าจะทำยังไงให้เขาเก่งขึ้นจะได้ทำงานแบบteam work ได้ ทำคอร์สexcel หรือการจัดระบบการทำงานใหม่ทั้งหมด เขียน sop ให้บริษัท ซึ่งนั่นแหละค่ะ ทำไม่ได้ เพราะมีพนงแบบจขกท เยอะ ไม่ค่อยปรับตัว เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
การเป็นหัวหน้าที่เจอลูกน้องเก่งกว่า คือเรื่องปกติค่ะ ซึ่งหัวหน้าจะต้อวงมีสกิลใช้คนให้เกิดประโยชน์ที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ รวบงานเอาหน้า พอเข้าใจใช่มั้ยคะ เราพูดกับเพื่อนนอกออฟฟิศด้วยค่ะ ว่าสงสาร ceo มีแต่พนงที่ทำงานไปวันๆ บริษัทจะรอดมั้ย จะให้ฉันมาทำระบบใหม่ทั้งหมด แค่เรียกขอreport จากหัวหน้างานมา 3 วันยังไม่ได้เลย ปต่ก็นั่นแหละค่ะยังไงก็สู้ๆนะคะ เรียนรู้งานจากน้องเขาเยอะๆจะได้ไปต่อที่อื่นได้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
