Moneyball ถูกใช้แบบไหนกับลิเวอร์พูล และ FSG จะขายทีมหรือไม่ ไปลำดับเรื่องด้วยกัน
หลักการ Moneyball ของจอห์น เฮนรี่ และ FSG เป็นแนวทางที่สืบทอดต่อมาจาก การทำทีมบอสตัน เรดซ็อกซ์ และส่งต่อมาถึงการทำทีมลิเวอร์พูล โดยมีคำอธิบายง่ายๆ คือ
- ลิเวอร์พูลจะไม่ทำสงครามสู้เรื่องราคากับใคร
- ลิเวอร์พูลจะไม่เอาเงินในอนาคตมาซื้อ จะซื้อเท่าที่งบประมาณมีเท่านั้น
ถ้ามีนักเตะสักคน ที่โดนรุมแย่ง จนปั่นราคาไปสู้เกินควร ลิเวอร์พูลจะปฏิเสธอย่างเด็ดขาด แนวทางคือจะไม่ซื้อผู้เล่นจะไม่ซื้อด้วยอารมณ์ ถ้าหากโดนโก่งราคาเกินพอดี ก็จะไปซื้อคนอื่น ที่มีผลงานใกล้เคียงกันแทน
ไม่แปลกเลยที่หงส์แดงมักจะไปเล็งผู้เล่นราคาถูกที่ทีมอื่นไม่สนใจอย่างแอนดรูว์ โรเบิร์ตสันของฮัลล์ ซิตี้ ย้ายมาลิเวอร์พูลในราคาเริ่มต้นแค่ 8 ล้านปอนด์
หรือ อย่างตอนที่ลิเวอร์พูลจะซื้อจามาล ลูอิส จากนอริช แต่โดนนอริชโก่งราคาไปจนถึง 20 ล้านปอนด์ เพราะมั่นใจว่าหงส์จะเอาแน่ ลิเวอร์พูลก็ถอดปลั๊กทันที แล้วไปเซ็น คอสตาส ซิมิกาส จากโอลิมเปียกอส ในราคา 11.75 ล้านปอนด์แทน
ครั้งหนึ่ง บิลลี่ บีน GM ของทีมเบสบอลโอ๊คแลนด์ แอธเลติกส์ ผู้ซึ่งเป็นออริจินอลคิดค้นแผน Moneyball เคยกล่าวชื่นชมลิเวอร์พูล ที่นำหลักการ Moneyball มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
บีนบอกว่า "ไม่ใช่แค่เคสของโรเบิร์ตสัน หรือ ซิมิกาสเท่านั้น แต่กรณีของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็เหมือนกัน พวกเขาจ่ายเงินราวๆ 40 ล้านปอนด์ ดึงซาลาห์มาจากอิตาลี แต่สิ่งที่ซาลาห์ตอบแทนให้ลิเวอร์พูลมันมากกว่านั้นอย่างประเมินค่าไม่ได้"
"สำหรับผม นี่คือตัวอย่างการใช้ข้อมูลอย่างชาญฉลาด Moneyball ไม่ได้หมายถึงซื้อตัวผู้เล่นราคาถูกอย่างเดียว แต่หมายถึงซื้อผู้เล่นที่คุ้มค่าเกินกว่าราคาที่จ่ายไปด้วย"
ดังนั้นสิ่งที่ลิเวอร์พูลจะทำ คือพิจารณาแล้ว พิจารณาอีก อย่างละเอียดจริงๆ ว่านักเตะคนนี้ จะเข้ากับระบบทีมหรือไม่ ไม่ว่าจะซื้อถูกหรือซื้อแพงก็ตาม
ถ้าซื้อถูก ก็ต้องเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ซ่อนไว้แต่คนอื่นไม่เห็น หรือถ้าจะซื้อแพง ก็ต้องมั่นใจว่านักเตะจะตอบแทนให้ทีมได้มากกว่าที่ลงทุนไป
ด้วยความที่รอบคอบแล้ว รอบคอบอีก ไม่แปลกใจที่ "ปริมาณ" นักเตะที่ซื้อเข้ามา จะน้อยกว่าทีมอื่นอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนั้น ทีมจะไม่ใช้เงินเกินตัวเด็ดขาด จะซื้อใครก็ต้องมีรายได้ทางอื่นก่อน ซึ่งเป็นวิธีที่ยั่งยืนกว่า จะไม่มีการเอาเงินมาเล่นแร่แปรธาตุ แล้วลุยซื้อนักเตะตามใจชอบ แบบที่หลายๆ สโมสรทำ
เฮนรี่น่ะมีเงินอยู่แล้ว แต่คนเรามีหลักการทำทีมกีฬาไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะชอบทุ่มเงินอย่างที่ท็อดด์ โบห์ลี่ ทำกับเชลซี แต่บางคนอาจจะต้องการใช้เงินอย่างระวังแบบที่เฮนรี่ ทำอยู่
การใช้เงินระวัง มันก็โอเค ถ้าทีมประสบความสำเร็จ แต่ถ้าวันไหนทีมล้มเหลวขึ้นมา เหมือนอย่างในฤดูกาลนี้ เฮนรี่ก็ต้องรับคำตำหนิไป
ดังนั้นถ้า FSG ยังคงเป็นเจ้าของต่อไป แนวทางของลิเวอร์พูลก็เดาได้ ว่าจะเหมือนเดิม คุณจะไปคาดหวังให้คนเราเปลี่ยนความเชื่อ เปลี่ยนแนวทาง มันเป็นไปไม่ได้หรอก
1- จะไม่ซื้อใคร ถ้าไม่มีการขายก่อน เพื่อบาลานซ์บัญชีให้เหมาะสม
2- จะไม่ทำสงครามราคากับใคร จะไม่ซื้อผู้เล่นถ้าโดนโก่งราคาเกินควร
3- นักเตะแต่ละคน จะมาจากการ Scout อย่างรอบคอบมากๆ ไม่มีการ Panic Buy
ถ้าแฟนบอลอยากให้ลิเวอร์พูลมีเงินเยอะๆ ซื้อนักเตะแบบไม่อั้น ก็ต้องหวังให้ FSG ขายทีมทิ้ง แล้วไปเอาเศรษฐี ที่มีเงินหนาๆ ที่มีแนวทางการทำทีมแบบอื่น มาเป็นเจ้าของทีมแทน แต่ตราบใดที่ FSG ยังอยู่ วิธีการบริหารก็จะเป็นแบบนี้แหละ
แล้วถามว่า FSG จะขายไหม คำให้สัมภาษณ์ของเฮนรี่กับบอสตัน โกล้บ เขาตอบว่า
Will we be in England forever? No
เราจะอยู่ในอังกฤษตลอดไปหรือไม่ - ไม่
Are we selling LFC? No
เราจะขายลิเวอร์พูลหรือไม่ - ไม่
Are talking with investors about LFC? Yes
เรากำลังคุยกับผู้ลงทุนในสโมสรลิเวอร์พูลหรือไม่ - ใช่
ในโลกออนไลน์ก็มีการแซวลิเวอร์พูลว่า สงสัยด้วยฟอร์มแบบนี้ เลยไม่มีคนอยากซื้อ เฮนรี่ก็เลยพลิกลิ้น บอกว่าแค่ "อยากหาผู้ร่วมทุนแทน" อันนั้นก็ว่ากันไป
แต่มุมมองที่น่าสนใจ มาจากหนังสือพิมพ์เดลี่ เมล์ ที่อธิบายว่า จริงๆ FSG ก็คิดจะขายนั่นแหละ แต่ในเบื้องต้นต้องการรู้ "มูลค่าที่แท้จริง" ของสโมสรก่อน
ตัวอย่างเช่น แมนฯ ซิตี้ ในปี 2019 ขายหุ้น 10% ให้บริษัทชื่อซิลเวอร์เลค ได้เงินมา 415 ล้านปอนด์ ที่ทำแบบนี้ แมนฯ ซิตี้ ก็จะได้รู้แล้วว่า มูลค่าที่แท้จริงของสโมสร ณ เวลานี้ คือ 4,150 ล้านปอนด์ ถ้าเกิดมีการซื้อขายเกิดขึ้นจริงๆ
สำหรับจอห์น เฮนรี่ บอกว่าเขาอาจจะขายหุ้นลิเวอร์พูลส่วนหนึ่งให้ผู้ลงทุน แปลว่าถ้าปล่อยขายสัก 10% เฮนรี่ก็จะรู้แล้วว่า มูลค่าของหงส์แดงที่แท้จริง ถ้าขายหุ้นทั้งหมด จะอยู่ที่เท่าไหร่
อยากให้โฟกัสที่คำพูดของจอห์น เฮนรี่ ที่บอกว่า "จะไม่อยู่ในอังกฤษไปตลอด" แปลว่า สักวันเขาก็จะไปอยู่ดี เพียงแต่ไปเมื่อไหร่ และราคาเท่าไหร่ แค่นั้นเอง
สเต็ปต่อไปคือ สมมุติการขายสโมสรลุล่วง ได้เงินก้อนจากลิเวอร์พูล จอห์น เฮนรี่จะเอาไปทำอะไร?
อดัม ซิลเวอร์ ผู้บริหารสูงสุดของ NBA กล่าวว่า อีก 2-3 ปี จะมีการพูดคุยเรื่อง "การขยายลีก" เพิ่มทีมใน NBA จาก 30 เป็น 32 ทีม และจะเปิดโอกาสให้ ใครก็ตามที่สนใจ มาเป็นเจ้าของทีมใหม่ใน NBA
แน่นอนว่า นี่เป็นโอกาสทอง ของคนที่ทำธุรกิจบริหารทีมกีฬาอย่าง FSG โดยปัจจุบัน FSG มีทีมเบสบอลแล้ว มีฮ็อกกี้น้ำแข็ง มีฟุตบอลแล้ว แต่ยังไม่มีทีมบาสเกตบอลอยู่ด้วย ดังนั้นจึงมีการวิเคราะห์กันว่า นี่อาจเป็นโอกาสดี ที่เขาจะขายลิเวอร์พูลทิ้ง แล้วเอาเงินก้อนนั้นมาประมูลซื้อทีม NBA มาครอง แต่จุดนี้ก็เป็นเรื่องของอนาคต
บทสรุปคือ ในช่วง 2-3 ปีนี้ ลิเวอร์พูลจะยังมี FSG เป็นเจ้าของต่อไปก่อน การทุ่มเงินซื้อนักเตะจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องมีการขายบางคนเพื่อทำให้บัญชีบาลานซ์ก่อน จะไม่ได้ซื้ออย่างสนุกสนานแบบที่แฟนบอลหลายคนหวังแน่ๆ
ต้องขึ้นอยู่กับเจอร์เก้น คล็อปป์แล้ว ว่าจะบริหารตัวผู้เล่นที่มีได้แค่ไหน และขึ้นอยู่กับความสามารถของทีมเจรจา ว่าจะดึงเอาสตาร์มาอยู่ด้วยได้หรือไม่ ในงบประมาณที่จำกัด
การประสบความสำเร็จด้วยกลยุทธ์ Moneyball ใช้ได้ผลไปแล้วกับลิเวอร์พูลตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา
แต่เราก็ไม่รู้จริงๆ ว่ามันจะยังได้ผลอยู่ไหม ในปี 2023 ที่คู่แข่งแต่ละทีม ไล่ล่าความสำเร็จกันอย่างบ้าคลั่งขนาดนี้
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
