21 ก.พ. 2023 เวลา 15:43 • หนังสือ

ชมรมไขคดีฆาตกรรมวันพฤหัสฯ

ดองมานานได้ฤกษ์อ่านสักทีสำหรับ The Thursday Murder Club #ชมรมไขคดีฆาตกรรมวันพฤหัสฯ จากสำนักพิมพ์ Beat นิยายสืบสวนที่ให้อารมณ์คล้าย Cozy Mystery แต่ก็มีคดีฆาตกรรมเลือดสาดของจริง เข้มข้นถูกใจคอสืบสวนแบบเราที่สุด!!
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในบ้านพักคนชราสุดหรูแห่งหนึ่งที่ชื่อ "คูเปอร์เชส" เมื่อหนุ่มสาววัยเกษียณที่ไม่มีอะไรให้ทำมากนักในชีวิตมาอาศัยอยู่ด้วยกัน พวกเขาก็ต้องมีการจัดกิจกรรมแก้เบื่อขึ้นมาหรืออาจจะถึงขั้นตั้งเป็นคลับเล็กๆสำหรับคนคอเดียวกัน อย่างเช่นที่ "อลิซาเบธ", "รอน", "จอยซ์", และ "อิบราฮิม" เป็นสมาชิกของชมรมไขคดีฆาตกรรมที่ยังปิดไม่ลง
แรกเริ่มพวกเขาก็แค่ค้นดูคดีเก่าๆแล้วมาสันนิษฐานกันเอาเองเพื่อความสนุก แต่วันดีคืนดี "โทนี เคอร์แรน" มือขวาของเจ้าของหมู่บ้านแห่งนี้ก็ดันถูกคนร้ายบุกเข้าบ้านไปทุบหัวจนถึงแก่ความตาย เมื่อมีคดีสดใหม่มาจ่ออยู่ตรงหน้าแบบนี้ มีหรือที่ก๊วนนักสืบวัยเก๋าจะอดใจไหว
อ่านตอนแรกบอกเลยว่ามึนมากกก ตัวละครเยอะไปหมด 5555 แต่พออ่านไปสักพักคือวางไม่ลงจริงๆ ลีลาการเล่าสนุกมาก มีแทรกมุกประปราย ส่วนสไตล์การสืบของชาวแก๊งนี้ก็เเรียกว่าไม่ธรรมดา แต่ละคนก็จะมีบุคลิกและความถนัดแตกต่างกันไปตามวิถีชีวิตเดิมสมัยยังฟิตเปรี๊ยะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นข้อดีให้พวกเขาสามารถแอบสืบเรื่องต่างๆได้ง่ายขึ้น
ส่วนเรื่องคดีนี่คือเข้มข้นมาก ปมเยอะมาก ยิ่งสืบยิ่งไปเจอกับเรื่องราวต่างๆที่เชื่อมโยงพัวพันกันยุ่งเหยิงไปหมด หักมุมแล้วหักมุมอีกจนถึงกับร้องเอ้าไปหลายรอบ หลอกเก่งมากชนิดที่ทำให้เรารู้สึกอยากพลิกหน้าต่อไปเรื่อยๆ ลุ้นไปกับตัวละครว่าเรื่องนี้มันจะไปจบที่ตรงไหนกันแน่
แล้วจะบอกว่าทั้งสี่คนนี้คือนอกจากเก่งแล้วยังแสบอีกด้วย 🤣 โดยเฉพาะอลิซาเบธคือที่สุดแล้ว ป่วนกันจนตำรวจที่ดูแลคดีถึงกับปวดหัว ถึงบางเรื่องจะมีล้ำเส้นไปบ้าง เสี่ยงอันตรายไปนิด แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะโกรธคนแก่แบบนี้นานๆ เพราะนอกจากการหาทำเพื่อความสนุกแล้วลึกๆมันก็คือความอยากพิสูจน์ตัวเองให้สังคมได้เห็นว่าพวกเขายังคงมีประโยชน์อยู่
เอาจริงๆนี่เป็นหนังสือที่พลิกโฉมความคิดของเราที่มีต่อบ้านพักคนชราไปเลยนะ คือก็พอเข้าใจว่าการที่คนวัยใกล้กันมาอยู่ด้วยกันเขาก็คงไม่เหงามาก มีเพื่อนให้คุย แต่ในเรื่องนี้คือเกินคำว่าไม่เหงาไปมาก แต่ละคนคือสนุกสุดเหวี่ยงไปไหม ตัวจี๊ดกันทุกคน 55555 คืออ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นสังคมที่แทบไม่ต่างกับชุมชนในโลกข้างนอกเลย
เพียงแต่สิ่งที่เจ๋งของชุมชนแห่งนี้คือมันเป็นสถานที่ที่ทำให้คนกลุ่มหนึ่งที่เส้นทางชีวิตในวัยหนุ่มสาวไม่เคยซ้อนทับกันเลยสักครั้ง ได้วนมาพบกัน รู้จักกัน กลายมาเป็นเพื่อนบ้านกัน หรืออาจจะเป็นเพื่อนสนิทคนใหม่ของกันและกันจนกว่าความตายจะพรากใครคนใดคนหนึ่งไป ดังนั้นการเดินเข้าสู่บ้านพักคนชราจึงไม่ใช่จุดจบ เพราะแท้จริงแล้วที่นั้นคือโลกใบใหม่อีกใบ เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางชีวิตใหม่ในวัยที่สังขารเริ่มอ่อนแอ
หลายๆคนมักจะมองว่าบ้านพักคนชราคือสถานที่ที่น่าหดหู่ มีแต่คนที่ไร้เรี่ยวแรง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ใช้ชีวิตรอความตายไปวันๆ ซึ่งมันก็ถูกส่วนหนึ่งแหละ คนสูงอายุหลายคนต้องผ่านประสบการณ์ที่สูญเสียคนที่พวกเขารักไป บางคนก็เดินหน้าต่อได้ แต่บางคนก็จมอยู่กับมันไปทั้งชีวิตที่เหลือ นอกจากนี้คนจำนวนไม่น้อยก็อาจจะเคยทำเรื่องผิดพลาดในอดีตมาก่อน แล้วใช้เวลาบั้นปลายชีวิตที่เหลือนี้ในการสำนึกเสียใจกับมัน
สำหรับอีกแง่มุมหนึ่ง มีคนสูงวัยอีกมากที่ยังแข็งแรง กระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว ความจำยังคงดีอยู่ สติก็มีครบถ้วน คนพวกนี้ก็ไม่ต่างกับพวกเราเลยสักนิด แต่ถูกกฎเกณฑ์ของสังคมกีดกันให้ต้องลดบทบาทของตัวเองลง ทำให้บางครั้งพวกเขาเลยทำอะไรแผลงๆไปบ้าง เป็นเหมือนการส่งสัญญาณให้ทุกคนรู้ว่าฉันยังมีดี เพราะสิ่งเหล่านี้คือความภูมิใจเล็กๆที่พวกเขาอยากเกาะเกี่ยวไว้ให้นานที่สุด
ถามว่าพวกเขาไม่รู้ตัวเลยหรอว่าชีวิตตัวเองร่วงโรยลงไปแล้ว มีข้อจำกัดมากมายที่ต้องระวัง แน่นอน พวกเขารู้ดีเลยล่ะ ในเรื่องเราจะเห็นว่าตัวละครหลายตัวแทบไม่ได้กลัวความตายเลย พวกเขาคิดถึงมันแทบจะตลอดเวลาด้วยซ้ำว่าตัวเองจะได้มีวันถัดไปไหม เพียงแค่ไม่ได้คิดถึงในแง่มุมของความหวาดกลัวต่อความตาย แต่คิดถึงในแง่มุมที่ตระหนักได้ว่าความตายกำลังค่อยๆเดินทางมาหาพวกเขาแล้ว
และตราบใดที่มันยังมาไม่ถึง พวกเขาก็จะมีโบนัสคือการได้ใช้ชีวิตแสนสุขของตัวเองไปอีกวัน 👵🏻🧓🏼
โฆษณา