24 ก.พ. 2023 เวลา 16:44 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand)

🕖เรียนรู้ ตกผลึก ในเส้นทางนักลงทุน : สรุปหนังสือ ‘ที่สุดของ VI’ โดย ชาย มโนภาส

🟩การลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI : Value investment) คือการเดินทางอันยาวนาน ระหว่างทางอาจพบเจอกับอุปสรรคมากมาย รุ่นพี่นักลงทุนผู้หนึ่งเคยกล่าวว่า “สำหรับคนที่บริหารจิตใจตนเองไม่เป็นนั้น การได้มารู้จักตลาดหุ้น อาจเป็นเรื่องโชคร้ายที่สุดในชีวิตของเขา”🟩 : "ไม้ฟืน : พะเนียง พงษธา"
🕖เรียนรู้ แยกแยะ ตกผลึก ในเส้นทางนักลงทุน : สรุปหนังสือ ‘ที่สุดของ VI’ โดย ชาย มโนภาส
1
📖บทสรุปหนังสือ ‘ที่สุดของ VI’ จากคุณ “ชาย มโนภาส” ถูกแบ่งออกเป็น 3 PART ล้อเรียงไปกับสารบัญของหนังสือปกสีขาวสะอาดตา ซึ่งสอดแทรกประปรายด้วยภาพประกอบเย้ายวนสายตา เชื้อชวนให้คุณผู้อ่านร่วมเดินทางผ่านประสบการณ์ต่างๆมากมาย ชั่วครั้งบางขณะจิต อาจถึงขั้นทำให้เราหลงลืมไปเสียว่านี่คือ ‘หนังสือการลงทุน’ เลยทีเดียว
ผมอาจถือวิสาสะคิดเองเออเองว่า ทั้งรูปเล่ม คำโปรย ภาพถ่าย แม้กระทั่งเนื้อกระดาษ และทุกตัวอักษรที่ร้อยเรียงพาดผ่านอยู่ในหนังสือเล่มนี้ มันได้บรรจุ ‘จริต’ หรือ ‘อัตลักษณ์’ ความเป็นตัวตนของคุณชายอยู่ภายในได้อย่างแยบคาย แยบยล และแนบเนียน
🔗3 PART นับจากนี้ ประกอบด้วย PART 1: เรียนรู้, PART 2: แยกแยะ และ PART 3: ตกผลึก🔗
🟥PART 1: เรียนรู้🟥
“ชาย มโนภาส”
📶การเดินทาง
การลงทุนเปรียบเสมือนการเดินทาง นักเดินทางสามารถเลือกสรรวิธีการเดินทางได้หลากหลายแบบตามจริตของแต่ละปัจเจกบุคคล เฉกเช่นเดียวกัน หนทางก้าวเดินไปสู่ความมั่งคั่งล้วนหลากหลาย เราจะเลือกแบบใดก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งความชอบส่วนตัว ความสามารถ และองค์ความรู้ บางแนวทางนั้นมีผู้ที่ประสบความสำเร็จมากมาย หากแต่เพียงไม่เหมาะกับตัวเรา
เมื่อตัดสินใจอย่างแน่วแน่ในแนวทางและหลักการ หมั่นศึกษาหาความรู้ ฝึกฝนจนชำนาญ เกิดการตกตะกอนของความรู้ ผมเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นแนวทางใดก็ตามนั้นสามารถนำทางไปสู่ความสำเร็จด้านการลงทุนในที่สุด
1
📶อดทน
นักลงทุนที่มีแนวโน้มประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นนั้นต้องอาศัยทั้งความรู้ ความเข้าใจ และความอดทน บางคนเวลาลงทุนชอบใช้ ‘ข้อมูลสำเร็จรูป’ ประเภทที่ว่าบอกชื่อหุ้น บอกแนวรับ แนวต้าน มาเสร็จสรรพ อาจไม่เคยรู้เลยว่าหุ้นที่เข้าซื้อไปนั้นประกอบธุรกิจอะไร ทำมาหากินอย่างไร มองกระบวนการลงทุนเป็นเพียงสัญลักษณ์และตัวเลขวิ่งขึ้นๆลงๆ นักลงทุนประเภทนี้คงยากที่จะพบเจอกับความสำเร็จ อยู่ในตลาดหุ้นมองเห็นแต่เพียงความโลภ จงอย่าลืมว่า “ความอดทนเปรียบเสมือนตัวคูณ”
📶ความแตกต่าง
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว ล้วนสามารถสร้างความมั่งคั่งได้เสมอ ปัจจัยสำคัญอยู่ที่การคัดเลือกหุ้นเพื่อลงทุน คุณจำเป็นต้องใช้ความรู้ในการวิเคราะห์บริษัท มีความเข้าใจในกิจการและอุตสาหกรรมพอสมควร ไม่ใช่การนึกคิดวาดฝันไปเอง แน่นอนว่าหากเราใส่ความทุ่มเทพยายามไปเท่าไหร่ ขนาดของกำไรที่พอจะคาดหวังได้ก็คงไม่แตกต่างกัน
ถึงนักลงทุนพอร์ตเล็ก
ณ ตลาดหุ้นไทย ผมเชื่อว่ายังมีบริษัทที่ซื้อขายกันในราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานอยู่ สำหรับนักลงทุนที่พอร์ตยังเล็ก เงินยังน้อย ก็อย่าเพิ่งถอดใจไปเสียว่าโอกาสทางการลงทุนดีๆคงหมดไปแล้ว เล่นหุ้นเอาสนุกก็พอ คุณควรใส่ใจในรายละเอียดเพื่อค้นหาโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น
ผมเชื่อเสมอว่าในโลกแห่งการลงทุน ถ้าเราเริ่มต้นด้วยความยาก เมื่อเวลาผ่านไปจนเกิดเป็นความชำนาญแล้ว กระบวนการลงทุนก็จะมุ่งหน้าไปสู่ความเรียบง่าย ลดความซับซ้อนลงไปมาก หากเราเริ่มต้นชีวิตนักลงทุนด้วยการมองหาความง่าย ใช้อารมณ์เป็นใหญ่ ไม่มีวินัย ไม่แสวงหาความรู้ ความสำเร็จคงเกิดขึ้นได้ยาก
ผู้ที่อยู่ในจุดเริ่มต้นของชีวิตนักลงทุนควรถามตนเองให้ดีก่อนว่า “เราจะเอาอะไรไปสู้กับคนอื่นเขา” เมื่อในตลาดหุ้นนั้นเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าสำหรับนักลงทุนรายย่อย คงมีเพียงความรู้ที่เข้มข้น การรู้จักอดทนและรอคอย ที่จะช่วยให้ฝันเรื่องอิสรภาพทางการเงินกลายเป็นความจริง
📶เหนือกว่าวอลล์สตรีท
ในกระบวนการลงทุนนั้นความรู้เรื่องบัญชีและธุรกิจเป็นสิ่งที่ร่ำเรียนกันได้ไม่ยากเย็นนัก แต่ในที่สุดนักลงทุนซึ่งประสบความสำเร็จจะเฉือนคมกันที่รายละเอียด และความใส่ใจต่อหุ้นที่พวกเขาถือครองอยู่ ดังที่ ‘จิม โรเจอร์ส (Jim Rogers)’ เคยกล่าวไว้ว่า “หากคุณอ่านรายงานประจำปีของบริษัท คุณก็จะเหนือกว่าคนอีก 98% ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท” ความเชื่อประมาณที่ว่านักลงทุนระยะยาวมักซื้อหุ้นที่มี P/E ต่ำ และจ่ายเงินปันผลสูงนั้นมีมาช้านาน การที่นักลงทุนคัดเลือกหุ้นแบบปักธงในใจมาแล้วนั้นอาจทำให้พลาดโอกาสในการลงทุนที่ดีได้
📶ความได้เปรียบ
หากคุณเป็นนักลงทุนที่มีความชำนาญพิเศษในอุตสาหกรรมใดๆอันสืบเนื่องมาจากการศึกษา หน้าที่การงาน หรือชีวิตประจำวัน ก็ไม่ควรปล่อยองค์ความรู้ที่มีให้สูญเปล่า ผมเคยเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง และมีโอกาสได้พบกับนักลงทุนที่มีอาชีพหลักเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เขาสนใจเข้าลงทุนในบริษัทนี้เพราะเข้าใจสภาวะตลาดวัสดุก่อสร้างเป็นอย่างดี
เรียกได้ว่า ‘มีความได้เปรียบในการแข่งขันทางการลงทุน’ แต่หากเราเป็นนักลงทุนธรรมดาทั่วไป ขอให้นึกถึงคำแนะนำของ ‘แจ๊ก เวลช์ (Jack Welch)’ อดีตประธานบริษัท General Electric ที่เคยกล่าวไว้ว่า “หากไม่มีความสามารถในการแข่งขัน จงอย่าแข่งขัน” กลับมาลงทุนในกิจการที่คุ้นเคยกันดีกว่าครับ
2
📶เล่นหุ้นตามเซียน
มุมมองหรือทัศนคติต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งของเซียนหรือผู้เชี่ยวชาญอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามกาลเวลา ไม่มีอะไรแน่นอน การฟังความคิดเห็นจากผู้รู้นั้นเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ แต่การฟังแล้วปักใจเชื่อว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน อาจทำให้เรามีมุมมองด้านต่างๆคับแคบจนเกินไป เราควรให้น้ำหนักกับสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง (Fact) มากกว่าข้อคิดเห็น (Opinion)
การเงินสำหรับคนธรรมดา
การเริ่มเก็บออมเงินตั้งแต่อายุยังน้อย หากได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และมีอายุยืนยาวนั้นเป็นตัวช่วยชั้นดีต่อการสร้างความมั่งคั่งอย่างไม่ยากเย็นจนเกินไปนัก จุดตัดสำคัญในการลงทุนสำหรับคนทั่วไปคือคุณต้องแยกแยะให้ออกว่าธุรกิจใดเหมาะสมแก่การลงทุนระยะยาว บริษัทซึ่งมีความสามารถในการแข่งขันนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร เมื่อคัดเลือกมาเป็นอย่างดีแล้วก็ใส่เงินออมลงไปพอสมควร
จากนั้นเหลือเพียงแค่รอเวลาให้เครื่องจักรแห่งความมั่งคั่งทำงานต่อไปเรื่อยๆ คนธรรมดาสามารถบรรลุเป้าหมายทางการออมได้ หากพวกเขามุ่งมั่น เอาจริง มีวินัย และไม่ใช้จ่ายเงินจนเกินตัว
📶ไม่มีอะไรที่แน่นอน
นักลงทุนทั่วไปสามารถจำกัดความเสี่ยงในการลงทุนได้ด้วยตนเอง เช่นกระจายการถือครองหุ้นไปในหลายบริษัท หลากหลายอุตสาหกรรม และถือครองเงินสดไว้ในระดับที่เพียงพอต่อภาระค่าใช้จ่ายในอนาคต จะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการเงินส่วนบุคคล หากมีการกู้ยืมเงินมาลงทุนก็ควรอยู่ในระดับที่ไม่มากเกินไป สามารถบริหารจัดการได้
‘วอเร็น บัฟเฟตต์ (Warren Buffett)’ ถือครองเงินสดประมาณ 10 – 20% จากสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ‘Berkshire Hathaway’ อยู่ตลอดเวลา เพราะเขาเชื่อว่าหากมีข้อเสนอทางการลงทุนดีๆผ่านเข้ามาจะได้ไขว่คว้าไว้อย่างทันท่วงที
‘โฮเวิร์ด มาร์ค (Howard Marks)’ เคยกล่าวไว้ว่า “เราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างในอนาคต แต่เราสามารถเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ได้” นี่เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างมากสำหรับการดำรงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ที่ไม่มีอะไรแน่นอน
📶กระจายความเสี่ยง
การกระจายความเสี่ยงนั้นหากนักลงทุนนำมาใช้อย่างถูกต้องก็สามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มพูนความมั่งคั่งได้ แต่ในทางกลับกันก็อาจสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลได้เช่นกันหากกระทำด้วยความไม่รู้ เช่นการกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ที่เราขาดความเชี่ยวชาญหรือความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ความรู้ในสินทรัพย์นั้นๆแทบไม่มี แบบนี้เรียกว่าการ ‘เดินเข้าหาความเสี่ยง’ คงได้รับบาดแผลกลับมาอย่างแน่นอน
📶เมฆหมอกแห่งการลงทุน
ปัญหาหลักของนักลงทุนในปัจจุบันนี้ไม่ใช่การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร หากแต่เป็นการวิเคราะห์ข่าวสารเพื่อกลั่นกรองและพัฒนาไปสู่กลยุทธ์การลงทุน หากเราหมั่นศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ มองทุกสิ่งให้รอบด้านและเป็นกลาง ก็จะสามารถมองผ่านเมฆหมอกและค้นพบโอกาสดีๆทางการลงทุนได้ในท้ายที่สุด
1
📶คิดอย่างเป็นอิสระ
นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่นั้นมีความเชี่ยวชาญด้านบัญชีและงบการเงินอย่างทะลุปุโปร่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินทุกคนจะประสบความสำเร็จในการลงทุน ยังมีปัจจัยสำคัญอีกมากมายซึ่งนอกเหนือไปจากความรู้ด้านการเงิน ไม่แน่ว่าพื้นฐานทางด้านจิตวิทยานั้นอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยแห่งความสำเร็จ
‘วอเร็น บัฟเฟตต์’ กล่าวไว้ว่า “คุณไม่มีวันเข้าถึงความสำเร็จในการลงทุนได้ หากคุณยังไม่สามารถคิดได้อย่างเป็นอิสระ” ระบบความคิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
นักลงทุนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ที่เริ่มสนใจในตลาดหุ้น มักเริ่มต้นด้วยการศึกษาด้านการเงินก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อศึกษาด้านการเงินมาพอสมควรแล้วก็ควรศึกษาหาความรู้แขนงอื่นๆเพิ่มเติมด้วย เพื่อเปิดมุมมองให้กว้างและแหลมคมยิ่งขึ้น นอกเหนือไปจากนั้นหากคุณเชื่อว่า “ความคิดที่ดีเกิดขึ้นจากใจที่ดี” ก็น่าจะศึกษาเรื่องการฝึกจิตใจดูบ้าง ผมเชื่อว่าจะเกิดประโยชน์ต่อชีวิตในฐานะนักลงทุนและมนุษย์คนหนึ่งบ้างไม่มากก็น้อยในอนาคต
🟥PART 2: แยกแยะ🟥
📶ความซาบซึ้งเชิงธุรกิจ
การที่นักลงทุนมัวเฝ้ามองเพียงแต่ตัวเลขผลต่างของราคาซื้อขายหุ้น อาจส่งผลให้พวกเขาหลงลืมมูลค่าที่ยิ่งใหญ่ นักลงทุนในหุ้นจำเป็นต้องมี “ความซาบซึ้งเชิงธุรกิจ” ความสวยงามของกิจการ สิ่งที่สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก ไม่สามารถเลียนแบบได้ง่ายๆ นี่แหล่ะคือความสวยงาม สิ่งที่สำคัญอีกข้อหนึ่งก็คือ การที่จะเข้าซื้อหุ้นของบริษัทเหล่านี้ให้ได้รับผลตอบแทนทางการลงทุนที่ดี เราไม่ควรซื้อในช่วงเวลาที่ตลาดให้ความนิยมไปมากแล้ว
นักลงทุนที่ดีต้องมีจินตนาการเพื่อมองเห็นในสิ่งที่ตลาดยังมองไม่เห็น ลงทุนในบริษัทซึ่งสวยงามเหล่านี้ขณะยังเป็นดักแด้ ซึ่งกำลังจะกลายเป็นผีเสื้อในอีกไม่ช้าไม่นาน
📶หุ้นสามัญ กับกำไรที่ไม่สามัญ
หุ้นของบริษัทซึ่งมักให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในระดับสูง เมื่อศึกษาเจาะลึกลงไปในรายละเอียดแล้วจะพบว่ามีเรื่องราวคล้ายกันอยู่ 3 ประเด็นคือ บริษัทนั้นๆเป็นผู้นำในตลาดที่ตนเองทำธุรกิจอยู่ มีนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และบริษัทมักทำธุรกิจอยู่ในแนวโน้มกระแสหลัก (Mega trend) ทั้งหมดทั้งมวลนั้นนักลงทุนควรพิจารณาโอกาสทางการตลาด กลยุทธ์ทางธุรกิจว่าสามารถทำได้จริงและสมเหตุสมผลหรือไม่
การเฝ้าพิจารณาแค่เพียงอัตราส่วนทางการเงินอาจทำให้คุณพลาดโอกาสทองทางการลงทุนไปอย่างน่าเสียดาย
หุ้นดี ซื้อช้าไปสิบปีก็ยังไม่สาย
หลายครั้งนักลงทุนมักเสียดายที่ไม่ได้เข้าลงทุนในหุ้นของบางบริษัท ที่เมื่อเวลาผ่านไปราคามันเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ขอบอกเลยว่าอาการแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาในตลาดหุ้น
การถือกำเนิดขึ้นของกิจการที่สามารถสร้างความมั่งคั่งให้ผู้ถือหุ้นในระดับเปลี่ยนชีวิตนั้นมีอยู่ตลอดเวลา และเป็นเรื่องธรรมดาที่ในช่วงเริ่มต้นของบริษัทเหล่านั้นจะสร้างคำถามมากมายอยู่ในหัวของเรา เกี่ยวกับอนาคตของบริษัท ยากเหลือเกินที่จะบ่งชี้ได้ว่าบริษัทใดจะฉายแววโดดเด่นก้าวไปเป็น ‘Super Stocks’ อย่างยั่งยืน การเข้าซื้อหุ้นที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงและยั่งยืนนั้น แม้จะซื้อช้าไปสัก 10 ปี ก็ยังไม่สาย ตราบใดที่เรายังมองเห็นโอกาสการเติบโตในอนาคต
📶หุ้นดีต้องมีแบรนด์?
หุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนแก่นักลงทุนอย่างมหาศาลมักมี “แบรนด์” ที่แข็งแกร่ง ในทางตรงข้าม ก็ไม่ใช่หุ้นที่มีแบรนด์แข็งแกร่งทุกบริษัท จะให้ผลตอบแทนที่ดีไปเสียหมด การสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนมีองค์ประกอบมากมาย ไม่ใช่แค่แบรนด์ แต่ประกอบไปด้วย ความสามารถของผู้บริหาร การบริหารต้นทุน การพัฒนาสินค้า กลยุทธ์การขาย และการยึดถือผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นที่ตั้ง นักลงทุนควรหมั่นตรวจสอบ ติดตามผลการดำเนินงาน ความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมอยู่เสมอ อย่าคิดว่าหุ้นที่ซื้อไว้จะยอดเยี่ยมอยู่เช่นนั้นไปตลอดกาล
📶ความแตกต่างของนักลงทุน
“การลงทุนแบบเน้นคุณค่า” คือการเน้นมองหุ้นเสมือนการทำธุรกิจ จำเป็นต้องมีมุมมองหลากหลายด้านเพื่อให้เห็นภาพรวมของธุรกิจอย่างชัดเจน การศึกษาบริษัทผ่านงบการเงินเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการประเมินมูลค่า นักลงทุนควรศึกษาภาพรวมทั้งอุตสาหกรรม ความสามารถในการแข่งขัน
เพราะ “หุ้น” คือส่วนหนึ่งของบริษัทที่มีคนกำลังทำงานอยู่จริง มีการทำมาหากิน มีกำไรจริง มีขาดทุนจริง จึงมีหลายแง่มุมให้เราต้องศึกษาอยู่เสมอ ไม่ใช่เสียเวลาไปนั่งเฝ้าดูราคาหุ้นวิ่งไปวิ่งมา ใครๆก็สามารถทำได้ แต่การ “ประเมินมูลค่า” เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ต้องใช้เวลาฝึกฝน ซึ่งหากคุณทำได้ นี่แหล่ะคือการสร้างความแตกต่างให้กับนักลงทุนอย่างแท้จริง
📶หุ้นไกลตัว
โอกาสดีๆทางการลงทุนนั้นแอบแฝงอยู่ในหลากหลายธุรกิจ หลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกิจการที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวันเพียงเท่านั้น หากเราสามารถขยายขอบเขตความรู้และความเข้าใจไปสู่อุตสาหกรรมที่หลากหลาย ความสามารถการทำกำไรในตลาดหุ้นของเราคงใกล้เคียงกับวลีฝรั่งประมาณที่ว่า ‘Sky is the limit’
📶เหมือน แต่ไม่เหมือน
ณ ปัจจุบัน เราสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้อย่างสะดวกสบาย แต่การจะออกนอกพื้นที่ปลอดภัยไปแสวงหาผลตอบแทนการลงทุนดีๆ นักลงทุนควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประเทศนั้นๆ เช่น การเมือง การปกครอง วัฒนธรรม พฤติกรรมของพลเมือง ภาพรวมต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ความรู้ที่เราสั่งสมไว้เมื่อครั้งลงทุนในตลาดหุ้นไทยก็อาจสามารถนำไปใช้ในต่างประเทศได้ แต่จำเป็นต้องมีการเพิ่มเติมและปรับแต่งอยู่เสมอ การคิดไปเองว่าเรารู้แล้ว เก่งแล้ว อาจสร้างความเสียหายมหาศาล
📶เจ้าของ หรือมืออาชีพ
ลักษณะสำคัญของผู้บริหาร ที่สามารถสร้างอาณาจักรธุรกิจให้ยิ่งใหญ่นั้น มักเป็นผู้ที่มองเห็นประโยชน์และความสำคัญขององค์กรมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ไม่หยิ่งทะนงในความสำเร็จ อ่อนน้อมถ่อมตน คงไม่สำคัญว่าเป็นใครมาจากไหน
📶ผู้บริหารคือมนุษย์
สำหรับนักลงทุนรายย่อย วิธีการซึ่งง่ายที่สุดในการค้นหาสุดยอดผู้บริหารที่เราสามารถไว้วางใจให้ดูแลเงินลงทุนได้ประกอบไปด้วย 3 วิธีการคือ (หนึ่ง) เมื่อผู้บริหารบอกเป้าหมายว่าจะทำสิ่งใดไว้แล้วเขาทำมันได้สำเร็จหรือไม่ (สอง) ผู้บริหารมีความเข้าใจในโครงสร้างธุรกิจมากน้อยเพียงใด (สาม) ผู้บริหารมีวิถีในการดำเนินชีวิตอย่างไร ทั้งในและนอกเวลาทำงาน
📶นักลงทุนเฉือนกันที่รายละเอียด
จิม โรเจอร์ส (Jim Rogers) เคยกล่าวเอาไว้ว่า “หากคุณอ่านรายงานประจำปี คุณจะชนะผู้คนอีก 98% ในตลาดหุ้น และหากอ่านหมายเหตุประกอบงบการเงินด้วย คุณจะชนะคนทั้งหมดในตลาด” หากถามว่านักลงทุนแบบเน้นคุณค่าควรมีความรู้ความเข้าใจในบริษัทที่จะเข้าซื้อมากน้อยเพียงใด ผมคิดว่าถ้าบริษัทนั้นเป็นหุ้นที่เราให้น้ำหนักมากในพอร์ตการลงทุนรวม ความเข้าใจของเราก็ควรจะใกล้เคียงกับความรู้ของพนักงานระดับบริหารเลยทีเดียว มันประกอบไปด้วยทิศทางการเติบโตและความเสี่ยงที่กิจการอาจต้องพบเจอในอนาคต
คุณอาจสงสัยว่ามีนักลงทุนแบบนั้นอยู่จริงหรือ? ผมขอยืนยันว่ามีจริง และมากมายหลายคน บางคนผมเชื่อว่า ในวันประชุมนักวิเคราะห์ และหากผู้บริหารเกิดมาร่วมงานไม่ได้ พวกเขาแทบจะสามารถขึ้นกล่าวนำเสนอบริษัทแทนได้เลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าผลตอบแทนการลงทุนของผู้คนเหล่านี้ชนะตลาดแบบถล่มทลาย
🟥PART 3: ตกผลึก🟥
📶มากกว่าความศรัทธา
ความกล้าที่จะถือหุ้นผ่านกาลเวลาอันยาวนาน นอกจาก “ความศรัทธา” ที่เรามีต่อบริษัทนั้นๆแล้ว เราต้องมี “ปัญญา” ด้วย ปัญญาซึ่งทำหน้าที่คอยตรวจสอบความศรัทธาอย่างสม่ำเสมอ อาทิเช่น หมั่นสังเกตการณ์ความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ ทดสอบสมมติฐานอยู่ตลอดเวลาว่าถูกผิดจริงหรือไม่ อย่างไร เปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นบ้าง ติดตามข่าวสารที่จำเป็น ศึกษาการบริหารความเสี่ยง
และสุดท้ายหากเราศึกษาวิเคราะห์มาเป็นอย่างดีแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปถามผู้เชี่ยวชาญที่ไหนอีกว่าหุ้นตัวนี้ดีหรือเปล่า? จงยึดมั่นในความรู้ที่เข้มข้นและความศรัทธาอันแรงกล้าของตนเอง
📶นักลงทุน : ชาวประมง
ความสำเร็จของชาวประมงนั้นขึ้นอยู่กับหลายเหตุปัจจัยที่สอดคล้องกัน ต่อให้เก่งเพียงใด หากฟ้าลมไม่เป็นใจก็ใช่ว่าจะสามารถจับปลาได้เสมอ ชาวประมงที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน พวกเขาเหล่านั้นจะรู้จักเคารพทะเล คลื่นลม เรือ แห และฝูงปลา ทำมาหากินต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความเคารพต่อสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องผูกพันกัน
📶วีไอต้องรู้จักแพ้
ยอมแพ้เมื่อไม่เข้าใจในสิ่งที่กำลังลงทุน ยอมแพ้เมื่อบางสิ่งบางอย่างไม่เป็นไปดั่งที่ใจคาดหวัง หากแพ้ในระยะสั้น เพื่อชนะในระยะยาว ก็คงไม่ได้ดูเลวร้ายอะไรขนาดนั้น
📶ความสุขอยู่หนใด?
รวยแล้วมีความสุขจริงหรือไม่? คุณจำเป็นต้องมีใจรักในการลงทุน เข้าใจองค์ประกอบของความสุข สิ่งสำคัญที่จะนำพาเราไปสู่ความสุขในการลงทุนคือ “การปล่อยวาง” เราอยู่ท่ามกลางสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์และควบคุมได้มากมาย
“โอ้ความสุขของวีไออยู่ไหนหนอ, หรือต้องรอจนพอร์ตใหญ่จึงสุขสันต์, พอร์ตเล็กๆ สุขไม่ได้หรือไรกัน, สุขจริงนั้น สุขได้ในปัจจุบัน ไม่ต้องรอ” ความสุขนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้อยู่ที่การบรรลุเป้าหมาย หากแต่อยู่ในทุกย่างก้าวที่เดินไปสู่เป้าหมายต่างหาก
ประหยัดอดออม แสวงหาความรู้ ประสบความสำเร็จด้วยความเชี่ยวชาญ และทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมบ้าง “หนังสือที่ซื้อไว้แต่ไม่ได้อ่าน มีดแหลมคมแต่เอามาแขวนประดับ เงินทองที่มีแต่ไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ” สามอย่างนี้มีไว้ก็เหมือนไม่มี ซ้ำยังเป็นภาระต้องคอยดูแลรักษาอีกต่างหาก
📌ป.ล. หนังสือเล่มดังกล่าวนี้จัดจำหน่ายผ่านช่องทาง ‘สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) : THAI VI’ รายได้จากการจำหน่ายทั้งหมด (หลังหักค่าใช้จ่ายการจัดพิมพ์และการจัดส่ง) ทางสมาคมจะนำไปบริจาคให้แก่โรงพยาบาล และองค์กรสาธารณะประโยชน์ต่างๆ ต่อไป
🎊ขอขอบคุณ THAI VI และคุณชาย มโนภาส ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
โฆษณา