“จากยูเครน ถึงบ้านเรา”
บทสรุปส่งท้าย
(1)
การที่ผู้เขียนบทความของถังฝรั่ง เลือกเอาประเทศไทยเรา
เข้าไปเป็น 1 ใน 14 ประเทศ …ของการเลือกตั้ง ปี คศ 2023
ที่ต้องจับตามอง ทั้งๆ ที่การเลือกตั้งในโลกของปีนี้
ไม่ได้มี เพียง 14 ประเทศ เท่านั้น
แปลว่า มันต้อง “มีสาเหตุ” ที่ทำผู้เขียนบทความ
อยากเขียนถึงบ้านเรา
“สาเหตุ” นั้น คืออะไร
จากวิธีการเขียนบทความเรื่องการเลือกตั้ง ของบ้านเรา
ถังฝรั่ง “ไม่ได้เขียน” เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
โดย “เจาะจง” ไปที่ ตัวบุคคล หรือ พรรคของผู้สมัครเลือกตั้ง
อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับการเขียนของประเทศ อื่นๆ
แต่ ถังฝรั่งใช้วิธีการบรรยาย ถึง ประเด็นที่จะไปเกี่ยวกับ
การเลือกตั้งในบ้านเราแทน ซึ่ง มี 3 ประเด็น
และ ทั้ง 3 ประเด็น มีความเกี่ยวโยงกัน คือ
ประเด็น เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์
ประเด็น เกี่ยวกับกองทัพ
ประเด็น เกี่ยวกับการนิยมประชาธิปไตย
ตัวอย่างเช่น :
: ผู้มืสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง แบ่งคร่าวๆ เป็น 2 ฝ่าย
ฝ่ายหนึ่ง คือ พวกอายุมากหน่อย… และเอาสถาบัน (older royalist)
อีกฝ่ายหนึ่ง คือ พวกอายุน้อยหน่อย… และ ไม่เอาสถาบัน
(…the Thai electorate can roughly be divided into
older royalist and younger non-royalist factions…)
: การรัฐประหารโดยกองทัพ… ที่มักได้รับการสนับสนุน
โดยสถาบันกษัตริย์เสมอ …เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำซากในการเมืองไทย
(… military coups —often backed by the crown— are
a recurrent feature of politics in Bangkok…)
: นักเคลื่อนไหว เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย/ประท้วงรัฐบาล
ถูกจับดำเนินคดีเสมอ …ถ้าไม่ใช่ข้อหาข้อหมิ่นสถาบันฯ
ก็สร้างข้อหาอื่นขึ้นมา…
(… the government has still arrested and prosecuted hundreds
within the prodemocracy cohort —if not for lese-majeste’,
then on the trumped-up charges…)
: การจัดการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ตั้งแต่การเริ่มต้น
จนถึงออกประกาศ ฯลฯ ……มาจากความต้องการ
ไม่ให้ผลการเลือกตั้ง สร้างความปั่นป่วนกับสถาบันที่ปกครอง
มากเกินไป…
(… all stages of the electoral process, from its inception
to the announcement … were influenced to secure an electoral
outcome that would not be too disruptive to the ruling
establishment…”
: มีความเป็นไปได้สูง… ว่าการเลือกตั้งในบ้านเรา ก็จะเป็นแนวทาง
ทหาร กับ สถาบัน …ร่วมมือกันอีกครั้งหนึ่ง
(…the most likely election scenario will involve
the military-monarchy complex once again…)
จากการเอาประเด็นต่างๆ มาโยงกันข้างต้น
ทำให้สรุปได้ว่า การเลือกตั้งในบ้านเรา
(ที่จะมีไนเดือน พฤษภาคม)
เป็นการแข่งขันกัน ระหว่างผู้สมัคร 2 ฝ่าย
คือ :
ฝ่ายหนึ่ง คือ พวกเอาสถาบัน (คือ ทหาร)
เพราะมีกองเชียร์ เป็นพวกคนรุ่นแก่ที่เอาสถาบัน
(older royalist)
อีกฝ่ายหนึ่ง คือ พวกไม่เอาสถาบัน (คือ โปรประชาธิปไตย )
มีกองเชียร์ เป็นพวกคนรุ่นใหม่ ที่ไม่เอาสถาบัน
(younger non-royalist)
ถังฝรั่งเขียนแบบนี้ …มองย้อนกลับเหมือนเป็นการชี้นำได้ไหม
ถ้า เอาเจ้า…. ก็ เลือก ทหาร
ถ้า ไม่เอาเจ้า …ก็ เลือก พวกโปรประชาธิปไตย
ถ้าเป็นการชี้นำ …ก็แปลได้ว่า “สาเหตุ”
ที่ถังฝรั่ง หยิบยกเอาการเลือกตั้งของบ้านเรามาให้จับตาดู…
น่าจะมีเป้าหมายไปที่ “สถาบันกษัตริย์ของเรา”
ซึ่งจะทำให้แปลความ ได้ว่า บทความของถังฝรั่ง
เน้น ว่า สถานะ ของสถาบันกษัตริย์ ของบ้านเรา
หรือ การดำรงคงอยู่ ของสถาบันกษัตริย์ …
จะเป็นไปอย่างไร จะมั่นคงแค่ไหน …
ก็ขึ้นอยู่กับ “ผลของการเลือกตั้ง”
ที่จะมีขึ้น ในเดือน พฤษภาคม คศ 2023 ( พศ 2566 )
ซึ่ง นายโจชั่ว ของ CFR (Joshua Kurlantzick)
ยังได้ให้ความเห็น เหมือนชี้นำต่อไปอีก
ว่าถ้าคนบ้านเรา …เลือกทหาร …
การจับมือกัน เพื่อสร้างความมั่นคงหรือผลประโยชน์ร่วมกัน
ระหว่าง ทหาร กับ สถาบัน (military -monarchy complex )
ก็จะเกิดขึ้นมา “อีกครั้ง”
เหมือนการเลือกตั้ง ของประเทศไทยครั้งนี้
ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง ไม่เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครฯ
ไม่เกี่ยวกับนโยบายของพรรคการเมือง
ไม่เกี่ยวกับ การเมืองของประเทศเรา
แต่ เป็นการเลือกตั้ง …ที่เหมือนเป็นโผล๊อก
คือ … ถ้าจะให้ “สถาบันกษัตริย์ของเรา”
ยังมีความมั่นคงและคงอยู่ต่อไป …
ก็ต้องเลือกทหาร หรือ มีทหารร่วมด้วย …ใช่หรือไม่
คำถามต่อไป ทำไมนายโจชั่ว จึง ชี้นำ หรือ ฟันธงเช่นนั้น
ยังไม่เคยมีการเล่นตรงๆ หรือ แม้แต่เลียบค่าย
โดยสื่อตะวันตก ออกสู่สาธารณะ
ว่า “ความมั่นคง” ของสถาบันกษัตริย์ของบ้านเรา
ขึ้นอยู่กับผลของการเลือกตั้ง ในทำนองนี้เลยนะ
นี่เป็นครั้งแรกที่มันทะลึ่งและเสือก ในเรื่องบ้านเราถึงขนาดนี้
การชี้นำฟันธง หรือ การเสือกอย่างนี้
มันเหมือนกับการยุแยงให้คนไทย “เลือกข้าง” ในการเลือกตั้ง
ซึ่งผลการเลือกข้างนั้น…จะมีส่วนเกี่ยวโยง
กับ “ความมั่นคงของสถาบันกษัตริย์”
ผู้เป็นมหามิตร หรือ มิตรแท้ …เขาคงไม่ยุแยงอย่างนั้น
มีแต่มหามิตรจอมปลอม หรือ มหามิตรระยำเท่านั้น
ที่ ยุแยง ให้เกิดการกระทบ ต่อความมั่นคง
ของสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทบ
นี่คือ ข้อ สังเกตแรก ของผม
โปรดตามข้อสังเกตของผม ไปเรื่อยๆก่อนนะครับ
(2)
จาก บทความเรื่อง How U.S Grand Strategy
Is Changed by Ukraine
(อ้างอยู่ในนิทานเรื่องนี้ ตอน 2 และ 3)
สรุปจาก ที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญฯ ได้วิเคราะห์
เกี่ยวกับ ยุทธศาสตร์แห่งชาติ ของอเมริกา นั้น
ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจน …
ว่า อเมริกา มีความไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
กับการ ที่ พวกประเทศ Global South …
ไม่ประกาศเลือกข้าง เกี่ยวกับเรื่องสงครามยูเครน
โดยเฉพาะไม่เลือก อยู่ข้างอเมริกา
(ที่สนับสนุนยูเครนอย่างเต็มอัตรา และ อย่างเปิดเผย)
และ ไม่ทำการประณามรัสเซีย ที่ไปบุกยูเครน
และ หลายประเทศ ก็ยังคบค้า กับรัสเซีย และจีน
โดยเฉพาะ กับ จีน …ซึ่งเป็นพันธมิตรรายสำคัญ
ของพวกประเทศ Global South แทบทั้งนั้น
และ หลายประเทศ ที่อยู่ในกลุ่ม 14 ประเทศ
ของการเลือกตั้งร้อนแรง ในปี คศ 2023 …
ก็เป็นประเทศที่ คบ หรือทั้งคบทั้งค้า …กับ จีน
อย่างใกล้ชิด
ในความคิดของอเมริกา มันจึงเหมือน พวก Global South
กำลังแสดงอาการ แข็งข้อ หรือ เป็น กบฏ ต่อ อเมริกา
และ ไทยเรา ก็เป็น ประเทศหนึ่ง ที่ถูกนับ
ว่า เป็น Global South ที่ ทั้งคบทั้งค้า กับจีน
และ ในบทความดังกล่าว ยังสรุปว่า
อเมริกา มีแนวความคิด หรือ นโยบาย
ที่จะให้ พวกแข็งข้อ บอกมาให้ ชัดๆ …
ว่า จะอยู่กับเรา หรือ จะสู้กับเรา
(with us or against us )
(3)
ส่วน บทความ เรื่อง “ Thailand ‘s Royalist Civil Society
and Anti-American Turn”
ซึ่งบรรยาย (อย่างยาวมาก)
ถึงความสัมพันธ์ ระหว่าง อเมริกา กับ ไทย
ในช่วงสงครามเวียตนาม …
ว่าเป็นเหมือน ประเภทน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า
อเมริกา กับไทย มีไมตรีดีต่อกัน
จับมือกัน เพื่อต่อสู้ กับ พวกคอมมิวนิสต์
ที่อาละวาด อยู่ในบริเวณเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
และ เพราะการที่อเมริกา มาตั้งฐานทัพอยู่ในบ้านเรา
ดังนั้น สถาบันกษัตริย์ของเรา “จึงมีความมั่นคง”
รอดพ้นจากอันตราย ที่มาจากภัยคอมมิวนิสต์
พวกรอยัลลิสต์ (ที่ผมไม่แน่ใจ ว่า ผู้เขียนบทความ
เขาหมายถึงใคร พวกไหน กลุ่มไหน)
จึงแสนจะปลาบปลื้มนัก ที่อเมริกาช่วยปกป้อง
สถาบันกษัตริย์ ของเรา …
แล้วพวกรอยัลลิสต์ ก็เลยมีสัมพันธ์อันดี กับอเมริกา
ตกมาถึงตอนนี้ พวกรอยัลลิสต์ …ถีบทิ้งอเมริกาไปแล้ว…
หันไปคบไปเห็นดีเห็นงาม กับ จีน และ รัสเซียแทน
เพราะ พวกรอยัลลิสต์ มีความเห็นว่า
การกระทำของอเมริกา ในการสนับสนุนให้ทั่วโลก
เป็นประชาธิปไตย ตามวิธีการของอเมริกา…
ไม่มีความชอบธรรม
ความเห็นดังกล่าว ของพวกรอยัลลิสต์ไทย
จึงเปิดทางให้ จีน นำเสนอทางเลือก หรือ แนวทางใหม่ …
ที่ต่างจาก รูปแบบของฝ่ายตะวันตก
คือ เปลี่ยนมาให้ความสำคัญ กับ การมีอธิปไตยของประเทศ
มากกว่า คุณค่าหรือความสำคัญ …
ที่คนส่วนใหญ่ในโลกต้องการ (universal value)
(ซึ่งในความหมายของอเมริกา คือ ประชาธิปไตย)
การเปลี่ยนใจเช่นนี้ ของพวกรอยัลลิสต์
ถูกมองว่า เป็น ความใจแคบ…
ไม่สำนึกบุญคุณ และ ไม่เห็นคุณงามความดี
ของอเมริกา
หรือ กำลังแข็งข้อ กับ อเมริกา !?!
(4)
ถ้าเราเอาเนื้อๆ จากทั้ง 3 บทความ มาเรียบเรียง
สรุปดูความต่อเนื่อง ของเส้นทางความนึกคิด
และ ปฏิกริยาของอเมริกา ที่มีต่อประเทศไทย ในปัจจุบัน
จะเห็นเส้นทาง “ความคิด” ของอเมริกา ดังนี้
1. การเกิดของสงครามยูเครน
2. การไม่เลือกข้างของพวกประเทศ Global South
เกี่ยวกับ เรื่องสงครายูเครน
3. อเมริกาอยากถาม พวกไม่เลือกข้าง
ว่าจะเอายังไงแน่ …with us or against us
จะอยู่กับเรา หรือ จะ สู้กับเรา
4. บ้านเรา เคย นับอเมริกาเป็นมหามิตร
ในช่วงสงครามเวียตนาม
และบ้านเราก็อยู่ในประเภท Global South
และ บ้านเราอยู่ในกลุ่มที่ อเมริกา เรียกว่า Indo Pacific
ซึ่งจะ มีส่วนสำคัญ ในการร่วมต่อต้าน หรือ ต่อกร กับจีน
5. อเมริกา …จัดวาง จีน และ รัสเซีย
เป็นมหาอำนาจที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้าม…เป็นคู่แข่ง ป็นศัตรู
ของอเมริกา
6. ในช่วงสงครามยูเครน บ้านเรายังไม่แสดงตัว
อย่างชัดเจนว่าเอาด้วยกับอเมริกา เกี่ยวกับสงครามยูเครน
ขณะเดียวกัน กลับไปเห็นดีเห็นงาม กับจีน และรัสเซีย
(ข้อเท็จจริงนี้ ได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ นี้เอง
โดยผู้แทนไทยประจำยูเอน ได้ร่วมลงมติให้รัสเชียถอนทหาร
ออกจากยูเครน …ผลจากการทวงบุญคุณหรือยังไง?!)
7. บ้านเราเคยเห็นดีเห็นงาม กับอเมริกา
ในช่วงสงครามเวียตนาม …โดยอเมริกาอ้างว่า
เพราะอเมริกานะ ที่ได้ช่วยพยุงประเทศไทยและสถาบันกษัตริย์
ของไทยไว้
8. ผู้ที่แสดงออกอย่างชัดเจน และ ชื่นชมอเมริกา
ที่ช่วย ปกป้องประเทศไทย และ สถาบันกษัตริย์ของไทย
คือ พวกรอยัลลิสต์ไทย
9. วันนี้ รอยัลลิสต์ไทยเปลี่ยนไป ไม่นึกถึงบุญคุณ
ของอเมริกา และลืมไปว่า อเมริกานั้น เป็นผู้ทำให้
สถาบันทหาร บวกกับ สถาบันกษัตริย์ …มีความมั่นใจ
ว่าจะสร้างความมั่นคง ให้กับประเทศไทยได้
10. วันนี้ พวกรอยัลลิสต์ ไม่เห็นคุณค่า ของการเป็นประชาธิปไตย
ที่อเมริกา เข้าไปช่วยจัดการให้เกิดขึ้นเกือบทั้งโลก
และ ทั่วโลกก็พากันชื่นชม …แต่กลับเปลี่ยนมาให้ความสำคัญ
กับ “การมีอธิปไตยของประเทศ” มากกว่า
การเป็นประชาธิปไตย …ที่คนส่วนใหญ่ในโลกเห็นคุณค่า
และ ต้องการ
ข้อข้องใจอันดับแรกของผม …หลังจากการ ไล่เรียงลำดับ
ความคิดของอเมริกา คือ
“ รอยัลลิสต์” ที่ ทั้ง 2 บทความ อ้างถึงและ/หรือ ลำเลิกใส่นั้น
หมายถึงใครกัน
(บทความลำเลิกบุญคุณ กับ บทความเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
ในบ้านเรา)
ก. ระดับผู้นำกองทัพของบ้านเรา ที่เกือบทุกรุ่น
มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง หรือ มิตรภาพที่พิเศษ ในหลายรูปแบบ
กับ อเมริกา ตั้งแต่ในช่วงสงครามเวียตนามเรื่อยมา
จนถึง ปัจจุบัน ก็ยังมีข่าว เกี่ยวเนื่องกับเรื่องการซื้ออาวุธ …
ข. ชนชั้นนำ อีลิต ปัญญาขน ในบ้านเรา ที่ส่วนใหญ่
จบการศึกษา จากตะวันตก หรือ นิยมเชื่อถือนับถือ แนวการคิด
แนวการบริหารประเทศ …ตามรูปแบบหรือแนวทางของตะวันตก
ชนชั้นนำดังกล่าว …มีอยู่ทั้ง ในภาครัฐ และ ภาคเอกชน
และ มักเป็นตัวแทนส่งเสียงสนับสนุน จัดทำ และดำเนินการ
ตามนโยบาย ไม่ว่า ด้านการวางแผนพัฒนา การบริหาร การปกครอง
การเงินการคลัง การค้า ฯลฯ ของบ้านเรา …ที่เอนเอียง
ไปทางตะวันตกอย่างเห็นชัด
ค. พวก ไฮโซ ในสังคมชั้นสูง ที่ส่วนใหญ่จบการศึกษา
จากตะวันตก และ มีทัศนคติ ที่นิยมเกือบทุกบริบท …
ที่เป็น หรือมาจาก วัฒนธรรมตะวันตก
ง. พวกข้าราชการ ข้าราชบริพาร ที่รับใช้
สถาบันกษัตร์อย่างใกล้ชืด
จ. ประชาชนชาวไทยทั่วไป ที่แสดงความจงรักภักดี
ต่อสถาบันกษัตริย์อย่างเปิดเผย และ ยึดถือพระมหากษัตริย์
แห่งพระราชวงศ์จักรี…เป็นผู้ที่พวกเขาเคารพสักการะสูงสุด
และมั่นคงกับความคิด และ ความประสงค์ให้มีสถาบันกษัตริย์
แห่งพระราชวงศ์จักรี อยู่คู่กับประเทศไทย ตลอดไป
(5)
เมื่อประมวลความคิด และการแสดงออก
ของอเมริกา ผ่านทั้ง 3 บทความของค่ายอเมริกา
รวมทั้ง ดูจากการเลือกประเทศ ที่ให้ตามดูการเลือกตั้งในปีนี้ …
ซึ่งน่าจะเป็น “ช่วงเวลา” ที่อเมริกาต้องการเห็น “การเลือกข้าง”
หรือ ต้องการได้ผู้มารับหน้าที่ เป็นลูกหาบ หรือ ลูกกระเป๋ง
ของตัวเองอย่างชัดเจน
เพื่อจะได้วางยุทธศาสตร์ ขั้นสูงสุดของตัว
ที่น่าจะต้องมีพร้อมในเร็ววันนี้ …หรือ มีแล้ว…
คงเหลือแต่การจัดการ เลือกเอาตัวละคร หรือ หุ่นเชิด
ที่อเมริกา จะสามารถใช้ประโยชน์ บัญชาการ กำกับควบคุมได้
ให้มาเข้าแถว ให้เรียบร้อยเท่านั้น
พิจารณาจากที่ถังฝรั่งเขียนบทความวิเคราะห์
ตัวเก็ง หรือ ตัวเลือก.…ของอเมริกาในประเทศอื่นๆ
จะมีคุณสมบัติ ที่ต้องประสงค์ หรือ ไม่ต้องประสงค์
เหมือนกันทั้งสิ้น คือ
: คุณสมบัติอย่างแรก คือ “ต้องไม่ใช่”
เป็น ผู้ที่นิยม หรือเอนไปทางมหาอำนาจ ที่อยู่ต่างขั้ว
กับ อเมริกา
: ต้องว่าง่าย อยู่ในมืออเมริกา โดยอเมริกา สามารถ
กำกับชักใยได้ง่าย
นอกจากนี้…ในประเทศที่อเมริกา เข้าไปแทรกแซง
เแทนที่จีนได้ยาก… อเมริกาจะใช้วิธี ส่ง “หมากตัวใหม่”
ให้ไปคอยขัดขา เพื่อทำให้ที่ยืนของจีนในประเทศสั่นคลอน
โดยให้สื่อ ค่ายตะวันตกโหมตีปิ๊บ อย่างเอิกเกริก
แต่ถ้าเป็นประเทศ ที่อเมริกา “ยังแทรกแซงได้”
อเมริกาจะคัด “ตัวเลือก” หรือ “หมากเดิมๆ ที่เคยใช้ “
หรือคุ้นเคยในประเทศนั้น ที่อเมริกา “ยังใช้ได้”
สมประโยชน์ของอเมริกา ให้มาออกหน้า …
กลับมาดู ตัวเก็ง ในการเลือกตั้งของบ้านเราในปีนี้
ตามที่ปรากฏเปิดเผยในสื่อสาธารณะ คือ
1. พรรคของพวกลุงข้างบ้าน ไม่ว่า พวกเขาจับมือ หรือปล่อยมือกัน
2. พรรคคนรุ่นใหม่ ที่ แสดงออกว่า ไม่เคารพนับถือ
หรือไม่เอาสถาบันกษัตริย์
3. พรรคของคนอยากกลับบ้าน ที่ต้องได้แลนด์สไลด์
หรือ ถ้าไม่ได้สไลด์จริง…ต้องจับมือ กับอีก 1 พรรค
ข้างต้น…ไม่อย่างนั้น ก็นั่งกินแห้วต่อไปที่นอกบ้าน
ใน 3 ตัวเก็งข้างต้น …อเมริกา “น่าจะอยาก” ใช้ใคร
ในยามจะมีศึกสงคราม ตามความน่าจะเป็น
ในทางยุทธศาสตร์ … อเมริกาคงอยากใช้
ประเภทที่ พูดกันรู้เรื่อง หรือ รู้ใจ … เช่นทหาร
(เหมือนสมัยสงครามเวียตนาม…จับความจากบทความลำเลิก)
ซึ่งเรา ก็ได้เห็นได้ยินข่าว ทั้งเปิดเผยทางสื่อ
หรือ ข่าวกระซิบ แต่ดังไปเกือบทั่วบ้านเรา
ว่า ทหารเบอร์ใหญ่ๆของอเมริกา รวมทั้ง รมต กลาโหม
ของอเมริกา มาบ้านเรา ถี่มาก
บางข่าวลือ… ถึงกับบอกว่า มีการใช้กระทรวงกลาโหมของเรา
เป็นที่นั่งทำงาน …ไม่ต่างกับเป็นกระทรวงกลาโหมของเขาเอง
และ จาก “วิธี” การให้ความเห็นของ ไอ้โจชั่ว แห่ง CFR
อาจแปลความได้ว่า …ทหาร จับมือ กับสถาบัน …
ไม่ใช่สิ่งมันเหน็บแนม…แต่อาจเป็นสิ่ง ที่มัน “อยากได้”
และ ในความคิดของมัน …การจะได้ สิ่งนั้น
มี 2 ทาง …คือ ขู่ คนใช้สิทธิเลือกตั้ง กับ ขู่สถาบัน
(ตาม การตั้งคำถามของผม ในตอน (1)
คือ ถ้าจะให้ “สถาบันกษัตริย์ของเรา” ยังมีความมั่นคง
และคงอยู่ต่อไป ก็ต้องมีทหารร่วมด้วย …ใช่หรือไม่)
ส่วน ตัวเก็ง ที่ถังฝรั่ง เขียนเชียร์ อย่างออกนอกหน้า…
คือ พวกคนรุ่นไหม่ เอาประชาธิปไตย แต่ ไม่เอาเจ้า นั้น
ในเชิงยุทธศาสตร์ …เวลาจะมีศึกสงคราม
คงเอามาใช้สอย เป็นประโยชน์ไม่ได้มาก …
แต่ตัวเก็ง ลักษณะนี้ …ใช้เป็นตัวป่วนเมือง ตัวก่อกวน
สร้างความกวนใจ กวนตีน ฯลฯ
โดยเฉพาะ กับสถาบัน …
คงได้ประโยชน์ไม่น้อย สำหรับอเมริกา
ขึ้นอยู่กับว่า อเมริกา คิดจะป่วนเมืองหรือไม่
ป่วนตอนไหน ป่วนใส่ใคร และป่วนเพราะอะไร
ตังเก็ง ตัวสุดท้าย ที่ผลโพลบ้านเราตอนนี้
บอกว่า กำลังนำลิ่ว …จะเพราะบารมีเก่า หรือจะเพราะอะไร
คนอ่านนิทานก็คงคาดเดาออก ไม่ต้องให้บรรยายมาก…
ดูจะเป็นประโยชน์กับอเมริกาในเชิงยุทธศาสตร์ ไม่น้อยเลย
เพราะสามารถใช้ได้หลายเรื่อง …ผ่านเครือข่ายเก่า
ที่สร้าง และ สะสมไว้ …มีทั้ง ทหาร นักการเมือง
มีไม่เอาเจ้า และเอาเจ้า …
(การแสดงหมอบ …เป็นเรื่องจริง… หรือเป็นการแสดงจริง)
สรุปของตอนนี้ : ถ้าวิเคราะห์ จากข้อเขียน ข้อมูล
รวมทั้งข่าวทั้งเปิดและปิด ของต่างประเทศ และ ในประเทศ
อเมริกา น่าจะไปจับ หรือ แตะมือไว้เรียบร้อยแล้ว
กับ ทุกตัวเก็ง…
(6)
อเมริกา จะเลือกสนับสนุน หรือเลือกใช้ ตัวเก็งตัวไหน
คงขึ้นอยู่กับยุทธศาสตร์ บวก สันดานของอเมริกา
ยุทธศาสตร์ของอเมริกา ชัดเจนในระดับหนึ่ง
ว่า ไม่มีการประนีประนอมกับ อีกขั้วอำนาจแล้ว
การไม่ประนีประนอม …มีโอกาส ยกระดับ เลยขั้นตอน
สงครามตัวแทน อย่างที่กำลังดำเนินอยู่หรือไม่
ดูจากความเคลื่อนไหว ของ ทั้ง 3 มหาอำนาจ
ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นมา
น่าเป็นห่วงว่า การยกระดับ …คงมีขึ้น…
จะยกอย่างช้า หรือ เร็ว และ ยกมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น
สันดานแท้จริงของอเมริกา คือ โลภ กร่าง ใจแคบ ขี้อิจฉา อำมหิต
จากบทความลำเลิก… เห็นได้ชัด ถึงสันดานต่างๆ ของอเมริกา
ถ้าเราประมวลเรื่องยุทธศาสตร์ บวก กับสันดานของอเมริกา
บวก กับความนัยของ 3 บทความ นั้น
จะเห็นได้ว่า มันเริ่มมาจาก ความไม่พอใจของอเมริกา
จากการ “ไม่เอาอเมริกา” ของ พวกรอยัลลิสต์…
และ ไปเอียงอยู่กับ มหาอำนายอีกขั้ว ที่อเมริกามองว่าเป็นศัตรู
(บทความลำเลืก เขียนชีดเจนมาก)
ซึ่งในสายตาของอเมริกา พวกรอยัลลิสต์ เป็นตัวหลัก
ในการแสดงจุดยืน ของประเทศไทย ที่เกี่ยวข้อง
กับ สถาบันกษัตริย์ของไทย
(ซึ่งถังฝรั่ง ก็ด่าพวกรอยัลลิสต์ เหมือนเอาไม้ตีแสกหหน้า
จนเลือดสาดไปแล้ว)
แต่เป้าจริง ของการด่าพวกรอยัลลิสต์ ในบทความลำเลืก
น่าจะ “เลยไปกว่า” พวกรอยัลลิสต์เอง
เรื่องต่อมา คือ บทความของถังฝรั่ง ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
ของบ้านเรา …ซึ่งโยงเอา “สถาบัน” มาเกี่ยวข้องการเลือกตั้ง
โดยการแบ่งแยกฝ่ายเลือก ที่ เน้น หรือ เล่นไปถึงสถาบัน อีก
เหมือนเป้าหมาย ของการเขียนบทความของถังฝรั่ง
เกี่ยวกับ การเลือกตั้งของบ้านเรา
คือ การ ชี้นำ หรือ ชี้ช่อง …
ว่าความมั่นคงของสถาบัน ขึ้นอยู่กับผลของการเลือกตั้ง
เรื่องต่อมา เกี่ยวกับตัวเลือกในการเลือกตั้ง
ซึ่งถังฝรั่ง แบ่งฝ่าย …
โดยแยก เป็นฝ่ายเอาสถาบัน กับ ฝ่ายไม่เอาสถาบัน
ฝ่ายไม่เอาสถาบันนั้น …ค่อนข้างชัดเจน จากพฤติกรรม
ของฝ่ายนี้ ใน 2,3 ปี ที่ผ่านมา
ส่วนฝ่ายเอาสถาบัน …จะมีความเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน
ผมตอบไม่ได้ …แต่ “การจัดการ”
เกี่ยวกับการกระทำที่ไม่เหมาะสม ของฝ่ายเอาสถาบัน(รัฐบาล)
ดูเหมือน จะไม่ได้ผล …ตามที่ควรจะเป็น ?!?
สำหรับผม มันชัดเจน ว่า สื่อของอเมริกา
กำลัง บังอาจ อาจเอื้อม เล่นไปถึง สถาบันกษัตริย์
ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะ ของคนไทยอย่างผม
และ ของคนไทยส่วนใหญ่ ในประเทศไทย
ซึ่งผมเชื่อว่า น่าจะอยู่ในคำจำกัดความ
ที่เรียกว่า royalist ของบทความลำเลิกนั้น ทั้งนั้น
และ การอาจเอื้อมของสื่อต่ายอเมริกา นั้น
จริง ๆ คือ การข่มขู่สถาบัน ทางอ้อม
เพื่อ บีบ ให้สถาบัน เดินตามเส้นทางที่มันต้องการ !
ผมไม่พอใจอย่างยิ่ง และ รับไม่ได้…
กับการแสดงความกร่าง บังอาจ และอาจเอื้อม
ของสื่อจากค่ายอเมริกา …
ที่อเมริกา อ้างว่า ตัวเองเป็นมหามิตร เป็นพันธมิตร
กับไทย ตามสนธิสัญญา ต่างๆ นานาๆ
อเมริกาบังอาจ ทั้งทางตรง ทางอ้อม ต่อสถาบันกษัตริย์
ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของเรา มานานเกินพอ
เกินจะทนแล้วนะ …
ฝ่ายบ้านเมือง ควรใส่ใจในเรื่องนี้กันบ้าง
จะปล่อยให้ต่างชาติ มันกระทบกระเทียบ
ต่อสถาบันสูงของเราไปถึงไหน
หน่วยงานความมั่นคงของประเทศ ไม่สนใจเลยหรือ
กับ การอาจเอื้อม ข้ามเส้น …ของสื่อต่างชาติ ขนาดนี้
ไอ้พวก IO ทำอะไรกันอยู่ หรือ มัวแต่วุ่นวายจับจ้อง
อยู่กับการกระทำ หรือ การแสดงความคิดเห็น ของประชาชน
ที่ไม่เป็นที่ถูกใจ ไม่ชอบใจของฝ่ายรัฐ
หรือ เรา เสร็จ เขา ไปจริงๆ แล้ว
(7)
ผม ไม่รู้ว่า “ พวกรอยัลลิสต์” ที่ทั้ง 2 บทความอ้างถึง
ในการบรรยายถึง ทั้งเรื่องการลำเลิก และ เรื่องการเลือกตั้ง
นั้นหมายถึงใคร
หมายถึง กลุ่มผู้เอาสถาบัน พวกที่เรียกว่าเป็นสีน้ำเงินเข้ม
หรือ อย่างไร …ผมตอบแทนผู้เขียนบทความไม่ได้
ตัวผม จะเป็นรอยัลลิสต์ ตามคำจำกัดความของผู้เขียน
บทความทั้ง 2 หรือไม่ … ผมไม่ทราบ และ ไม่ได้เป็นประเด็น
ผมมีความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ของเรา
อย่างมั่นคง ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตลอดมา
และตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่
ผม เคารพสักการะอย่างสูงสุด ต่อพระมหากษัตริย์
ทุกพระองค์ แห่ง พระราชวงศ์จักรี
และพระมหากษัตริย์ของสยามประเทศทุกพระองค์
ผมเห็นความสำคัญและ คุณค่าของการมีอธิปไตย
ของประเทศเรา อย่างยิ่งยวด อย่างประมาณมิได้
ผม ไม่เคย เคารพสักการะ และเห็นคุณค่า
ของประชาธิปไตยจอมปลอม ที่เกิดขึ้นจากการที่คนบ้านเรา
ถูกพวกมันล้างสมอง ถูกมันต้มอย่างระยำ ตั้งแต่ พศ 2475
จนทำลายพระมหากษัตริย์ของเราไปพระองค์หนึ่ง
อย่างน่าเศร้าใจและเสียดายอย่างยิ่ง
ผมเห็นความจอมปลอม ความบัดซบ
ของมหาอำนาจปากเหม็น มานานแล้ว
เขียนนิทานด่ามันมาหลายปีเต็มที จนจะหมดแรงเขียนแล้ว
มันที่มีแต่ความตอแหล ลวงโลก
เพื่อ หลอกล่อ ทุกวิถีทาง มานานมากแล้ว
ไม่ว่า ผ่านอำนาจอ่อน อำนาจแข็ง บ้าบออะไรของมัน
ให้ชาวโลก ตกเป็นเหยื่อของมัน อยู่ใต้ตีนของมัน
จากสิ่งจอมปลอม ที่มันหยิบยื่น ยัดเยียดใส่หัวเรา
ความจอมปลอม บัดซบของมัน ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ไม่ว่า ใครจะขึ้นมาปกครองมัน …
เพราะมันฝังชิพไว้ใน หัวของผู้นำมันทุกคน
ที่จะต้องทำหน้าที่ เป็นผู้ครองโลก หมายเลขหนึ่งเดียวตลอด
เป็นจิ๊กโก๋ปากซอย จน เป็นจิ๊กโก๋ปากเหม็นเน่า
สันดานบัดซบ อย่างไม่มีวันเลิกลา
และ จนถึงเดี๋ยวนี้ ความจอมปลอม
และ ความบัดซบของมัน ก็ไม่เคยเปลี่ยน
ผมขอถามเพื่อนร่วมชาติของผมหน่อยเถิด
ว่าท่านมีความรู้สึกอย่างไร กับความมีอธิปไตยของประเทศ
มีแผ่นดิน ที่เราสามารถ เรียกได้เต็มปาก
ว่า นี่ คือ แผ่นดิน ของเรา
ในแต่ละวันของเรา วันละ 24 ชั่วโมง
ที่เราทำกิจกรรม นั่ง กิน ยืน เดิน นอน ฯลฯ นั้น
อยู่บนแผ่นดิน ของเรา ทั้งสิ้นนะครับ
แล้วเราไม่นึกถึง ขอบคุณ ชื่นชม ภูมิใจ
และห่วง หวงแหน แผ่นดินของเรา บ้างหรือครับ
เรามีบ้านของเรา เรายังหวง ยังกันรั้ว
ยังห่วง ว่า โจรขะโมยที่ไหน มันจะมาปล้น
มาขโมยของบ้านเราไหม
แค่ใครเอารถมาจอดขวางหน้าบ้าน
เอาขยะ มากองทิ้ง มุมบ้าน ยังด่า
ยังทะเลาะกันเป็นเดือนไม่เลิก
แล้วเราไม่ห่วง ไม่หวงแหน กันเลยหรือ
กับการที่จะมีไอ้ระยำที่ไหน มันจะมายึดครอง
หรือ ใช้อำนาจ เหนือเแผ่นดินของเรา …
(โดยมีไอ้ระยำคนใน เป็นขี้ข้ารับใช้ รองมือรองตีนเขา)
กำลังของแผ่นดิน คือ พลเมือง นะครับ (พละ บวก เมือง)
เป็นกำลัง และ พลังที่ยิ่งใหญ่มาก
ถ้าเรารวมพลังกัน ไม่แตกสามัคคี
ไม่สับสน ไม่ซื่อบื้อ ให้เขาชักจูงเรา ไปทางโน้นทางนี้
เพื่อให้เรา “รวมตัวกัน “ ไม่ติด
พระเจ้าแผ่นดิน คือ เสาหลัก หรือ เสาเอก ของแผ่นดิน
บ้านไหนไม่มีเสาหลักที่มั่นคง บ้านนั้นก็พังง่าย
เสาหลักจะมั่นคง ก็ต้องมีผืนแแผ่นดินที่แข็งแรงรองรับ
เสาหลัก แม้จะแข็งแรงขนาดไหน
ถ้าปักอยู่บนแผ่นดินที่เหลวเละ ก็ตั้งอย่างมั่นคงยาก
เราพลเมืองของแผ่นดิน ถ้ามัวคิดว่า ไม่ใช่ธุระของตัว
ปล่อยให้ไอ้พวกจัญไรที่ไหน มาทำให้แผ่นดินของเรา
เหลวเละเทะ ไม่มีความเข้มแข็ง แน่นหนา
ยวบไปเอนมา ไม่เข้มแข็ง ไม่สามัคคี ไม่ใช้สติปัญญา…
แผ่นดินของเรา จะเป็นอย่างไร
และ เสาหลักของแผ่นดิน จะตั้งอยู่ด้วยความมั่นคงได้หรือไม่
แผ่นดิน ไม่มีพลเมือง ก็ ไม่เป็นประเทศ
พลเมือง ที่ ไม่มีแผ่นดิน ไม่มีประเทศของตนเอง
ก็กลายเป็น เพียงกลุ่มเผ่าพันธ์ ที่เร่ร่อน ไปมา
เที่ยวอาศัยแผ่นดินของคนอื่นเขา อย่างพวกโรหิงญา …
ไม่ได้เป็นพลเมืองของประเทศชาติไหน
กษัตริย์ ที่ไม่มีแผ่นดินจะปกครอง ก็ ไม่ใช่พระเจ้าแผ่นดิน
แผ่นดิน พลเมืองของแผ่นดิน และ พระเจ้าแผ่นดิน
จึงเป็นสิ่ง ที่ต้องมีพร้อม และ เกื้อกูลกันและกัน
พระเจ้าแผ่นดินของเรา ท่านไม่เคยทอดทิ้งแผ่นดิน
และ ประชาชนพลเมืองของท่านเลย …
ท่านมีแต่ความหวังดี คอยช่วยเหลือดูแลช่วยเหลือเราประชาชน
แต่ ระบอบประชาธิปไตยจอมปลอม นั่นสิ ที่ผลักใสท่านออกไป
คิดดูให้ดีนะครับ
อย่าไปหลงไหลได้ปลื้ม เคลิ้มไปกับลมปาก
และ สินจ้างรางวัล ของพวกจอมปลอมตอแหล
ไม่ว่า พันธุ์เทศ พันธุ์ไทย ที่หวังร้าย ต่อแผ่นดินเรา
ไม่ว่า ทั้งต่อหน้า และ ลับหลัง
(ไอ้ลับหลังนี่แหล่ะ อันตรายที่สุด)
นักการเมือง มาแล้วก็ไป… (พร้อมกับความร่ำรวยที่เพิ่มขึ้นอย่างโคตรๆ)
ทหาร มา แล้ว ก็เปลี่ยน …(พร้อมกับ ความร่ำรวยที่เพิ่มขึ้น อย่างโคตรๆ
และ บ้างก็สร้างบารมี ทำทีเกือบจะเทียมเจ้า)
แต่ พระเจ้าแผ่นดิน ท่านไม่เคยทิ้งประชาชนของท่านนะครับ
สวัสดีครับ
จาก คนเล่านิทาน
26 กุมภาพันธ์ 2566
เชิญแชร์กันตามสบาย ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า และโปรดให้เครดิตด้วย
ภาพประกอบจากกูเกิล
- 24
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
