27 ก.พ. 2023 เวลา 16:55 • หนังสือ

แฮร์รี่ พอตเตอร์ฉบับหัวขบถ [โหมดเอาจริง]

Ch17: เฟร็ด และ จอร์จ วิสลี่ย์
บันทึกเด็กเปรต
ผมเชื่อว่าในช่วงแรกๆ ที่เราอ่านหนังสือแบบไม่คิดอะไรมาก--เฟร็ดกับจอร์จน่าจะเป็นหนึ่งในตัวละครในดวงใจของใครหลายคนและอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับ the Marauders ผมเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมเป็นคนหนึ่งหนึ่งที่ชื่นชอบฝาแฝดที่น่ารักและซุกซน ทุกครั้งที่พวกเขาปรากฎตัวมันจะสร้างสีสันมากมายให้กับผู้อ่าน อย่างไรก็ตาม ในความน่ารักก็มีความดาร์คอยู่ไม่น้อยเมื่อผมเริ่มย้อนกลับไปพิจารณาเรื่องราวในหนังสือด้วยสายตาที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งบทนี้ผมจะอุทิศให้กับเฟร็ดและจอร์จ
แม้กิจกรรมบางอย่างจะเกินรับไหว แต่นั่นเพราะฝาแฝดค่อนอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์เอามากๆ พวกเขามองโลกอย่างตื้นเขินและมีความรู้สึกว่าสิ่งที่พวกเขาเป็นแค่เรื่องสนุกที่ไม่ได้มีผลร้ายแรงอะไร พวกเขาไม่ได้สนใจต้องการจะทำลายชีวิตของใคร และไม่คิดว่าใครจะหมดอนาคตเพราะพวกเขาได้ ซึ่งต่างจากตัวกวนที่มีความแน่วแน่ในการทำลายชีวิตคนๆ หนึ่งแบบว่า "ตายไปเลยก็ได้นะ แค่อย่าให้พวกกูเดือดร้อนจากการตายของมึงก็พอ" ดังนั้นผมเลยสามารถพูดได้เต็มปากว่าฝาแฝดไม่ใช่คนชั่ว
หรือพูดให้ชัดฝาแฝดทำสิ่งเหล่านี้เพื่อเสียงหัวเราะและคิดว่าคนที่พวกเขาแกล้งก็สนุกกับมัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเล่ม 2 ที่พวกเขาพยายามปลอบใจแฮร์รี่โดยการเดินนำแฮร์รี่แล้วประกาศว่า "หลีกทางให้ทายาทสลิธีรีน!!" แน่นอนว่าวิธีการนั้นห่วยแตกมาก-อาจจะทำให้คนหลงประเด็นว่าแฮร์รี่คือทายาทสลิธีรีนได้ (เอ่อ.. จริงๆ แฮร์รี่ก็คือทายาทสลิธีรีนนั่นแหละ) หรือที่พวกแกปลอบจินนี่แบบยิ่งปลอบยิ่งประสาทแดกกว่าเดิม แต่เจตนาก็คือการปลอบใจจริงๆ พวกเขาคิดอย่างบริสุทธิ์ใจว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้แฮร์รี่และจินนี่รู้สึกดีขึ้น
สิ่งที่เป็นหลักฐานยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายก็คือพวกเขาเอาจริงเอาจังกับการวางแผนสร้างร้านขายสินค้าเพื่อความสนุกสนานซึ่งสินค้าดังกล่าวก็จะมุ่งไปทางแกล้งกันขำๆ หรือหยอกเล่น หากเทียบกับร้านมักเกิ้ลเราสินค้าก็คงคล้ายๆ อึปลอม หมอนเหี้ย เบาะผายลม อะไรแบบนั้น ฝาแฝดก็ไม่ได้พึ่งคิดเอาส่งแต่มีการคิดทบทวนมานานแล้วพวกว่าเขาอยากทำอะไร และการแกล้งคนของพวกเขาก็เห็นได้ชัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการคิดค้นเกี่ยวกับสินค้าที่พวกเขาจะนำมาขาย
ดังนั้นคงไม่ผิดที่จะพูดว่าฝาแฝดฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์ และมีหัวนักธุรกิจ แถมมองการไกลเอามากๆ อย่างไรก็ตามจะให้ผมอวยไปทุกอย่างก็คงไม่ใช่นะ ไม่ใช่ว่าจะต้องพยายามพูดเพื่อให้ฝาแฝดเป็นตัวร้ายถึงจะเข้าแก๊บนะ แต่เนื่องจากผมสนใจที่จะตีความคำพูดของ JK Rowling ที่ว่า 'เธอฆ่าเฟร็ดเพราะเขาเป็นคนที่โหดร้ายมากกว่าและทำให้จอร์จกลายเป็นคนที่เปราะบาง'
เป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากป้า
จากตรงนี้จะเห็นว่า JK Rowling น่าจะวางแผนที่จะฆ่าหนึ่งในฝาแฝดมาตั้งแต่แรกโดยมองไปที่พลวัตของความสัมพันธ์ เธอยอมรับกับแฟนๆ อย่างไม่ลังเลว่าฝาแฝดมีจิตใจอำมหิตผิดมนุษย์เมื่ออยู่ด้วยกัน และในที่แปะไว้เธอยังระบุด้วยวาเฟร็ดเป็นผู้นำที่นิสัยโหดร้ายกว่า แต่เมื่อผู้นำตายผู้ตามก็จะเสียขวัญ--ทำให้ผู้เขียนสามารถใช้การไว้ทุกข์หรือความโศกเศร้าเป็นข้ออ้างที่จะให้ตัวละครหยุดพฤติกรรมได้โดยที่ผู้อ่านไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจดังที่เราพบว่าแม้จะเปิดร้านเกมกลวิสลี่ย์แต่จอร์จไม่สนใจจะแกล้งใครอีก
พลวัตความสัมพันธ์นี้เป็นแบบเดียวกับที่ถูกแสดงในความสัมพันธ์ของกรินเดวัลด์และดัมเบิลดอร์ และต่อมาเจมส์กับซิเรียส กรินเดวัลด์มีเป้าหมายที่จะปฏิวัติโลกและดัมเบิลดอร์ให้ความร่วมมือแลดูเหมือนจะเห็นด้วยเพื่อให้คนรักพอใจ ตัวกวนก็เช่นกัน--เจมส์เป็นคนที่เกลียดและคุกคามสเนปอย่างไร้มนุษยธรรมและซิเรียสก็พลอยเกลียดสเนปไปด้วยโดยไม่มีเหตุผลอะไรเลย--แถมว่าตามตรงความขัดแย้งบนรถไฟระหว่างเจมส์กับสเนปเริ่มขึ้นเพราะสเนป 'ปกป้องซิเรียสที่ถูกเจมส์ดูหมิ่นเพียงเพราะมาจากครอบครัวสลิธีรีน' ด้วยซ้ำ
ในช่วงแรกเด็กสองคนนี้คือตัวแสบของพ่อแม่ แต่เมื่อพวกเขาเข้าเรียนที่ฮอกวอร์ตพวกเขาก็เริ่มขยายโครงการของพวกเขาไปสู่คนอื่นๆ ด้วย เฟร็ดจะเป็นผู้นำที่ค่อนข้างโหดและจอร์จคือผู้สนองพระบรมราชโองการ ผลที่ตามมาจึงเป็นความวายป่วง ซึ่ง... เอ่อ... โอเค! ผมเข้าใจแหละว่าทุกคนรักฝาแฝดวิสลี่ย์และอยากเรียกพวกเขาว่าเป็นแค่ "เจ้าเด็กแสบที่น่ารัก" แต่... ผมอยากให้ทุกท่านทำใจโล่งๆ และลองคิด... ซึ่งผมขอรวบรวมมาแค่ 7 ข้อที่พอจะนึกออกตอนนี้โดยไม่ลำดับเวลา
1ไล่ปาลูกบอลหิมะใส่ควีเรลล์ พวกเขาไม่ได้ทำมันเพราะรู้ว่าควีเรลล์มีโวลเดอร์มอร์อยู่หลังหัวหากแต่เพราะเห็นควีเรลล์ พูดติดอ่าง เป็นคนพิการที่ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าอยู่อย่างสงบ
2แกล้งให้ดัดลี่ย์กินลูกอมลิ้นล้น (ไม่ได้บอกว่าไม่สมควรได้รับ) หากพ่อแม่ไม่ได้มาด้วย ดัดลี่ย์อาจจบที่การเฉือนลิ้นทิ้ง
3ทดสอบ Skiving Snackboxes กับเด็กปีหนึ่งที่ไร้เดียงสาที่ต้องการเรียนรู้เวทมนตร์และคงไม่ต้องการเป็นเหยื่อของขนมแปลกๆ
4ใส่ด้วงลงไปในซุปของเพอร์ซี่ ซึ่งพิษของมันอาจจะฆ่าเขาได้
5โห่ไล่เด็กที่ถูกคัดไปสลิธีรีน (ดูเหมือนจะเกลียดสลิธีรีนมากจริงๆ)
6ใส่นักเรียนคนหนึ่งลงใน Vanishing Cabinet ที่พังโดยรู้แก่ใจดีว่าเขาอาจจบลงอย่างเลวร้ายเช่นถูกฆาตรกรรม หรือลงเอยผิดที่ ไม่ได้บอกว่าเด็กคนนี้ไม่สมควรได้รับหรอกแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าอันนี้ความอำมหิตสเกลเดียวกันกับซิเรียสตอนส่งสเนปไปเพิงโหยหวนเลย
7เอาดอกไม้ไฟ Filibuster ใส่ปากซาลาแมนเดอร์ (ทำร้ายจิตใจคนรักสัตว์มาก)
เอาล่ะ ผมไม่ได้จะบอกว่าเฟร็ดและจอร์จเป็นลูกซาตานส่งมาเกิดหรอกนะ แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่าการเล่นสนุกของพวกเขาเกินเหตุและหลายอย่างอำมหิตด้วย คำถามคือทำไมเฟร็ดกับจอร์จจึงมีจิตใจที่โหดเหี้ยมอำมหิตอย่างที่แม้แต่ตัวผู้เขียนอย่าง JK Rowling ก็ยังไม่ปฏิเสธ แถมยังจัดการในตอนจบด้วยการฆ่าคนพี่ตัดหูคนน้อง ตรงนี้เราจะมาดูพร้อมๆ กัน
รอนอธิบายกับแฮร์รี่ในเล่ม 6: เจ้าชายเลือดผสม ว่า "...when I was about five. I nearly did too, I was holding hands with Fred and everything when Dad found us..." ผมไม่คิดว่าจำเป็นจะต้องยกมาทั้งหมด แต่เพียงพอที่จะเห็นบริบทของสถานการณ์คือ รอนอายุแค่ 5 ขวบ และเรารู้ว่าฝาแฝดอายุมากกว่ารอนแค่ 3 ปี แปลว่าพวกเขาอายุราวๆ 8 ขวบ และโดยบริบทของสถานการณ์เรารู้ว่าเฟร็ดคือผู้นำเพราะเขากุมมือกับรอนนั่นหมายความว่าเขาจะเป็นผู้เรียกร้องคำมั่น ขณะที่จอร์จเป็นผู้ตาม--แค่ทำหน้าที่ผูกมัดทั้งคู่
และสิ่งที่สนใจคือเด็กอายุแค่นั้นมีแนวคิดที่จะผูกพันธ์เด็กอีกคนโดยทำให้เขาถึงตายถ้าผิดสัญญา เฟร็ดไปเอามาจากไหน? จริงอยู่ว่าเราสามารถคิดเอาเองว่าพวกเขายังเด็ก ไม่น่าใช้เวทมนตร์ได้ดีนัก และไม่น่าทำสำเร็จด้วย แต่ปฏิกิริยาของอาเธอร์กลับรุนแรงมาก เขาโกรธอย่างที่ไม่เคยเป็นและลงโทษเฟร็ดอย่างน่ากลัวมากโดยรอนกล่าวว่า "Fred reckons his left buttock has never been the same since" ทำไมอาเธอร์โกรธและลงโทษลูกชายอย่างโหดร้ายเช่นนั้น? ทำไมไม่แค่พูดตักเตือน
นั่นทำให้ผมสงสัยว่าฝาแฝดน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์หรือส่อแววอัจฉริยะตั้งแต่เด็กจึงทำให้อาเธอร์เห็นความเป็นไปได้ที่จะได้ผล? หรือบางทีปฏิญาณไม่คืนคำอาจจะเป็นชนิดของเวทมนตร์แห่งความปรารถนาหรือศาสตร์มืดโบราณที่ไม่มีความซับซ้อนจนแม้แต่คนที่เกือบเป็นสวิปก็สามารถทำได้? หรืออาเธอร์อาจจะแค่เกลียดศาสตร์มืดมากเกินกว่าจะยอมอ่อนข้อให้แม้แต่กับลูกชายที่อายุเพียงแปดขวบ?
ส่วนตัวผมค่อนข้างเชื่อว่าเป็นข้อแรกเนื่องจาก เพราะช่วงนี้แหละที่รอนทำไม้กวาดของเฟร็ดหักโดยไม่ตั้งใจและเฟร็ดเอาคืนด้วยการเปลี่ยนตุ๊กตาหมีของรอนให้กลายเป็นแมงมุม--ตรงนี้ขอให้ท่านผู้อ่านติ๊กไว้ด้วยว่าฝาแฝดอายุแค่ 8 ขวบแต่สามารถใช้เวทมนตร์ที่มีความซับซ้อนระดับ OWLs หรืออาจะ NEWTs ได้ ดังนั้นอย่าแปลกใจที่อาเธอร์เชื่อว่าฝาแฝดจะมีความสามารถที่จะให้ทำปฏิญาณไม่คืนคำเป็นผลได้ ฝาแฝดนั้นเป็นอัจฉริยะจนผมเสียดายที่ครอบครัวของพวกเขายากจน
ไม่งั้นเฟร็ด-จอร์จคงไปได้ไกลมาก!!
แต่ไม่ว่าเหตุผลที่แท้จริงจะเป็นอะไรแต่การที่เด็กตัวเล็กๆ แบบนั้นถูกลงโทษหนักขนาดนั้นมันต้องเกิดเป็นแผลใจแน่นอน โดยจิตวิทยาทั่วไปมนุษย์จะมีกลไกในการรับมือกับปัญหา อาเธอร์ต้องรู้สึกเสียใจแน่นอนที่ทำร้ายลูกซะขนาดนั้นแต่ในฐานะผู้ใหญ่เขาแสดงความอ่อนแอไม่ได้--ไม่ใช่สำหรับยุคก่อนปี 2000 ดังนั้นหากมองด้วยตา มันจะเหมือนเขาลืมและผ่านมันไปได้ง่ายกว่าเฟร็ดแน่ๆ ขณะที่เฟร็ดจะฝังใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและจอร์จก็เช่นกัน ทุกคนอาจคิดว่าพวกเขาลืม
แต่ถามจริงๆ มันลืมง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?
เราทุกคนไม่ได้มีจิตสำนึกเดียวหากแต่ 2 จิตสำนึก เพราะสมองทั้ง 2 ซีกมีจิตสำนึกเป็นของตัวเอง แต่ที่เราไม่รู้สึกว่าเรามีสองคนในร่างเดียวเพราะสมองทั้ง 2 ซีกสื่อสารกันตลอดเวลาผ่านสะพานเชื่อมที่เรียกว่า corpus callosum โดยที่ในสมองทั้ง 2 ซีกนี้ก็จะมีเพียงซีกเดียวที่ควบคุมด้านภาษาและอธิบายสิ่งต่างๆ นั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่เรามักไม่เข้าใจสิ่งที่เราต้องการจริงๆ ซึ่งเราจะเห็นความเป็นเอกภาพของสมองทั้งสองชัดในผู้ป่วยที่มีภาวะ Split-brain ที่สะพานเชื่อมระหว่างสมองสองซีกขาดออกจากกัน
ทีนี้ลองนำหลักการนี้มาใช้ ผมพบว่ามันช่วยไม่ได้จริงๆ ที่จะพิจารณาว่า "ณ จุดนั้นเฟร็ดจะมองว่ารอนคือสาเหตุของเรื่องทั้งหมด แต่เขาคิดว่าเขาลืมและให้อภัยแล้ว และสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นเพียงรูปแบบของการเล่นตลกหรือแกล้งขำๆ" ดังต่อไปนี่
รอนอายุ 5 ขวบ ฝาแฝด ฝาแฝดได้เปลี่ยนตุ๊กตาหมีของรอนให้กลายเป็นแมลงมุมจนรอนเป็น Arachonophobia ตลอดชีวิต, เอาพัฟสกินซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของรอนไปตีแทนลูกบลัดเจอร์ ผมไม่สนหรอกว่ามันจะทนมือทนตีนแค่ไหน (Official ชัดเจนว่ามันทนต่อการจับโยนไม่ใช่การถูกตี) แต่เราเดาได้แหละว่ามันถูกตีจนตายเพราถ้าไม่งั้นรอนคงบอกแล้วว่ามันหนีไป แล้วต่อมาก็หลอกให้รอนกิน Acid Pops ทำให้น้องชายที่น่าสงสารซึ่งเวลานั้นยังไม่เข้าโรงเรียนด้วยซ้ำถึงกับปากพอง--ลิ้นทะลุ นี่เป็นเพียงบางส่วนที่รอนเลือกเล่าให้ฟัง
หน่้าตาของน้องพัฟสกินที่ทำให้ฝาแฝดดูสารเลวขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ("- -)
รอนน่าสงสารกว่าแฮร์รี่เยอะ ("- -)
แต่สิ่งที่เรามองข้ามไม่ได้คือ ขณะที่รอนเล่าเรื่องลูกอมรสกรดที่กัดลิ้นเขาจนทะลุ เขาไม่ได้มีรูที่ลิ้นและแฮร์รี่ก็ไม่ได้เห็นมัน เรารู้ว่าการแพทย์ในโลกเวทมนตร์มีความ cool ขนาดแฮร์รี่ที่ถูกถอดกระดูกออกไปจนหมดยังสามารถปลูกกระดูกกลับมาได้ในคืนเดียว ดังนั้นเราจะเห็นว่ามันสมเหตุสมผลที่ฝาแฝดไม่รู้สึกว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นเลวร้ายเพราะไม่มีใครพิการหรือตายจากการกระทำของพวกเขา และเท่าที่พิจารณาจากการพยายามทำปฏิญาณไม่คืนคำมีเค้าลางว่าเฟร็ดและจอร์จน่าจะสนใจศาสตร์มืดอยู่ลึกๆ
การลงโทษที่เคยเกิดขึ้นต้องเป็นแผลในใจของอาเธอร์แน่ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยเอาตัวมายุ่งกับการปกครองครอบครัวของภรรยาเพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกเหมือนที่เคยทำร้ายเฟร็ด ดังนั้นสิ่งนี้จะสร้างบาดแผลอื่นให้เฟร็ดและจอร์จด้วยนั่นคือ "พ่อไม่เคยโกรธขนาดนั้นอีกเลย" นั่นแปลว่าศาสตร์มืดและการทำอันตรายต่อชีวิตของรอนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ นี่ทำให้เขาเก็บความขุ่นเคืองลงไปไว้ในจิตใต้สำนึกและชดเชยมันผ่านการเล่นที่เกินขอบเขตซึ่งพวกเขาสามารถอ้างว่าเป็นแค่การเล่นตลกที่ไม่มีอันตราย
ผมเคยกล่าวไว้ในเรื่องราวของเจมส์แล้วเกี่ยวกับ Lucifer Effect ที่หากคนเราได้รับอำนาจที่จะทำบางสิ่งโดยไม่ต้องถูกตำหนิหรือลงโทษพวกเขาจะก้าวข้ามขีดจำกัดมากขึ้นเรื่อยๆ เฟร็ดและจอร์จก็ไม่ต่าง การเล่นตลกของพวกเขาหลายครั้งข้างข้ามขอบเขต และทำให้ผมนึกได้เกี่ยวกับเล่ม 7 ที่แฮร์รี่มองเห็นกรินเดวัลด์วัยหนุ่มในความทรงจำ และรู้สึกว่าเขามีบุคลิกเหมือนเฟร็ดกับจอร์จ ข้อนี้หากมองลึกลงไปเราอาจจะขนลุกเพราะฝาแฝดเป็นอัจฉริยะด้านเวทมนตร์ที่มีความอำมหิตซ่อนอยู่ในความขี้เล่น
และอีกครั้ง.. กลับมาที่คำพูดของ JK Rowling "ฝาแฝดนั้นโหดร้าย" และ "เฟร็ดเป็นคนที่โหดร้ายมากกว่า"
มันบอกอะไรมากจริงๆ อัจฉริยะที่มีพลังเวทย์มหาศาลจะพัฒนาได้ไกลแค่ไหนเมื่อพวกเขาโตขึ้น? โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวันนั้นอาเธอร์ไม่ได้รุนแรงกับพวกเขามากพอและทำให้พวกเขาคิดว่าพวกเขาจะได้รับการอภัยไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นและมันไม่เป็นไร? จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่มีโวลเดอร์มอร์มาเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขา? จะเกิดอะไรขึ้นหากเฟร็ดรอดชีวิตเพราะเรารู้ว่าจอร์จไม่มีวันแยกจากเฟร็ดเหมือนที่ดัมเบิลดอร์ละทิ้งกรินเดวัลด์?
และนั่นเป็นเหตุผลที่ JK Rowling ฆ่าเฟร็ด? มันคือการเหยียบเบรคเหรอ? เธอใบ้บอกเราพอควรว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเฟร็ดยังไม่ตาย--เฟร็ดเหมือนกรินเดวัลด์และจอร์จเหมือนดัมเบิลดอร์ เมื่อพิจารณาถึงนิสัยลึกๆ ที่ซ่อนและศักยภาพที่ผู้เขียนแง้มพราย ดูเหมือนเธอจะสามารถต่อยอดเรื่องราวของเจ้าแห่งศาสตร์มืดคนใหม่ที่ทรงพลังกว่ากรินเดวัลด์หลายเท่าและผู้นำแห่งแสงคนใหม่ที่อาจจะทรงพลังกว่าดัมเบิลดอร์อย่างมหาศาลหากเขาไม่พอใจกับอีแค่ร้านเกมกลวิสลี่ย์
ดังนั้น JK Rowling จึงตัดอนาคตพวกเขาซะ?
ผมไม่คิดว่าผมถูกซะหมดหรอก แต่ถ้าสมมติว่าผมถูก (ย้ำว่าแค่สมมติ) ผมว่าในบรรดาความสูญเสียมากมายที่เกิดขึ้นในนิยายเรื่องนี้ เฟร็ดกับจอร์จคงเป็นอะไรที่น่าเสียดายที่สุด
โฆษณา