28 ก.พ. 2023 เวลา 06:16 • นิยาย เรื่องสั้น

ิทวดปี่..จากนิมิต..

ฉบับย่อ***
นักเดินทางแสวงโชคจากจีนแผ่นดินใหญ่
#กลอนใต้คนใต้แหลงใต้
เมืองซัวเถา อีกชื่อ เรียกซานโถ
เมืองไม่โต ตะวันออก เป็นที่ตั้ง
เป็นเมืองท่า ริมทะเล มีชายฝั่ง
ในตัวเมือง มากคับคั่ง ด้วยผู้คน
เมืองตั้งอยู่ ในมณฑลกวางตุ้ง
ทุกหัวรุ่ง มีจ้าง งานแบกขน
เรือสำเภา เดินทาง ไร้เครื่องยนต์
มากผู้คน แสดงตน เป็นคนงาน
จากเมืองจีน แผ่นดิน ที่แสนไกล
ผ่านเขาใหญ่ ทะเล กว้างไพศาล
เข้ามาแดน พระบรมโพธิสมภาร”
แต่ก่อนกาล เพื่อพึ่ง บารมี
มาอาศัย ผืนดิน ถิ่นสยาม
ที่เลื่องชื่อ ระบือนาม ตามวิถี
เสื่อหนึ่งผืน หมอนหนึ่งใบ ในชีวี
หวังประสบ พบโชคดี ไม่มีภัย
อยู่บนเรือ โครงเครง เคลื่นซัดสาด
แต่มิอาจ เปลี่ยนจิต คิดหวั่นไหว
จากบ้านเกิด โพ้นทะเล มาแสนไกล
ชีวิตใหม่ คงสดใส ได้มีกิน
นั่งคิดถึง ที่บ้าน เมืองซัวเถา
แต่ก่อนเก่า ยากไร้ ม้ายทรัพย์สิน
จำต้องจาก ทิ้งร้าง ห่างแดนดิน
ต้องจากถิ่น เคยทำกิน น้ำตานอง
อยู่เมืองจีน ลำบาก แสนยากเข็น
มองไม่เห็น ความวิไล ใจมัวหมอง
เกษตกรรม ขาดน้ำ ตามคูคลอง
ไม่เรืองรอง อดทน ไปวันๆ
เห็นพ่อแม่ เหน็ดเหนื่อย แสนสาหัส
อัดตคัด จนหนัด ไร้ความฝัน
ญาติพี่น้อง ใครมี ก้าแบ่งปัน
ช่วยเหลือกัน เพื่อชีวัน ได้ยาวนาน
อาศัยอยู่ ในชนบท ที่ห่างไกล
ใช้ไม้ไผ่ ตีให้แตก แล้วมาสาน
ผูกติดเสา กั้นฝา เป็นเรือนชาน
พอเป็นบ้าน มุงข้างบน ด้วยหญ้าคา
มีแปลงผัก เล็กน้อย อยู่รอบบ้าน
ปลูกไว้ทาน ไม่ต้อง ไปซื้อหา
สองพี่ชาย เคยชวนไปตกปลา
แต่ตอนนี้ หมดท่า แล้งเต็มที
น้ำหายาก ต้องประหยัด การใช้สอย
อาบน้อยๆ น้ำไหล รองใส่ที่
ไว้รดผัก รดพืช ฟื้นชีวี
อาหารมี เพิ่มพลัง ทั้งวังชา
สองน้องสาว ชอบช่วยแม่ ทำอาหาร
ปัดกวาดบ้าน ให้สะอาด แลรักษา
สามบาวๆ เที่ยวเขา หาของป่า
ได้เพื่อมา แลกข้าวปลา ให้ครอบครัว
ทั้งสามคน ร่างกาย แข็งแรงมาก
เพราะต้องหนี ความลำบาก ที่มีทั่ว
ฝึกซ้อมมวย การต่อสู้ ระวังตัว
ฟ้ามืดมัว ก็จะกลับ ถึงชายคา
มีพ่อแม่ พี่น้อง หลายท้องปาก
กลัวอดอยาก ไม่ทนหิว ช่วยกันหา
ออกรับจ้าง ทั่วไป ไถดำนา
แลกข้าวปลา ได้มา ก็แค่พอ
พ่อตัวโต ร่างกำยำ ทำงานหนัก
เพื่อลูกรัก เหน็ดเหนื่อย ไม่เคยท้อ
ลูกห้าคน ใหญ่น้อย คอยพนอ
น้ำตาครอ กลัวลูกอด ทำยังไง
หนึ่งสองสาม ลูกชาย ยืนเรียงแถว
ส่วนสี่ห้า ลูกแก้ว สาวสดใส
พ่อแม่รัก ทุกคน หมดฤทัย
รักพ่อแม่ สุดยิ่งใหญ่ ในใจเรา
จวบมาเกิด ซึ่งเหตุ อาเพศร้าย
หิวกระหาย จากมนุษย์ ที่สุดเขลา
แย่งอำนาจ บาทใหญ่ ไม่ราเบา
หลงงมเงา ชาวประชา ก้ามีภัย
ช่วงสมัย สงครามโลก ครั้งที่สอง
ลำคูคลอง ระเบิดลง ดินสั่นไหว
เสียงกรี๊ดร้อง เจ็บปวด ระงมไป
โลกที่เคย แสนวิไล ไม่สวยงาม
พ่อขุดหลุม ให้ลูก ไว้ลงหลบ
ไว้คอยหยบ ให้ปลอดภัย ไม่มองข้าม
ููพวกญี่ปุ่น ยกกำลัง ขึ้นคุกคาม
รัฐบาล ก็ปราบปราม อลวน
ยามหัวค่ำ ต้องดับไฟ ให้สนิท
เพียงน้อยนิด แสงสว่าง จะส่งผล
เครื่องบินรบ ขับเวียน อยู่ด้านบน
มืดมิดมน เค้าไม่เห็น ก็ปลอดภัย
ทำงานพลาง ต้องระวัง ฟังเสียงหวอ
ดังแล้วก็ หาที่หลบ ตรงไหนๆ
ต้องรวดเร็ว ลงหลุม ให้ไวๆ
เสียงเครื่องบิน มาไกลๆ เดียวไม่ทัน..
อยู่สภาพ แร้นแค้น มานานนัก
เห็นควรจัก ชีวิต ต้องเปลี่ยนผัน
ต้องแยกย้าย แต่ละคน ต้องจากกัน
เผื่อสักวัน ได้กลับมา หากไม่ตาย
เมื่อสิ้นสุด สงครามโลก ครั้งที่สอง
บ้านเมืองต้อง พบกับ ความเสียหาย
มีผู้คน อดอยาก กันมากมาย
ความแห้งแล้ง กล้ำกราย ทั่วมณฑล
ทั้งยังเกิด สงคราม ในประเทศ
จึงเป็นเหตุ อพยพ ทุกแห่งหน
ก๊กมินตั๋ง คอมมิวนิสต์ รบพุ่งชน
หลายผู้คน ดิ้นด้น ให้พ้นภัย..
อยู่บนเรือ มีคน มากหลากหลาย
ทั้งหญิงชาย โยกเยก ตามเรือไหว
ต่างพึ่งพา ถ้อยที เห็นน้ำใจ
มีอาหาร แบ่งกันไป พอประทัง
เรือสำเภา ล่องไป กลางทะเล
ลมแรงพัด ถ่ายเท ไม่เห็นฝั่ง
ฝนตกสาด แดดร้อน ไร้กำบัง
จนกระทั่ง หลายคน ไม่สบาย
มีอาการ ปวดหัว เจ็บป่วยไข้
หนาวร้อนกาย อยู่หลายวัน ก็ไม่หาย
มีมากมาย สมุนไพร เก็บไว้ใช้
รักษาได้ จนใครๆ เรียกหมอยา
พ่อเคยสอน เรื่องราว สมุนไพร
ว่าชื่อไหร ตัวไหน ใช้รักษา
แก้โรคไหร ใช้กิน หรือใช้ทา
พ่อบอกมา เขียนตำรา ไว้ทบทวน
ทั้งชีวิต ไม่มีสิ่ง ที่มีค่า
มีตำรา ยาดี ไว้สงวน
ความรู้ดี เหมือนทรัพย์ นับคำนวณ
วิเศษล้วน รักษาคน บุญมากมาย...
ลงเรือที่ หัวท่า นครศรีฯ
ไม่รอรี ขนของ ลงค้าขาย
เป็นคนย้าย ยกขน จนเหนื่อยกาย
พักผ่อนคลาย ตัดสินใจ ไม่กลับเรือ
คิดจะตั้ง รกราก จะฝังจิต
หวังจะใช้ ชีวิต คิดกูลเกื้อ
จะฝังหลัก ปักร่าง จะสร้างเนื้อ
เก็บอดออม ให้เหลือเฟือ เพื่อดำรง
เริ่มตั้งต้น ไม่รู้ ไปทางไหน
เป็นคนใบ้ ยืนวน เหมือนคนหลง
จะพูดจา เสวนา ใช่เผ่าพงศ์
ต้องยืนงง สักพัก ก็ได้ยิน
ใช่เลยเสียง สำเนียง ชาวซัวเถา
คนบ้านเรา ฟังรู้ เสียงท้องถิ่น
จึงพูดคุย เจรจา น้ำตาริน
เกือบสูญสิ้น เรียวแรง หมดกำลัง
เพื่อนจึงชวน เร็วไว ไปที่พัก
เพื่อตั้งหลัก พักผ่อน นอนเอนหลัง
ห้องแถวผุ เรือนไม้ ได้กำบัง
ใช่ลำพัง ชาวจีน มีมากมาย
กรรมกร แบกหาม ตามหัวท่า
สินค้ามา ขึ้นลง ส่งค้าขาย
แค่อดทน ได้อัฐ มาใช้จ่าย
เหนื่อยร่างกาย เดี๋ยวหาย ขอมีกิน
เพื่อนจึงพา ไปสมัคร กรรมกร
หนักเหนื่อยร้อน อดทน แทบใจสิ้น
ไม่ยอมแพ้ แม้กาย ชุ่มเหงื่อริน
จนชาชิน แบกข้าวสาร ผ่านสะพาน
ทำอยู่นาน อดออมได้ ก้าหลายบาท
ความสามารถ สมุนไพร ได้ประสาน
รวบรวมอัฐ เพื่อนบ้านเกิด ก็เปิดร้าน
สั่งสมุนไพร โบราณ จากจีนมา
ส่งทางเรือ มากมาย หลายชนิด
รวมผลิต มากขนาน ไว้รักษา
ทั้งยาชง ยาต้ม ดองสุรา
สารพัด โรคา ก็หายพลัน
คนเจ็บไข้ ป่วยหาย ก็กล่าวถึง
มีชื่อเสียง อื้ออึง ชีวิตผัน
หลวงเห็นดี คราวนี้ สนิทกัน
ต่อจากนั้น ให้เป็นแพทย์ ประจำตำบล
จึงได้ออก หนังสือ ผู้รักษา
ผู้เชี่ยวชาญ โรคยา ให้มีผล
เพื่อเป็นเกียรติ ไว้ประดับ กับตัวตน
ให้ทุกคน เชื่อมั่น ในฝีมือ
ทำหน้าที่ หมอรักษา มาหลายปี
ทั้งตำบล มากมี คนเชื่อถือ
ืหลวงจึงเข้า ปรึกษา และหารือ
ว่าทำปรือ ให้รักษา ถึงชุมชน
จึงเดินทาง ออกไป ในชนบท
ไปทางเรือ คลองคด น่าสับสน
ไปพบปะ ชาวบ้าน พบผู้คน
พบหนึ่งคน นฤมล งามน่าแล
อยู่ประออก ไม่ไกล บ้านบางไผ่
ชื่อนางไหม งามวิไล ดังดวงแข
คนนี้เลย ใช่คู่ครอง ในดวงแด
เพราะงามแท้ แอบมองแม่ ตาเป็นมัน
จึงตกลง ปลงใจ ในดวงจิต
จะของร่วม เคียงชิด แม่จอมขวัญ
คงฝากผี ฝากไข้ ไว้ให้กัน
สองคนพลัน เป็นสามี ภรรยา
ตัดสินใจ สร้างฐานะ ซื้อที่ดิน
ในท้องถิ่น ที่ใคร ไม่ปรารถนา
ทั้งดินดอน ไร่สวน ทั้งทุ่งนา
เพื่อลูกยา อนาคต ได้มั่งมี
แล้วไม่นาน ก็มีลูก ได้ชื่นจิต
ในช่วงนี้ ชีวิต จึงสุขขี
หนึ่งกุมาร อีกสอง กุมารี
สามคนนี้ เหมือนดัง ดวงฤทัย
ชื่อสาวโหมด บาวยิ้ม และสาวสั้ว
วิ่งเล่นทั่ว บางคุระ และบางไผ่
นามสกุล คุระจีน เป็นต้นไป
เกิดจากทวด นี้ไง ใช่ใครเลย
ตอนนี้ลูก เต็มบ้าน หลานเต็มเมือง
มีต่อเนื่อง ทั้งลูกหลาน ที่เปิดเผย
ทั้งยังมี ลูกหลาน ไม่เอื้อนเอ่ย
อย่าเฉยเมย คิดถึงทวด ให้รีบมา
ทวดจะคอย คุ้มครอง จะปกปัก
จะดูแล คอยพิทักษ์ คอยรักษา
ให้สำเร็จ ประสบสุข ทุกชีวา
จงโชคดี ปรีดา กันทุกคน..
#บทกลอนแสนดี
โฆษณา