Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นครพนมโฟกัส
•
ติดตาม
28 ก.พ. 2023 เวลา 14:02 • การเกษตร
เพิ่งรู้! "ดอกทองกวาว" ทำเมนูอาหารทานได้ แถมเป็นสมุนไพรชั้นดี
“...ดอกจานบานแล้วทั่วท้องนา ต้นเดือนกุมภา มีนา เมษายน...” หลายคนอาจเคยผ่านหูหรือได้ยินท่อนฮุกเพลง “ดอกจานประหารใจ” ของอ้ายมนต์แคน แก่นคูน กันไปบ้างแล้ว ก็ถือเป็นเพลงที่โด่งดังมากเลยแหล่ะในช่วงปี 2549 และทุกวันนี้ก็ยังได้ยินเพลงนี้อยู่บ่อย ๆ เห็นต้นทองกวาวทีไรก็อดคิดถึงเพลงนี้ไม่ได้ เพราะมันเข้ากับเรื่องราวซึ่งเมื่อเข้าถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็จะได้เห็น “ต้นทองกวาว” ออกดอกบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณ
จึงทำให้เพลงนี้ยังคงติดอยู่ในหัวของใครหลาย ๆ คนมาตลอด แต่เนื้อหาของวันนี้เราไม่ได้จะมาพูดถึงเรื่องราวที่ไปที่มาเกี่ยวกับเพลงนี้กัน เราจะมาคุยเรื่องราวของเจ้าต้น “ทองกวาว” ที่มันสามารถนำมาทำเป็นเมนูอาหารทานได้ด้วย
ก่อนอื่นต้องบอกว่า เจ้าต้น “ทองกวาว” เดิมมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย มีชื่อสามัญว่า “Flame of the forest, Bastard Teak, Bengal kinotree, Kino tree” ชื่อวิทยาศาสตร์ “Butea monosperma” และอยู่ในวงศ์ “LEGUMINOSAE” เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 10–15 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดรูปทรงไม่แน่นอน ส่วนใหญ่จะกลมหรือเป็นทรงกระบอก ใบประกอบมี 3 ใบ ขนาดไม่เท่ากัน ใบหนาและมีขน ใต้ใบมีสีเขียวอมเทา
เป็นพืชที่กับสภาพดินร่วนซุย แสงแดดจัด ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่งคล้ายดอกถั่ว มีสีแสดแดงหรือเหลือง มีขน มักจะออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์–มีนาคม “ทองกวาว” ยังเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดเชียงใหม่, ลำพูน, อำนาจเจริญ และอุดรธานี มีการเรียกชื่อที่แตกต่างกันออกไป เช่น ภาคกลาง เรียกว่า “ทองกวาว” หรือ “ทองธรรมชาติ” ภาคเหนือ เรียกว่า “ก๋าว” ภาคใต้ เรียกว่า “จอมทอง” และภาคอีสาน เรียกว่า “ดอกจาน” (ต่อไปนี้จะเรียกว่าดอกจาน)
ก่อนหน้านี้คิดว่าเป็นพืชที่ออกดอกให้ความสวยงามความสบายใจ และส่วนใหญ่มักจะเห็นอยู่ตามหัวไร่ปลายนา หรือในหน่วยงานราชการบางแห่ง แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้เห็นคลิปวีดีโอในติ๊กตอก (TikTok) นำ “ดอกจาน” มาผัดทำเป็นเมนูอาหารทาน ซึ่งเราเองไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันสามารถทานได้ ก็มีผู้ติดตามคลิปวีดีโอในช่องติ๊กตอกดังกล่าว ออกมาแสดงความคิดเห็นกันต่าง ๆ นา ๆ
บางคนบอกว่า “เพิ่งรู้ว่ากินได้”, “ตอนเด็ก ๆ เอามาต้มกินเป็นยาแก้เบาหวาน”, “ไม่เคยเห็นผัดกิน มีแต่ต้มกิน”, “ขมมาก ใครที่ไม่ชอบขมอย่าหาทำ ขมกว่าดอกแคร์”, “ดอกไม่ขม แต่จะออกฝาดมากกว่า”, “เคยแต่เก็บไปให้วัวกิน” บ้างก็บอกว่า “จะลองนำมาทำกินดู” และด้วยความที่ยังสงสัยเกี่ยวกับเจ้า “ดอกจาน” จึงได้ค้นหาข้อมูล ซึ่งก็พบว่า มีคนนำมาทำเป็นอาหารทานได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การนำดอกมาทำเป็นเมนูผัด การนำดอกมาทำเป็นยำ (ยำดอกจาน) ส่วนรสชาติก็คิดว่าน่าจะอร่อยและอาจจะชื่นชอบในบางคน
“ดอกจาน” ไม่เพียงนำดอกมาทำเป็นเมนูอาหารได้เท่านั้น แต่ยังพบข้อมูลอีกเยอะมากเกี่ยวกับต้นเจ้า “ดอกจาน” นี้ สำหรับคุณประโยชน์และสรรพคุณ
-ดอก : ต้มดื่มเป็นยาแก้ปวด ถอนพิษไข้ ขับปัสสาวะ
-ฝัก : ต้มเอาน้ำเป็นยาขับพยาธิ
-ยาง : แก้ท้องร่วง
-เปลือก : มีงานวิจัยพบว่า สารสกัดจากเปลือกช่วยเพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้น แต่จะลดจำนวนอสุจิ
-เมล็ด : บดผสมมะนาว ทาบริเวณที่เป็นผื่นคันของผิวหนัง
-ใบ : ต้มกับน้ำ แก้ปวด ขับพยาธิ ท้องขึ้น ริดสีดวงทวาร
-ราก : ใช้ต้มรักษาโรคประสาท และบำรุงธาตุ
ส่วนด้านความเชื่อ พบว่า ต้น “ดอกจาน” เป็นไม้มหามงคลในทางพระพุทธศาสนา เรียกว่า “กิงสุกะ” หรือบางคนเรียกว่า “โพธิญาณพฤกษา” เพราะเป็นร่มไม้ที่พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ประทับตรัสรู้ คนเฒ่าคนแก่เชื่อว่า บ้านใครที่ปลูกต้นทองกวาว (ดอกจาน) ไว้ จะทำให้มั่งมีเงินทอง เพราะทองกวาวเป็นชื่อมงคล หมายถึง มีทองมากมาย ส่วนดอกทองกวาวมีสีเหลืองทองสุกใสเหมือนทองคำ
คนสมัยก่อนจึงนิยมปลูกต้นทองกวาวไว้ในบริเวณบ้านเพื่อสิริมงคลให้กับคนในบ้าน และยังมีธรรมเนียมทิศที่จะปลูกด้วยว่า ให้ปลูกต้นทองกวาวไว้ทางทิศใต้จะเป็นมงคล และให้ปลูกในวันเสาร์ ซึ่งถ้าผู้ปลูกเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ หรือผู้ที่มีศีลมีธรรมก็จะยิ่งเป็นสิริมงคลกับชีวิตมากขึ้นนั่นเอง รู้ประโยชน์แบบนี้กันแล้วจะมีใครนำเจ้าต้นทองกวาว หรือต้นดอกจาน มาปลูกไว้ที่บ้านกันไหมนะ แต่เวลาออกดอกสวยงามจริง ๆ
ข้อมูล :
shorturl.at/qyITY
https://bit.ly/41ubyzA
https://bit.ly/3xVX0LF
เรียบเรียง : นครพนมโฟกัสนิวส์
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย