28 ก.พ. 2023 เวลา 16:50

Rhapsody in August(1991) ยังจำกันได้ไหม กับความเจ็บปวด

Rhapsody in August เป็นหนังของคุโรซาว่าที่ผมเคยดูในโรงภาพยนตร์โอเอ ประตูน้ำ แล้วหลังจากนั้นก็หาดูซ้ำไม่ได้อีกเลย เรียกว่าหายากมากทั้งรูปแบบของวิดีโอ DVD หรือกระทั่ง Blu-ray ขณะที่หนังเก่ากว่านี้ของคุโรซาว่ายังหาง่ายกว่าเยอะ ลองเข้าไปดูในยูทูป ในเว็บออนไลน์ ระบบสตรีมมิ่ง กะว่าหากเจ้าไหนมีหนังเรื่องนี้ให้บริการคงได้เสียเงินแน่ๆ
ปรากฏว่าหาไม่ได้เลยครับ กระทั่งสองวันที่แล้วลองดูอีกครั้งในยูทูป คราวนี้เหมือนคู่กันแล้วต้องได้ดูอีกรอบแน่ๆ มีคนมาลงไว้เป็นซับอังกฤษ ความละเอียดประมาณ 360P แต่พอแก้ขัดได้ด้วยการเลือกรับชมจากเท็บเล็ตที่มีขนาดหน้าจอไม่ใหญ่นัก ปรับความละเอียดจอไม่ให้สูงไปก็พอทำเนาให้หายคิดถึง
แม้คำว่า Hibakusha จะมีมาก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่สอง แต่คำๆนี้ได้กลายเป็นคำที่ใช้เรียกเหยื่อผู้ได้รับผลกระทบจาก ระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิในปี 1945
คนเหล่านี้มีริ้วรอยการได้รับบาดเจ็บปรากฏอยู่บนร่างกายไม่ว่าจะเป็นผิวที่โดนไฟลวกจากความร้อน อาการบิดเบี้ยวหรือพิการทางร่างกาย รวมไปถึงการบาดเจ็บทางใจ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยากที่จะเยียวยาได้ แต่คนปกติที่ไม่ได้รับผลกระทบจากระเบิดปรมาณูทั้ง 2 ลูก เมื่อเวลาผ่านไปหลายสิบปีพวกเขายังจะจำเหตุการณ์ระเบิดปรมณูที่ฮิโรชิมาและนางาซากิได้หรือไม่ หรือมันอาจจะเป็นเพียงเรื่องเล่าที่น่ากลัวซึ่งเกิดขึ้นเหมือนกับนิทาน....กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
อากิระ คุโรซาวาตั้งคำถามถึงสิ่งเหล่านี้ในหนัง Rhapsody in August ที่ออกฉายฉายในปี 1991 ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนังเรื่องรองสุดท้ายก่อนที่เขาจะปิดฉากในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลกด้วย Madadayo ในปี 1993
ในช่วงเวลา 4 ปี ระหว่างปี 1990 -1993 คุโรซาว่ามีหนังออกฉายทั้งหมด 3 เรื่อง คือ Akira Kurosawa's dreams / Rhapsody in August และ Madadayo ซึ่งหนัง 3 เรื่องนี้มองไปแล้วสามารถเข้าชุดกันได้ดี มันคือเรื่องราวที่เหมือนกับบทบันทึกช่วงวัยสุดท้ายของชีวิต คืองานที่ทบทวนช่วงชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมดของตนเอง และนำเสนอออกมา อย่างเรียบง่ายที่สุดแต่สะเทือน อารมณ์อย่างยิ่ง
Rhapsody in August เล่าเรื่องคน 3 รุ่นด้วยกัน นั่นก็คือคุณยายคาเนะที่สามีเสียชีวิตจากระเบิดปรมาณูที่นางาซากิ ส่วนตัวเธอเองก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งนั้น ภาพของระเบิดปรมาณูที่พวยพุ่งขึ้นไปเป็นดอกเห็ดเหนือท้องฟ้าเป็นเสมือนตาดวงโตที่คอยจ้องมา ในขณะที่คนรุ่นที่ 2 ก็คือคนรุ่นลูกของคาเนะ เป็นเด็กญี่ปุ่นที่เติบโตมาในยุคหลังสงคราม และรุ่นที่ 3 ก็คือรุ่นหลาน ซึ่งเป็น ตัวแทนของคนรุ่นปัจจุบัน (1991)
หนังมีเนื้อเรื่องง่ายๆ เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่หลานชายและหลานสาวรวม 4 คนมาอาศัยรวมอยู่กับคาเนะ ในขณะที่ลูกของเธอเดินทางไปฮาวายเพราะได้ทราบข่าวว่า พี่ชายคนโตของคาเนะซึ่งอพยพไปอยู่ฮาวายตั้งแต่ช่วงปี 1920 ป่วยหนัก และติดต่อกลับมาเพื่อให้เธอเดินทางไปฮาวาย ซึ่งเป็นความ ต้องการครั้งสุดท้ายก่อนของพี่ชาย
ขณะที่ชีวิตของพี่ชายที่อพยพไปนั้นก็ได้แต่งงานกับคนอเมริกัน มีลูกมีหลานซึ่งกลายเป็นคนอเมริกาโดยสมบูรณ์แบบ ในมิตินี้มันจึงเป็นการกระทบกันระหว่าง ครอบครัวคนญี่ปุ่นแท้ๆ อย่างคาเนะ กับคนญี่ปุ่นที่มีครอบครัวในต่างแดน โดยเฉพาะเป็นชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นผู้ทิ้งระเบิดที่นางาซากิ และฮิโรชิม่า
พี่ชายของคาเนะมีลูกชื่อคลาร์ก มีหลาน มีธุรกิจร่ำรวย คลาร์กเดินทางมาเยี่ยมน้าสาวหลังจากที่ทราบว่าครอบครัวของน้าสาวโดยเฉพาะน้าเขยเสียชีวิตในเหตุการณ์ทิ้งระเบิดที่นางาซากิ มันจึงเหมือนคนอีกรุ่นหนึ่งที่ไปโตในต่างแดนแล้วกลับมาหารากเหง้าของตนเอง
คุโรซาว่าทำ Rhapsody in August ออกมาได้อย่างเรียบง่ายมาก เขาเน้นความเรียบง่าย ตรงไปตรงมา แต่กลับเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก แต่เป็นความรู้สึกที่ไม่มีการตัดสินว่าอะไรผิดอะไรถูก ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ระเบิดฮิโรชิมาและนางาซากิ คนรุ่นที่เติบโตมาหลังสงครามและคนรุ่นปัจจุบัน รวมไปถึงคนญี่ปุ่นที่ไปเติบโตและกลายเป็นคนต่างแดน เขามองคนทุกกลุ่มด้วยสายตาที่เป็นกลาง เพียงแต่ตั้งคำถามถึงสังคมมนุษย์เราที่ขับเคลื่อนไปด้วยความขัดแย้งและสงคราม
คุโรซาว่าว่าไม่ได้กล่าวโทษอเมริกา ไม่ได้กล่าวโทษคนรุ่นหลังที่หลงลืมเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ไป โดยเฉพาะเมื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านเลยไป 45 ปี (หนังออกฉายในปี 1991 ซึ่งตามเนื้อเรื่อง เหตุการณ์เกิดขึ้นไปแล้ว 46 ปี) เขาไม่ได้คิดแล้วว่าอเมริกาหรือฝั่งตรงข้ามคือต้นตอของโศกนาฏกรรม
เพราะเมื่อเกิดสงครามทั้งฝ่ายตนเองและฝ่ายศัตรูต่างก็เสียชีวิตด้วยกันทั้งสิ้น แต่ต้นตอของทั้งหมดมันก็คือสงครามที่มนุษย์ไม่ว่าจะชาติไหนเป็นผู้ก่อขึ้น ซึ่งถ้าหากมองย้อนไปในหนังก่อนหน้านี้ของเขาก็คือ Akira Kurosawa's dreams จะเห็นได้ว่า ความคิดของเขาในเรื่องของสงครามและระเบิดนิวเคลียร์ มันเป็นเรื่องน่าเศร้าและเป็นโศกนาฏ กรรมของมนุษยชาติ
ปัจฉิมลิขิต : คุโรซาว่ายังคงใช้ธรรมชาติเป็นเสมือนหนึ่งตัวละคร โดยเฉพาะก้อนเมฆ ซึ่งถูกขับเน้นเป็นพิเศษ
โฆษณา