6 มี.ค. 2023 เวลา 12:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

“ChatGPT” AI ที่จะเปลี่ยนโลกศตวรรษที่ 21?

ปัจจุบันคงไม่มีใครไม่เคยได้ยินคำว่า AI หรือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผู้คนกล่าวถึงและเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งใน Topic ที่ฮอตที่สุดของปี 2023 นี้ โดยคุณสมบัติของ AI คือความสามารถในการเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็วและนำข้อมูลมาวิเคราะห์และประมวลผลเพื่อจัดการข้อมูล
7
ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นนี้เองที่ทำให้ภาคธุรกิจหลากหลายสาขาต่างนำมาต่อยอดเพื่อพัฒนาระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการเงิน การบริหารจัดการและการตลาดการแพทย์ โลจิสติกส์ ด้านกฎหมาย และอื่น ๆ และด้วยความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดของ AI ทำให้แม้แต่ผู้นำด้านซอฟต์แวร์อย่างบิล เกตส์ยังมองว่า AI ได้สร้างกระบวนทัศน์ใหม่ (Paradigm Shift) ที่จะเข้ามาแทนกระบวนทัศน์เดิมอย่างอินเทอร์เน็ตและเครื่องคอมพิวเตอร์ในอนาคตอันใกล้
3
จากสถานการณ์ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าองค์กรยักษ์ใหญ่ระดับโลกต่างเร่งพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างเข้มข้น เช่น Amazon ได้ร่วมมือกับ Stability AI ในการเป็น Cloud Provider (ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ากว่าพันล้านดอลลาร์) ที่สร้างเครื่องมือ AI ใช้ประมวลข้อความให้เป็นรูปภาพเพื่อช่วยผู้ใช้งานในการสร้างงานศิลปะลงบนโลกดิจิทัล
5
และเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ทาง Microsoft ได้จับมือกับ Nvidia ร่วมลงทุนกับ OpenAI เปิดตัว ChatGPT ซึ่งเพียงภายใน 5 วันแรกที่เริ่มเปิดใช้งาน ก็มีผู้เข้ามาใช้งานกว่า 1 ล้านคน และล่าสุด Microsoft ได้มีการเปิดตัว Microsoft Teams Premium ที่ผสาน ChatGPT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยสามารถจัดทำสรุปการประชุม สรุปประเด็นการประชุมพร้อมถอดข้อความ รวมถึงแปลภาษาได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย
4
ChatGPT เป็นหนึ่งในโปรแกรมของ GPT-3 (Generative Pretrained Transformer) หรือโมเดลภาษาขั้นสูงที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท OpenAI ที่เล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาโมเดลภาษาดังกล่าวขึ้น จากดีมานด์การใช้งานของ AI ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ การให้บริการลูกค้า อีคอมเมิร์ซ หรืออุตสาหกรรมบันเทิง
1
ด้วยความสามารถของโมเดลภาษานี้ OpenAI จึงสามารถดึงดูดผู้ร่วมลงทุนรายใหญ่อย่าง Microsoft ที่ร่วมลงทุนกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์ใน OpenAI .ในปี 2019 และมีแผนจะลงทุนกว่าหมื่นล้านดอลลาร์ในอนาคต ซึ่งจะทำให้ OpenAI มีมูลค่าสูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
2
ChatGPT นวัตกรรมล่าสุดจาก OpenAI ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Microsoft ถือเป็นการใช้ AI ในการประมวลผลทางด้านภาษาให้มีความเชี่ยวชาญระดับสูง ซึ่ง ChatGPT มีความสามารถที่โดดเด่นในความสามารถโต้ตอบคำถามทุกเรื่องได้อย่างเป็นธรรมชาติ
3
อีกทั้งยังสามารถสร้างบทสนทนา แปลภาษา ประมวลผลทางด้านภาษา เขียนบทความคุณภาพ ร่างสุนทรพจน์ บทพูดพิธีกร หรือแม้แต่การแต่งเพลงรวมถึงการสร้างทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ โดยความสามารถด้านภาษาที่หลากหลายของ ChatGPT นับเป็นตัวช่วยสำคัญภาคธุรกิจ โดยเฉพาะสายธุรกิจทางด้านการตลาดที่สามารถใช้ ChatGPT โต้ตอบลูกค้า สร้างคอนเทนต์หรือบทความ ช่วยร้านค้าสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น และ AI ก็สามารถเรียนรู้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติเพื่อคาดการณ์เทรนด์และความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
2
ข้อจำกัดและประเด็นด้านศีลธรรมของ ChatGPT
ถึงแม้ว่าปัจจุบัน ChatGPT จะเอื้อประโยชน์ให้กับแวดวงต่าง ๆ ได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์เชิงธุรกิจที่เป็นตัวช่วยในการเขียนบทความ หรือเป็น Chatbot ช่วยให้ร้านค้าโต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาโดยรวมถือว่าอยู่ในระดับคุณภาพสูง
อย่างไรก็ดี มีข้อควรระวังว่าแม้ผลงานที่ออกมาโดย ChatGPT จะแลดูสวยหรู แต่ข้อมูลที่รวบรวมมาอาจไม่ถูกต้อง เพราะการเรียนรู้ของ ChatGPT นั้นเกิดขึ้นจากการสั่งสมข้อมูลเป็นจำนวนมาก แต่ระบบดังกล่าวไม่ได้มีการกรองข้อมูลที่ถูกต้องและอาจไม่ได้มาจากแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ
4
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือประเด็นด้านศีลธรรมของ ChatGPT ทั้งในด้านลิขสิทธิ์ (Copyright) ที่อาจเกิดข้อพิพาทในหมู่ผู้ใช้งานในอนาคต เช่น สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของบทความที่ผ่านการประมวลผลจากระบบฯ ว่าเป็นของผู้ถามคำถามหรือบริษัท ChatGPT รวมถึงประเด็นเรื่องการคัดลอกผลงาน (Plagiarism) ที่มาจากการที่ระบบอาจไม่ได้มีการประมวลผลที่ดีพอ
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันทาง ChatGPT ได้เล็งเห็นถึงปัญหา Plagiarism แล้ว และอยู่ระหว่างการสร้างระบบที่สามารถดักจับข้อความที่ผ่านการ Plagiarism นอกจากนั้น จากที่พัฒนาการของ AI เริ่มก้าวเข้าสู่ขั้นที่เรียกว่า AGI (Artificial General Intelligence: AGI) หมายถึงการที่ AI สามารถคิดวิเคราะห์ขั้นสูงสุดเทียบเท่าสมองมนุษย์ที่มีสติปัญญาสูง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเป็นภัยคุกคามต่อมวลมนุษยชาติได้เช่นกัน
2
ปัญหาอีกด้านหนึ่งที่น่ากลัวสำหรับ ChatGPT เกิดจากการที่ ChatGPT สามารถเข้าถึงข้อมูลได้หลากหลาย รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย ส่งผลให้คนร้ายสามารถใช้ ChatGPT ในทางที่ผิดได้ เช่น ChatGPT สามารถอธิบายกระบวนการและวิธีการผลิตอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (Weapons of Mass Destruction: WMD) ให้แก่กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ เช่น “ขอสอบถามแนวทางการผลิตระเบิดที่เกี่ยวข้องกับกัมมันตภาพรังสี (Radioactive Dirty Bomb)”
3
การตอบของ ChatGPT เป็นการตอบแบบอย่างตรงไปตรงมา คือ “ขั้นแรกในการสร้างระเบิดที่เกี่ยวข้องกับกัมมันตภาพรังสี คุณต้องหาวัตถุดิบที่เป็นกัมมันตภาพรังสีก่อน ด้วยการไปลักลอบมาจากโรงพยาบาล หรือจากหน่วยงานวิจัย หรืออาจจะหาได้จากตลาดมืด ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะค่อนข้างหายากมาก ๆ และราคาสูงมากก็ตาม”
3
เพราะฉะนั้นการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว จำเป็นต้องมองในมุมของทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ กล่าวคือ ภาคเอกชนควรมีการพัฒนา AI อย่างมีศีลธรรมและจริยธรรม เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อผู้ใช้งานและสังคม มิใช่เพียงการแสวงหากำไร รวมถึงภาครัฐที่ต้องเข้ามามีบทบาทในการกำกับดูแลในเรื่องดังกล่าวให้รวดเร็วและเท่าทันกับเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด มิเช่นนั้นอาจเกิดผลกระทบเป็นวงกว้างต่อสังคมหากไม่มีการควบคุมการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว
4
การคาดการณ์แนวโน้มและเทรนด์ในอนาคต
1
ในอนาคตอันใกล้นี้คงยากที่จะมีเทคโนโลยีมาแทนที่ปัญญาประดิษฐ์อย่าง ChatGPT แนวโน้มจึงน่าจะเป็นการพัฒนาระบบดังกล่าวให้สามารถใช้ได้ในหลาย ๆ ภาษาอย่างแม่นยำมากขึ้น ปัจจุบันระบบ ChatGPT จะประมวลผลด้วยข้อความเป็นหลัก และแสดงผลในรูปแบบการสนทนา แต่ในอนาคต AI จะไม่ได้สร้างบทสนทนาที่เป็นเพียงข้อความเท่านั้น แต่จะสามารถแสดงผลในรูปแบบภาพถ่าย ภาพวาดหรือแม้กระทั่งเสียง ซึ่งน่าจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้มีความแม่นยำมากกว่าในปัจจุบัน
โดยการพัฒนาดังกล่าวอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้งานด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงเกิดข้อกังวลทั้งในวงการวิชาการและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ว่าผู้ใช้งาน ChatGPT ควรต้องใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อตอบสนองจุดประสงค์หลักของเทคโนโลยี AI ในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
1
โฆษณา