ปัญหาของ Birkenstock ในวันที่ความสะดวกสบายไม่ใช่จุดขายอีกต่อไป
จุดขายของ Birkenstock ที่ยืนหยัดเสมอมานั่นคือ
ขายความเป็น “รองเท้าแตะเพื่อสุขภาพ”
แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อ ไอความเป็น “รองเท้าแตะเพื่อสุขภาพ”
เป็นสิ่งที่แบรนด์รองเท้าแตะในปัจจุบัน สามารถทำได้เช่นกัน
อย่างเช่น Crocs,Flip-Flop ที่ก็ใส่สบาย ดีไซน์หลากหลาย และ โคตรสวย
แต่ไม่ได้หมายความว่าแบรนด์อย่าง Crocs , Flip-Flop
เขาผลิตรองเท้าที่เป็นพื้นไม้ก็อกที่เข้ากับสรีระเท้าของมนุษย์
ที่เหมือน Birkenstock ได้นะครับ (ดังที่เขียนไปใน birkenstockpart2)
แต่สิ่งที่เขาทำได้เหมือน Birkenstock นั่นคือ “ความสบาย” ครับ
ความสบายกับเพื่อสุขภาพนี่ดูเป็นคนละเรื่องนะครับ
ความสบายนี่จะเป็น “ความรู้สึก” ส่วนเรื่องสุขภาพนี่เป็น “ผลจากการใส่”
เช่น ตอนคุณใส่รองเท้าอาจจะสบายมากๆ แต่พอคุณถอดแล้วมีอาการปวดเท้า เป็นต้น
ด้วยความที่ความหมายของภาษามันใกล้เคียงกันมากก็ไม่แปลกนะครับ
ที่นิยามของรองเท้าเพื่อสุขภาพ = รองเท้าที่ใส่สบาย
ทีนี้ลองสมมุติว่าคุณ ปิดตา แล้วลองสวมรองเท้าแตะทั้ง 3 ยี่ห้อ
Birkenstock , Crocs , Flip-Flop
เชื่อว่า Birkenstock ต้องถูกเขี่ยทิ้งเป็นอันดับแรกแน่นอน
เพราะสัมผัสแรกที่เท้าคุณสัมผัสกับพื้นไม้ก็อก มันจะแข็งมากๆครับ
ต้องใช้เวลา “ใส่สักพัก” เพื่อให้พื้นรองเท้าปรับเข้ากับรูปเท้าของคุณ
แต่กับอีก 2 แบรนด์ ไม่ได้เป็นอย่างงั้นน่ะสิครับ
เมื่อเท้าคุณสัมผัสกับพื้นรองเท้าของ Crocs , Flip-Flop
คุณจะรู้สึกสบายเมื่อสวมใส่ในครั้งแรก “ทันที”
แล้วทำไมเราต้อง “ทน” รอใส่ Birkenstock จนกว่าพื้นมันจะนิ่ม ?
ทั้งๆที่เราสามารถเลือกรองเท้าแบรนด์ที่นิ่มได้ “ทันที” เลย ?
นี่เป็นปัญหาข้อแรกของ Birkenstock ที่ลูกค้าในปัจจุบันมีตัวเลือกมากขึ้น
ทำให้ Birkenstock ไม่ใช่รองเท้า “เพื่อสุขภาพ” อันดับหนึ่งในใจที่นึกถึงอีกต่อไป
ปัญหาอีกข้อของ Birkenstock คือมัน “ทนเกินไป” ครับ
Birkenstock เป็นสินค้าคงทน (Durable goods) คือมันมีอายุการใช้งานที่นานครับ
วัสดุของรองเท้าทนมากๆ ทั้งสายคาดหนัง รวมถึงพื้นรองเท้า
(ถ้าพื้นรองเท้าสึกเขามีบริการเปลี่ยนเฉพาะพื้นด้วยนะครับ) คืออายุการใช้งานนี่ 3-10 ปี มีถึงแน่ๆ
(fact : รองเท้า Birkenstock มือสองในสภาพที่เหมือนเหยียบกับระเบิดถ้าเป็นรุ่นยอดนิยม(เช่น Boston,Zurich) ขายต่อได้หลักพันนะครับ)
การที่สินค้ามันทนมากเกินไปนี่เป็นข้อดีสำหรับผู้บริโภคอย่างเราๆ แต่สำหรับผู้ประกอบการ
คงไม่โอเคแน่ๆเพราะโอกาสในการซื้อซ้ำมันจะเกิดขึ้นน้อยมากๆ = ยอดขายก็ไม่เพิ่ม
ก็คือ..ถ้ามันไม่พัง…แล้วทำไมเราต้องไปซื้อใหม่ด้วยครับ ?
ปัญหาที่กล่าวไปข้างต้นจะนำพา Birkenstock ปรับตัวไปสู่การเปลี่ยนสถานะ
จากรองเท้า เพื่อสุขภาพ กลายเป็นรองเท้าแฟชั่น
ซึ่งจะพูดใน Part ที่ 4 ในเรื่องของ
ก้าวต่อไปของ Birkenstock ?
ในวันที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น Birkenstock ปรับตัวอย่างไรให้อยู่รอด ?
ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
