การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
ตามธรรมเนียมปฏิบัติของผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน เมื่อหัวหน้ารัฐบาลของประเทศสมาชิกเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว มักจะเดินทางเยือนประเทศสมาชิกอาเซียนต่าง ๆ เพื่อแนะนำตัวกับผู้นำประเทศอาเซียนอื่นอย่างเป็นทางการเช่นกัน เมื่อวันที่ ๙ – ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม และภริยา ได้เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล เพื่อแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
นายอันวาร์ อิบราฮิม เป็นหนึ่งในนักการเมืองมาเลเซียที่มีบทบาทโดดเด่นมาอย่างยาวนานทั้งในประเทศและในและอาเซียน โดยเคยได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง เช่น รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในรัฐบาลของ ดร. มหาธีร์ โมฮัมหมัด และรัฐมนตรีว่าการอีกหลายกระทรวง
แม้จะพบกับอุปสรรคทางการเมืองมากมายระหว่างทาง แต่ในที่สุด นายอันวาร์ฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคปากาตัน ฮาราปัน (Pakatan Harapun: PH) ได้ชนะการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ทำให้ได้ก้าวสู่จุดสูงสุดในเส้นทางสายการเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ ๑๐ ของมาเลเซีย
การเดินทางเยือนไทยครั้งนี้ จึงมีความสำคัญและน่าจับตามองอย่างมาก โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้พบหารือกับหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
สำหรับภารกิจกับภาครัฐ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างไทยและมาเลเซีย โดยทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าควรยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะด้านพลังงาน ความมั่นคงทางอาหาร และอุตสาหกรรมฮาลาล ซึ่งนำไปสู่การออกแถลงการณ์ร่วม (Joint Press Statement) ของไทยกับมาเลเซีย
บรรยากาศการหารือร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและมาเลเซีย (ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ)
นอกจากนี้ ยังได้เข้าพบหารือกับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยที่มีพื้นที่ติดกับมาเลเซียนั้นเอง ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเชื่อว่าการประสานความร่วมมือของทุกฝ่ายจะนำไปสู่ทางออกที่น่าพอใจได้อย่างแน่นอน
ในด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้เข้าร่วมและกล่าวสุนทรพจน์ในงาน The Future of ASEAN โดยหอการค้ามาเลเซีย - ไทย (The Malaysian - Thai Chamber of Commerce: MTCC) ซึ่งผู้เขียนขอขอบคุณหอการค้ามาเลเซีย - ไทย ที่ให้เกียรติเชิญผู้เขียนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างภาคธุรกิจของไทยและมาเลเซีย และเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับอนาคตของประชาคมอาเซียน ซึ่งผู้แทนภาคธุรกิจหลายท่านเห็นร่วมกันว่า การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายอันวาร์ อิบราฮิม จะช่วยเพิ่มการลงทุนระหว่างสองประเทศมากขึ้น และจะช่วยขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจของมาเลเซียกับไทย และประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ ไปพร้อมกัน
นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ขณะกล่าวสุทรพจน์ ณ งาน The Future of ASEAN (ที่มา: สภาธุรกิจไทย-มาเลเซีย)
สำหรับก้าวต่อไปของอาเซียน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า ในอดีต ประเทศอาเซียนมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และสร้างความเปลี่ยนแปลงอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นนายถนัด คอมันตร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) โดยเชื่อว่า อาเซียนมีศักยภาพที่จะก้าวไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และได้หยิบยกประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่จะต้องแก้ไขร่วมกันต่อไป
ผมเชื่อว่าอาเซียนมีศักยภาพที่จะก้าวไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
ด้านประชาสังคม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้เข้าร่วมละหมาดญุมอะห์ (ละหมาดวันศุกร์) และสนทนากับนักวิชาการและชาวมุสลิมไทย ณ มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ตามที่ท่านผู้อ่านทราบกันดีว่า มาเลเซียเป็นชาติที่มีประชากรมุสลิมขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในอาเซียน และมีดินแดนติดกับภาคใต้ของไทยซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมเช่นกัน การเดินทางเยี่ยมมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทยจึงเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางด้านสังคมและวัฒนธรรมระหว่างผู้นับถือศาสนาอิสลามของทั้งสองประเทศด้วย
นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ขณะเยี่ยมมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย (ที่มา: Twitter @anwaribrahim)
การเดินทางเยือนไทยในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าไทยและมาเลเซียมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง และมีการแลกเปลี่ยนระหว่างกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะในด้านการค้าการลงทุนหรือด้านสังคมและวัฒนธรรม โดยผมในฐานะผู้เขียนเห็นว่า การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาความร่วมมือของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไปทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับก้าวต่อไปของอาเซียนในอนาคต
นายเอกวิทย์ ซอหะซัน
เจ้าหน้าที่ติดตามและวิเคราะห์ข่าว
กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
