2 มี.ค. 2023 เวลา 14:12 • ไลฟ์สไตล์

02-MAR-23

สงสัยเปลี่ยนเวลาเขียน journal ซะดีมั้ย ไม่ต้องเป็น 3-page morning journal แล้ว เป็น evening or night journal ไปเลยละกัน ฮ่าๆๆๆ อยากตื่นสาย และวุ่นวายกับนู่นนี่จนไม่มีเวลามาเขียน journal ตอนเช้าดีนัก
ชีวิตแบบนี้กลับมาอีกแล้วสินะ ที่ต้องจัดสรรเวลาให้กับสุดที่รัก ต้องวางแผน ต้องจัดตารางเวลา ต้องตัดกิจกรรมที่ไม่สำคัญออกไป เพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับเค้าให้ได้มากที่สุด ทุกวันนี้เวลานอนเหลือไม่ถึง 5 ชั่วโมงเลยนะบางคืน เพราะกลับบ้านดึกและต้องตื่นเช้าทำนู่นทำนี่ การมีแฟนมันเหนื่อยขนาดนี้เนอะ แถมยังต้องลดกิจกรรมหรือต้องปรับเป้าหมายการเรียนรู้หลายๆ อย่างออกไป อยากจะ diet ยังยากเลย เพราะเราก็อยากมี moment ไป dinner ดีๆ อร่อยๆ กับสุดที่รัก
แต่พอคิดอีกที อีกไม่นานเค้าจะไม่อยู่แล้ว เราจะมีอิสระและ focus กับตัวเองได้อย่างเต็มที่เหมือนเมื่อก่อน เราเพิ่งรู้ตัวนะว่า ที่ผ่านมาเราวางแผนทำอะไรเพื่อตัวเอง ทำคนเดียว ไม่ได้คิดอะไรเผื่อใครเท่าไหร่ เช่น อยากเรียนนู่นนี่ตอนเสาร์อาทิตย์ เราก็เรียนเลย อยากออกกำลังกายตอนเย็น ตอนค่ำ เราก็ทำได้ อยากทำงานดึกๆ อยากอ่านหนังสือเยอะๆ อยากทำ blog เราก็วางแผนทำเลย โดยไม่ต้องเอาเวลาเราไปให้ใคร (นอกจากงานและเจ้านายจอมป่วน)
พอเรามีสุดที่รัก กิจกรรมหลายๆ อย่างต้องหยุดไปเลยนะ เพราะเราต้องหาเวลาและกิจกรรมทำร่วมกัน เราเพิ่งมารู้ตัวตอนหลังๆ นี้เอง ว่าเราเคยชินกับการอยู่คนเดียวมากเกินไปแล้ว และเรางงกับตัวเองเมื่อเราต้อง break ตัวเองตอนวางแผนทำนู่นทำนี่ เราเป็นคนชอบวางแผนน่ะ แต่พักหลังๆ นี่ พังไม่เป็นท่าเลย
การทำเพื่อตัวเองมันก็ดีนะ มันคือการรักตัวเอง สร้างคุณค่าให้ตัวเอง เรียนรู้และพัฒนาตัวเอง ทำอะไรเพื่อตัวเองให้มันจริงจัง แล้วสิ่งดีๆ จะตามมาเอง แต่การมีคู่รักหรือครอบครัวเนี่ย... มันทำให้ focus เราเปลี่ยนไปจริงๆ เราเลยรู้สึกชื่นชมผู้หญิงที่แต่งงานแล้วและมีลูก และยังต้องทำงาน และทำได้ดีจนเป็นใหญ่เป็นโต เราคิดว่าผู้หญิงเหล่านี้คือเก่งมากๆ ที่เค้าต้องดูแลหลายคนในครอบครัว ทั้งลูก ทั้งสามี แต่ยังทำงานได้ โคตรเก่งเลย
เรามีแฟนแค่คนเดียว ยังจัดสรรเวลาแทบไม่ได้ ไปไม่เป็น แถมหน้าที่การงานก็ยังไม่เติบโตอย่างใจฝันอีก (หรือเราหวังสูงเกินตัวไปเองนะ ฮ่าๆๆ)
วันนี้เจ้านายจอมยุ่งทำนิสัยไม่ดีใส่เราอีกละ หรือจริงๆ เค้านิสัยดี แต่เราร้อนตัวไปเองนะ ฮ่าๆๆๆ ... คือเราแค่รู้สึกว่าที่ผ่านมา เราทำงานเยอะนะ แต่ไม่ได้ credit เท่าที่ควร นายเราข้ามหัวเราไปอวยลูกน้องหมด ให้ลูกน้องเราทำงานนั่นนี่ให้ เหมือนจะไว้ใจลูกน้องเรามากกว่าเรา ลูกน้องเรากูมาดูถูกเราสิ โดยเฉพาะอีลูกน้องคนที่มัน ego จัดๆ อะ ทุกวันนี้มันเห็นเราเป็นหัวหลักหัวตอ ทำไรไม่เกรงใจเราหรอก เหมือนเราเป็นคนใช้มัน เมื่อเช้าซื้อกาแฟกับขนมให้มัน มันยังไม่ขอบคุณเราซักคำ เวน ฮ่าๆๆ
ก็อีกละนะ เราคิดว่า ถ้าเราเข้มแข็งและยืนหยัดและไฝว้แหลก นายเราคงไม่กล้าทำแบบนี้กับเราหรอก แต่เราอ่อนแอไปเอง เราปล่อยให้เค้าครอบงำ แล้วแย่งเอาเวลาอันมีค่าของเราไป แย่งมันสมอง แย่งการเรียนรู้ของเรา แย่งแสง แย่งทุกอย่างของเราไปหลายปีแล้ว เรากลายเป็นคนที่ต้องทำงานตามความฝันของเค้า ทั้งๆ ที่เราโคตรจะไม่ชอบสิ่งที่เค้าอยากเห็นเลย เราแม่งโคตรเกลียดโครงการแบบ ad-hoc งานที่วันๆ เอาแต่สร้างภาพไว้หาเรื่องลงสื่อ หรืองานโครงการพัฒนาสังคมที่แบบ... พัฒนาไปเหอะ ชาติหน้าก็ไม่สำเร็จ เราโคตรเอียนเลย แต่นายชอบไง
พอตอนนี้ เราจะได้เจ้านายคนใหม่ที่มีความรู้ในเรื่องที่เราอยากเก่ง และเราอยากเรียนรู้จากเค้า นี่จึงเป็นโอกาสดีแล้วล่ะ ซึ่งเราก็รู้นะว่า การทำงานกับเจ้านายใหม่คนนี้ไม่น่าง่าย และเราน่าจะประสาทแดกพอสมควรเลย แต่เค้าจะมีความรู้ให้เราอีกมากมาย และเราอยากจะหนีจากเจ้านายคนเดินจอมเพ้อเจ้อซักที เอาเป็นว่า เราคงต้องตั้งสติและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองแล้วล่ะ เรารู้หนิว่าเราต้องการอะไรมากที่สุด เราเคยเขียนไปแล้ว ไหนลองนึกอีกทีซิ
  • 1.
    แสง - เรายังต้องการมั้ย เราเป็นคนหิวแสงมั้ย ตอบมาเล้ยยย ไม่ต้องอาย ... หิวบ้าง ไม่หิวบ้าง เราอยากมีที่ของเรา เราอยากโดดเด่นในเรื่องที่เราสนใจและให้ความสำคัญ แต่เรื่องที่เราไม่สนใจ ใครจะได้แสงไปก็เชิญเถิด
  • 2.
    เงิน - ยังไงเราต้องมีเงิน เราอยากใช้ชีวิตสบาย เงินซื้อความสบาย เงินซื้อการพักผ่อน การท่องเที่ยว เงินช่วยให้เรารู้สึกดีเมื่อเราได้ซื้อของที่ถูกใจ ได้เครื่องประดับสวยๆ ที่ได้ใส่ไปอวดคนอื่น
  • 3.
    ความรู้และความเชี่ยวชาญ - เอาไปเลย เรื่องความยั่งยืน เราต้องเก่งเรื่องนี้ให้ได้นะ จัดหนักไปเลยนะจ๊ะตัวเธอววว
มีเรื่องอะไรอีกนะ ที่สำคัญกับเรา
  • 1.
    เราอยากมีธุรกิจของตัวเอง - ตอนนี้เราจะทำ Page เพื่อออกแบบและขาย journal เราเริ่มแค่นิดเดียวเอง มันจะเป็นธุรกิจที่เราทำด้วยใจ ให้คุณค่าแก่ลูกค้า เพื่อช่วยเหลือลูกค้า เอ้ออ เราอยากทำตุ้มหูเครื่องประดับขายด้วย เกือบลืม
  • 2.
    บ้านและรถ - เราอยากมีบ้านและรถสวยๆ เราต้องจัดสรรเวลาเพื่อจัดบ้านช่องและดูแลบ้านให้ดีนะ เรื่องนี้เห็นชัดๆ แล้วว่าพึ่งพาแม่ไม่ได้เลย แม่เราไม่เอาอะไรเรื่องนี้เลย ถ้าเราไม่ขยับ เดี๋ยวเราจะไม่ได้อยู่บ้านแบบที่เราต้องการน้าาา
สรุปแล้วเนี่ย... ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับสุดที่รักเราเลย ดูสิ ... มันเหมือนกับเป็นเรื่องของตัวเอง ความฝันและความต้องการของตัวเองคนเดียวล้วนๆ และการมีสุดที่รักข้างกายเป็นเหมือนน้ำหอมชะโลมใจให้เราอบอุ่นและมีความสุข แต่การไม่มีเค้า เราก็สามารถทำเพื่อสิ่งที่สำคัญสำหรับเราเช่นกันนะ ทำไมเราไม่เห็นอยากมีคนรักที่ดีเลย ไม่เห็นจะอยากมีลูก อยากเป็นแม่เก่งๆ เตรียมตัวเป็นแม่ หางานแต่งงานในฝัน หาชุดแต่งงานสวยๆ เป็นเป้าหมายเลยล่ะ ทำไมมีแต่งาน เงิน ความรู้ บ้าน รถ ฮ่าๆๆ
แต่ก็เอาเหอะ ถ้าเราทำทุกอย่างได้อย่างที่เราตั้งใจ อะไรดีๆ มันก็เกิดกับชีวิตเรานั่นแหละ เราคือผู้กำหนดชะตาชีวิตตัวเอง เราทำอะไรก็ได้สิ่งนั้น เราตั้งใจมากผลก็ออกมาดีมาก เราทำส่งๆ ผลก็ออกมาส่งเดช เราทุ่มเทมากผลก็จะออกมาอย่างที่เราต้องการ สมกับที่เราทุ่มเท
ถึงเวลาแล้วที่เราจะทุ่มเทเพื่อความรู้ งาน และเงิน ตามที่เราหวังไว้ และสิ่งดีๆ จะตามมาเอง เราต้องอดทน กล้าหาญ เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง เชื่อมั่นในความถูกต้อง กฎระเบียบ การ play fair และสุดท้ายคือ growth mindset อย่าไปกลัวอะไรเลย เวลาชีวิตเหลือน้อยมาก จะมีคนเกลียดเราบ้างไรบ้างก็ช่างมันเถอะ
โฆษณา