3 มี.ค. 2023 เวลา 03:41 • ปรัชญา
ทำความเข้าใจแบบตนคิด แบบไม่ยึดติดศาสตร์ปฏิบัติใดนะ เข้าใจเองว่า
กายภายนอก ร่างกายที่สามารถมองเห็น รูปร่าง เรือนกาย แขนขาตาหู ผิวถายนอกสัมผัสสภาวะแวดล้อมภายนอก กายหยาบ อย่างนี้กระมัง
กายภายใน คืออวัยวะภายใน สำไส้ ฟัน ลิ้น กระเพาะม้ามไต ตับ...ที่อยู่ภายใน
อาหารที่กินเข้าไปและน้ำเมือกต่างๆที่ไหลรินเคลื่อนตัวเคลือบอยู่ในทุกอนูอวัยวะซึ่งหมายถึงตามเข้าไปดูไม่ได้ว่าระบบกระบวนการ ความสัมพันธ์ที่สอดคล้องของอวัยวะต่างๆทำงานอย่างเป็นระบบ
ผ่านสมองสั่งการหรือต่อมไร้ท่อต่างๆที่สมองสั่งการไม่ได้ เราไม่เห็นไม่สามารถแยกแยะได้
เวลานำหลักการมาใช้เมื่อเข้าใจแบบพื้นๆ เขาว่า ตาหู สัมผัสต่างๆเมื่อเราเห็น
ยกตัวอย่างว่าเห็นคนที่ใครๆบอกว่าสวยว่าหล่อ
เขาบอกเราใช้คำว่า"มโนภาพ"
ที่ปรุงแต่ง ถ้าไม่ปรุงไม่แต่งด้วยสมองส่งผ่านจากตา เราก็ควรแยกแยะให้เป็นสังเวทนาได้ เช่นให้มองคนคือโครงกระดูกข้างในกับเส้นเอ็นเส้นเลือด...โอยปลงเกิน
ไปหน่อยเข้าใจแต่ก็อยากปรุงอยู่อ่ะ
กายในกายคงอยากให้คนที่ตระหนักรู้ เวทนาเข้าสู่จิตที่สงบละกิเลส มองว่า
ให้มองคนแล้วแยกที่ละส่วน ไม่มองปรุงแต่งรวม มองเห็นเฉพาะ ตา ลูกตา
มองเห็นคอส่วนนึง มือส่วนนึง ขาส่วนนึง
แล้วจะเห็นอนิจังว่าก็แค่กายหยาบ
แต่ละส่วน ปรุงแต่งเมื่อไหร่ มโนคิดเมื่อไหร่ โอยสติแตกทุกที สมาธิกระจาย
แค่มองปากก็แดงชุ่มอื่ม ตาก็ดูหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า อย่างงี้นี่เอง
ที่ว่า กายในกาย มองไม่เห็นนอกจากเห็นกายหยาบ "กายในกาย" โอยปวดเฮด
ของปรุงขอแต่งขอ มโนระดับปกติก่อนนะครับ เดี๋ยวค่อยไปพยายามปลงสังเวช
แยกส่วนในโอกาสต่อๆไปครับ
โฆษณา